- 28 ม.ค. 2562
ทวงคืนสิทธิ!! "ยายเสือน" ชีวิตสุดลำบาก หลายโรครุ้มเร้า หมดสิทธิการรักษา ไร้บัตรประชาชนร่วม 10 ปี!! (มีคลิป)
จากกรณีที่คุณเจนจิรา (นามสมมุติ) แจ้งเรื่องของยายเสือน คุณยายสัญชาติไทย วัย 78 ปี ที่อาศัยอยู่ที่หมู่ 3 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เข้ามาที่ทางเพจ 123 คนดีมีน้ำใจ ว่า ยายเสือน ไม่สามารถใช้สิทธิ์ของทางภาครัฐได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า เบี้ยคนชรา และสิทธิอื่นๆ ที่ประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ควรจะได้รับ เพราะเหตุผล คือ ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน มาร่วม 10 ปีแล้ว
คุณเจนจิรา ส่งเรื่องมาเล่าว่า ยายเสือน ใช้ชีวิตคู่และออกไปสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการรับจ้างทำไร่มันสำปะหลัง ที่เสิงสาง สามีของยายเสือน จึงย้ายชื่อของยายออกจากบ้านที่บุรีรัมย์ หวังไปย้ายเข้าที่นครราชสีมา แต่ด้วยความยากจน ทั้งสองคนจึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานรับจ้าง จนไม่มีเวลาไปติดต่ออำเภอ สุดท้ายสามีคุณยายเสียชีวิต คุณยายจึงกลับบ้านที่บุรีรัมย์
ยายเสือน ได้ถือบัตรประจำตัวประชาชนใบเก่าๆ ของตนเองไปติดต่อเพื่อรับบริการด้านสุขภาพจากรัฐ จึงรู้ว่าบัตรฯ ของตัวเองนั้น ใช้ไม่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปติดต่ออำเภอ ยิ่งทำให้รู้เพิ่มอีกว่า ตัวเองไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังใดๆ เลย แล้ว ยายเสือน พยายามทุกวิถีทางทีจะทำให้ตนเองมีชื่อในทะเบียนบ้าน จะได้มีบัตรประชาชน เพื่อไปรับสวัสดิการต่างๆจากภาครัฐ จนได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน พร้อมทั้งหลักฐานต่างๆที่มีติดตัวให้อำเภอดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายทางราชการ เคราะห์ซ้ำ กรรมซัดคุณยายอีกรอบ เพราะปลัดอำเภอที่รับคำร้องขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านไว้ ได้รับคำสั่งย้าย และแน่นอนว่า เมื่อคนเก่าย้ายไป คนใหม่ก็เข้ามา รวมถึงเอกสารเก่าๆ ก็จากไปด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งเอกสารของยายเสือน จากวันนั้นถึงวันนี้ ตั้งแต่ประมาณปี 2552 จนปัจจุบัน ยายเสือน อายุ 78 ปี ไม่ใช่มีเพียงความชราเท่านั้น แต่ยายเสือนยังมีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ตอนนี้เบาหวานขึ้นตา ทำให้ตามองไม่เห็น หมอรับรองว่าพิการทางสายตา แต่ไม่มีบัตรประชน จึงไม่มีบัตรคนพิการที่จะรับเบี้ยคนพิการ ซึ่งเป็นสิทธิที่ยายเสือนต้องได้รับจากทางรัฐบาล
