- 12 ม.ค. 2562
"เสริมสุข" สาวไส้หมดพุง ปมใช้ที่หลวงหาเสียง เหน็บหญิงหน่อยก๊กเดียวกันทั้งนั้น ใยไม่ให้ความร่วมมือ ยัน "พท."ชนะเลือกตั้ง-ไม่ต้องพูดถึง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 62 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง"พรรคเพื่อไทย" ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยถูกห้ามให้พื้นที่ปราศรัยที่ จ.พะเยา ว่า ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ทางราชการจะให้ใช้สถานที่ราชการทุกครั้ง เช่น สนามหลวง หรือสนามกีฬาของจังหวัดต่างๆ และเมื่อไม่นานนี้พรรคของฝ่ายราชการก็ใช้สนามกีฬา 700 ของ จ.เชียงใหม่ และใน จ.พะเยา เอง มีการใช้สถานที่ราชการถึง 2 ครั้ง จึงเรียกร้องความชัดเจนจากผู้มีอำนาจ ว่าสรุปแล้วการไม่ให้ใช้สถานที่ราชการนั้น เป็นการไม่ให้ใช้แค่บางพรรค หรือไม่ให้ใช้ทุกพรรค และหากไม่ให้ใช้ทุกพรรค เหตุใดที่ผ่านมาจึงมีบางพรรคการเมืองใช้ได้ แต่บางพรรคใช้ไม่ได้ เรื่องแบบนี้จะมีมาตรฐานและจัดการอย่างไร เหตุใดจึงแตกต่างจากที่พรรคที่สนับสนุนรัฐบาล คสช.
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้รับหนังสืออนุญาตจากทางราชการจนไปตั้งเวทีแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีการแจ้งยกเลิกตอนประมาณ 22.00 น.ซึ่งเรานัดหมายประชาชนได้เวลา 09.00 น.เราไม่สามารถไปยกเลิกคนหลายพันคนได้ทัน ทั้งนี้ เราไม่อยากให้ข้าราชการเดือดร้อน เพราะรู้ว่าเขาถูกบังคับมาจากข้าราชการผู้ใหญ่ ที่โทรมาคุยกับตนว่าได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ใน กทม.ว่าอย่าให้มีการปราศรัยเกิดขึ้นเด็ดขาด เราจึงไม่เข้าไปในสถานที่ซึ่งเขาห้าม แล้วเปลี่ยนมาใช้รถเครื่องเสียงขนาดเล็กแทน พร้อมขออนุญาตพูดคุยกับประชาชน ดูแลมันเป็นการเลือกตั้งที่ไม่แฟร์
อีกทั้ง "คุณหญิงสุดารัตน์" ยังกล่าวอีกว่า "ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของเวที เครื่องเสียงต่างๆ ตัวผู้สมัครอาจจะดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเขาได้รับหนังสืออนุญาตอย่างเป็นทางการ เขาก็ไปลงทุน ลงแรง สร้างเวทีและกางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการฟ้องไปที่หน่วยงานก่อน แล้วหน่วยงานที่ได้รับคำสั่งที่ไม่ชอบมาก็ต้องแก้ต่าง จึงขอความชัดเจน เพื่อต่อไปจะปฎิบัติให้มีมาตรฐาน เราจะได้ทำถูก เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะปรับแผนอย่างไร เพราะเราทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว"
นอกจากนี้ เมื่อถามว่า จะบอกอย่างไรว่าพรรคไม่ต้องการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในลักษณะที่มาแอบติดตาม "คุณหญิงสุดารัตน์" เผยว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ที่ใส่เครื่องแบบ เขามาช่วยดูแลเรา ตนจะเดินไปขอบคุณเขาทุกครั้งที่มาช่วยดูแลเราและประชาชนจำนวนมาก แต่กรณีที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว ก่อนจะมาเกิดขึ้นอีกที่ จ.เชียงราย ซึ่งมีชายฉกรรจ์ซึ่งไม่ปรากฏสังกัด เดินตามพวกเราจำนวนมากไม่ใช่เพียงคนสองคน พร้อมกับเดินไปถ่ายภาพไปทุกจุด เราก็ต้องถามว่า เขาเป็นใคร เพราะคนที่มาตามเรา ก็ไม่ได้มีมากมาย เลขาฯ ส่วนตัวของตนก็เป็นผู้หญิง การที่หน่วยงานราชการจะส่งคนมาอารักขาเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ แม้ว่าเราจะไม่ได้ขอ แต่ถ้าจะให้ดี กรุณาขอให้ใส่เครื่องแบบแสดงตัวให้ชัดเจน ไม่ใช่มาแบบที่เราเป็นโจร เป็นผู้ร้าย หรือมาสะกดรอยตามเราแบบนี้"
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา ออกหนังสือยกเลิกการอนุญาตให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ใช้พื้นที่สนามกีฬา อบจ.พะเยา ปราศรัยกับประชาชน โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่เหมาะสม เป็นสถานที่ราชการ ไม่ควรใช้จัดกิจกรรมทางการเมือง ว่า "แล้วใช้ได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ"
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะเป็นมาตรฐาน ใช้สถานที่ราชการในการหาเสียงไม่ได้ใช่หรือไม่ "พล.อ.ประวิตร" กล่าวว่า ไม่ได้ เขาทำตามกฎหมาย ส่วนทุกพรรคต้องใช้มาตรฐานเดียวกันใช่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องเหมือนกัน .. อีกทั้งเมื่อถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม "คุณหญิงสุดารัตน์" ที่ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมานั้น "พล.อ.ประวิตร" กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ต้องดูแลความสงบในพื้นที่ของเขา มาถามตนได้อย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ ไปถามเขาก็บอกว่าเป็นคนในพื้นที่ จะเอาอะไรอีก และส่วนที่เขาไม่สบายใจนั้น ไม่สบายใจเรื่องอะไร.."
