- 23 ม.ค. 2562
นักท่องเที่ยวต่างชาติหิ้ว "ดาวทะเลสีน้ำเงิน" ใส่ถุงกลับมาด้วย หลังจากไปล่องเรือดำน้ำ (คลิป)
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Khanchit Klingklip" โพสต์ภาพและคลิปขณะที่นักท่องเที่ยวชายต่างชาติรายหนึ่ง ได้นำ "ดาวทะเลสีน้ำเงิน" ใส่ถุงพลาสติกนำกลับขึ้นฝั่ง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ระบุว่า
"ณ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา18.00น. ได้รับแจ้งจากเครือข่ายว่ามีนักท่องเที่ยวนำดาวทะเลสีฟ้า หรือปลาดาวสีฟ้า ใส่ถุงหิ้วกลับเข้าฝั่ง ดาวทะเล ต้องมาตายด้วยมือนักทอ่งเที่ยวที่มักง่าย ดูอย่างเดียวไม่พอ ยังจะพากลับขึ้นฝั่งอีก หากปล่อยปละละเลยกันเช่นนี้ แล้วจะอนุรักษ์กันเพื่ออะไร?? แล้วทำไมถึงสามารถพาขึ้นฝั่งเดินลอยละลิ่วสบายใจเช่นนี้ กลุ่มคนที่พาเที่ยวหายไปใหน ทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้าง สมควรแล้วหรือกับสิ่งนี้ จะยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดอีกสักกี่สิบครั้ง ถึงจะพอ ไม่ต้องบอกว่าลูกค้าของใคร แค่เห็นหน้ากันคงจะจำกันได้ หยุดแถอะครับ ช่วยกันหยุดอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกเลยครับ ช่วยกันดูแลครับ เพราะนั้นคือสมบัติของทุกคน อย่าให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้ว ทำลายในส่วนของทรัพยากรที่เรามีอยู่อีกเลยครับ ช่วยกันสอดส่องดูแลแถอะครับ อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้เลยหากเราทุกคนยังคงทำมาหากินกับการทอ่งเที่ยว ปล.ขอขอบคุณเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯที่คอยส่งข้อมูลให้ได้บอกกล่าวกัน"
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่โพสต์ไปก่อนหน้า ต่อมาเจ้าของเฟซบุ๊กได้โพสต์ชี้แจงอีกด้วยว่า "ขอชี้แจงให้ทราบว่าด้วยเรื่องที่โพสต์นี้ ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นทัวร์ใด เกาะไหน เรือลำใด มีไกด์หรือไม่ จึงใครขอท่านอย่าไปดุด่าหรือตำหนิพนักงานของท่านเลย เพราะหลายคนก็ทำดีอยู่แล้ว และขอให้คนเหล่านั้นจงทำดีต่อไป ส่วนใครที่ยังคงเพิกเฉยก็ควรปรับเปลี่ยนเสียใหม่ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง มีเรือมากมาย หลายรูปแบบ อีกทั้งเป็นท่าเทียบเรือที่มีเรือให้บริการนำเที่ยวมากมายหลายเกาะ และที่สำคัญที่นี้ไม่ได้มีเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นของคนเท่านั้น ยังมีผู้ประกอบการที่เป็นชาวต่างชาติมากมาย จึงไม่ขอระบุว่าเป็นทัวร์หรือทริปนำเที่ยวเกาะใด การตีแผ่เพื่อให้หลายฝ่ายอย่านิ่งเฉยกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปล.สิ่งที่ผมโพสต์ตีแผ่ ไม่ได้ทำลายภาพพจน์ของการทอ่งเที่ยว แต่เพื่อให้ทุกคนตื่นตัวมากขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวแบบบูรณาการเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน"
โดยเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาตำหนิทั้งนักท่องเที่ยวและไกด์ รวมถึงเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว หรือบริษัทนำเที่ยวด้วย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ขอบคุณ : เฟซบุ๊ก Khanchit Klingklip