ทุกวันนี้ยายเสือนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการดูแลตามสภาพของน้องสาว ที่ยากจนไม่ต่างกับตัวยายเสือน ซึ่งยายเสือนใช้บัตรของน้องสาว เพื่อขอรับการรักษาพยาบาล หลายคนมองว่ายายเสือนอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อย่าไปพยายามอะไรเลย รับสภาพเถอะ แต่ยังมีคนที่พยายามทุกวิถีทาง ที่จะเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านให้ยายเสือนให้ได้ จึงจำเป็นต้องตรวจ DNA ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง เป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจ เพราะพยานเอกสารและพยานบุคคลไม่มีแล้ว จะได้หลักฐานการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ ว่ายายเสือน เป็นคนไทย เพียงหลักฐานนี้เท่านั้น ที่จะทำให้ยายเสือนมีชื่อในทะเบียนบ้าน มีบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งปัจจุบันยายเสือนพักอยู่กับน้องสาว คือ ยายเสียม ตรวจมรรคา ที่บ้านหมู่ 3 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
คุณเจนจิรา เล่าอีกว่า เรื่องของยายเสือน เพื่อนที่เป็น อสม.เขียนเรียบเรียงมาให้ ซึ่งเขาเคยเดินเรื่องเพื่อช่วยคุณยาย เมื่อสมัย 10 ปี ที่แล้ว ตอนเขามาช่วยงานที่อนามัย ที่หมู่บ้านนี้ เนื่องจากไม่ได้ความร่วมมือจากผู้ใหญ่ เรื่องเลยไม่ได้ไปต่อ แต่เพื่อนคนนี้มารู้จักกับตนเอง และเห็นว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันกับคุณยาย เลยปรึกษากัน เพื่อนมาเริ่มต้นเดินเรื่องช่วยคุณยายอีกครั้ง เพื่อให้คุณยายได้รับสิทธิ์ที่คนจนคนหนึ่งที่จะควรได้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ม.ค.62 ทางทีมข่าว 123 คนดีมีน้ำใจ ได้ติดต่อไปพูดคุยกับคุณป๋อง (นามสมมุติ) อดีต อสม.ที่เคยหาทางช่วยยายเสือน ตั้งแต่ปี 2552 บอกว่า ตนเองเคยไปเป็นลูกจ้างที่อนามัยสองชั้น และรู้ว่าถ้าคุณยายเสือนไปหาหมอจะต้องใช้สิทธิ์ของน้องสาวแทน เพราะไม่มีบัตรประชาชน แต่ถ้าไปรักษาที่โรงพยาบาลคุณยายเสือนจะต้องใช้สิทธิของคนต่างด้าวเพื่อรักษาพยาบาล หลังจากนั้นตนเองพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยคุณยายให้มีบัตรประชาชน
ในเวลาต่อมา ตนเองได้ระดมทุนเพื่อจะตรวจ DNA ระหว่างพี่กับน้อง เป็นเงิน 10,500
ณ ปัจจุบันไปเช็คเงินได้ 2,800 ที่มีการโอนเงินเข้ามา โดยตอนนี้ปลัดทางทะเบียนอำเภอกระสังได้ประสานหน่วยต่างๆ เพื่อขอเงินสนับสนุน จนได้เงินครบ 10,500 แล้ว ทำให้วันจันทร์นี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 28 มกราคม 62 จะส่งตัวคุณยายไปตรวจ DNA โดยต้องรอผลของ DNA อีก 3 เดือน
นอกจากนี้ คุณป๋อง ยังบอกว่า ตนเองต้องการหาวิธีหลายแนวทางที่จะช่วยยายเสือน ซึ่งในมุนของตนเองต้องการให้ตรวจแบบประชาคมไปเลย เพราะยายอยู่บ้านเดียวกับน้องสาวมาจนอายุ 78 แล้ว ไม่น่าจะมาสวมสิทธิ์ได้ ยืนยันว่า ยังต้องการอยากจะช่วยยายเสือนให้ได้บัตรประชาชนโดยเร็วที่สุด เพราะคุณยายสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อยากให้คุณยายมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตบ้าง
ท้ายสุด คุณป๋อง พูดด้วยความดีใจว่า ต้องขอขอบคุณ 123 คนดีมีน้ำใจ ที่เข้ามาเพื่อจะช่วยเหลือคุณยายให้ได้มีโอกาสมีบัตรประชาชนอีกครั้ง เพื่อจะได้ใช้สิทธิที่ประชาชนคนหนึ่งที่ควรจะได้ แม้จะอยู่ในวัยชราแล้วก็ตาม
โปรดติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจจากยูทูปชาแนล ของสำนักข่าวทีนิวส์ www.tnews.co.th