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล "นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี อบจ.พะเยา ออกหนังสือยกเลิกการอนุญาตให้พรรคเพื่อไทยใช้พื้นที่สนามกีฬา อบจ.พะเยา เพื่อปราศรัยกับประชาชน ว่า หากเป็นพื้นที่ส่วนราชการต่างๆ จะต้องมีการขออนุญาตก่อน ส่วนการจะอนุญาตหรือไม่แล้วแต่พื้นที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นของหน่วยงานท้องถิ่น หรือหน่วยงานราชการ เชื่อว่าในอนาคตเรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะเมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง กกต.จะกำหนดว่าสถานที่ใดสามารถปราศรัยหรือกิจกรรมการเมืองได้หรือไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการจัดเตรียมเวทีเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ถือเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ "นายพุทธิพงษ์" กล่าวว่า "วันนี้ยังไม่ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ถือเป็นสิทธิ์ของหน่วยงานในพื้นที่ ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล ดังนั้น เป็นเรื่องปกติในการจะขอใช้พื้นที่ไหนก็ต้องขออนุญาตหน่วยงานนั้นๆ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานว่าจะให้หรือไม่ให้
เมื่อถามว่า มีการพูดกันว่ามีการสั่งการมาจาก กทม.นั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า "รัฐบาลไม่มีนโยบายแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องของ กกต.และยืนยันว่าการจะอนุญาตขอใช้พื้นที่เป็นส่วนรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ เพราะมีผู้รับผิดชอบและมีอำนาจในการอนุมัติอยู่แล้ว .. อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่ารัฐบาลต้องถามไปยังท้องถิ่นหรือไม่ว่าทำไมจะต้องยกเลิก "นายพุทธิพงษ์" ระบุว่า "เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานนั้นๆ ที่ตอนแรกอนุญาตเพราะอะไร และภายหลังไม่อนุญาตเพราะอะไร แต่รัฐบาลไม่ทราบ เขาต้องชี้แจง เพราะเป็นอำนาจของเขา รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีอำนาจไปจำกัดสิทธิใคร"
เรื่องนี้ตอกชัดขึ้นไปอีกเมื่อล่าสุด 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวอาวุธโสสายทหาร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า "เจ๊หน่อยตีปี๊ปโดนกลั่นแกล้งเรียกคะแนนสงสาร ดูข่าวเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์โดนการเมืองระดับชาติกลั่นแกล้งไม่ให้ใช้พื้นที่สนามกีฬาของ อบจ.จังหวัดพะเยา พบปะประชาชนพะเยา ในวันที่ 10 ม.ค. ฟังคำให้สัมภาษณ์ของเจ๊หน่อยแล้วงง เพราะนายกอบจ.พะเยา นาย วรวิทย์ บุรณศิริ คือคนของไทยรักไทยโดยตรง ไม่ใช่คนของพรรคพลังประชารัฐ นายวรวิทย์ เป็นน้องชายแท้ๆของนายวิทยา บุรณศิริ อดีตรมว.สาธารณสุข พรรคเพื่อไทย นายกอบจ.พะเยา อนุญาตให้พรรคเพื่อไทยใช้สถานที่ของอบจ.พบปะประชาชนได้ก่อนหน้่านี้
แต่มายกเลิกคำสั่งในวันที่ 9 ม.ค. ก่อนวันงานหนึ่งวัน สนามเลือกตั้งพะเยา จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเข้มข้น ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้กองนัส กรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย ลงสนามเลือกตั้งในเขต 1 ด้วยตัวเอง มั่นใจงานการเมืองที่ทำในพท.ตลอดช่วงที่ผ่านมาจะสามารถปักธงพรรคพลังประชารัฐในจังหวัดพะเยา ที่พรรคไทยรักไทยกวาดยกส.ส.ในสามเขตมาตั้งแต่ปี 2544 2548 2550 และ 2554 นายทหารในกองทัพภาคที่สาม ซึ่งทำงานในจังหวัดพะเยายอมรับถึงงานมวลชนของผู้กองนัส ลงถึงระดับรากหญ้า มีฐานคะแนนเสียงค่อนข้างมาก “เขต1 มนัส ได้รับเลือกตั้งแน่นอน ส่วนอีกสองเขตยังก้ำกึ่ง การเลือกตั้งครั้งใหม่โอกาสที่เพื่อไทยจะชนะยกจังหวัดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”