“ชัชชาติ” หุ่นเชิดการเมืองคนใหม่?..ซ้ำรอย“สมัคร”กว่าจะรู้ก็สายเกินไป!!

สร้างความแปลกใจอยู่พอสมควร หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นรายชื่อสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์   ทั้งหมด97คน โดยไม่มีชื่อของ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีตรมต.ผู้แข็งแกร่งสุดในปฐพี ทั้งๆที่ปรากฏชื่อ เป็นชื่อ 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ด้วยเหตุผล “ไม่ถนัดงานด้านนิติบัญญัติ”

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเรื่องรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่มีชื่อนายชัชชาติ ว่า เพราะนายชัชชาติถนัดงานบริหารมากกว่างานนิติบัญญัติ  ขณะที่นายชัชชาติ บอกว่า ที่ถอนตัว เพราะไม่ถนัดงานด้านนิติบัญญัติ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ยังมีงานการเมืองอื่นๆที่สามารถทำได้เช่นการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

 

 

 

ทั้งนี้เป็นที่รู้กันดีในแวดวงการเมือง ว่าบัญชีรายชื่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา ทั้งอดีตถึงปัจจุบัน จะเป็นบุคคลสำคัญๆในพรรคกาเมืองนั้นๆ จึงทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขว้าง

 

จนกระทั้ง ล่าสุดนายชัชชาติ ต้องออกมาชี้แจ้งประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยผ่านทางโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า..ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับผมไม่ได้ลง ส.ส. Party list เยอะ เลยขอชี้แจงพวกเราดังนี้ครับ

เลือกตั้งครั้งนี้ บัตรใบเดียว ประชาชนเลือก 3 อย่าง 1. ส.ส. เขต 2. ส.ส. Party list 3. Candidate นายกรัฐมนตรี (ส่งได้สามชื่อ)

 

นายกฯ ไม่ต้องมาจาก ส.ส. ครับ แต่ต้องอยู่ใน Candidate นายก ผมไม่ได้ลง ส.ส. Party list ด้วยความสมัครใจ เพราะพรรคมีคนที่เก่งงานด้านนิติบัญญัติหลายท่าน และ ตามกติกาใหม่ จำนวน party list ของพรรคน่าจะลดลง เราต้องรู้ว่าเราเหมาะกับงานไหนเพราะเราทำงานเป็นทีม

 

ผมอยู่ใน Candidate นายกรัฐมนตรี 1 ใน 3 ส่วนจะได้ทำงานหรือไม่ สุดท้ายขึ้นกับเสียงของประชาชนครับ สรุปว่า ตอนนี้ ยืนยันและพร้อมลุยกับงานในส่วนของ Candidate นายกฯ 100 % ไม่มีเป้าหมายอื่น ไม่มีถอย ไม่มีท้อครับ

 

 

อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำกันอีกที่ว่านายชัชชาติ เป็นบุคคลแถวหน้า คนสำคัญของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังเป็น1ในแคนดิเดท มีลุ้นชิงเก้าอี้นายกฯ  แต่เพราะอะไรถึงไม่มีชื่อในปาร์ตี้ลิตส์

 

หรือหากวิเคราะห์จากถ้อยคำของนายชัชชาติ แสดงถึงท่าทีที่ความมั่นใจ  ประหนึ่งยื่นคำขาด ว่าต้องการรับตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีคนที่30แห่งประเทศไทย”เท่านั้น!! ไม่สนใจว่าจะได้เป็นส.ส.หลังเลือกตั้งหรือไม่

 

และความมั่นใจที่คาดหวังว่าจะได้ตำแหน่ง นายกฯนี้พาให้ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ นั้นคือเหตุการณ์ ยาหอม หลอกนายสมัคร สุนทรเวช  หลังหลุดจากตำแหน่งนายกฯ ด้วยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เนื่องจากการจัดรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” เป็นการกระทำเข้าข่ายกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267  ว่าจะได้กลับมา เป็นนายกฯอีกครั้ง แต่ท้ายสุดกลับถูกหักหลักกลางสภาฯ เป็นการตอบแทน

 

 

หลักฐานข้อเท็จจริงนี้มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำ  เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ 12 กันยายน 2551  เป็นเหตุกรณีที่ทำให้สังไทยเข้าใจในวิธีคิดแบบทักษิณ  คือ  เครือญาติต้องมาก่อน  ส่วนจะใช้คำว่าหักหลังกับทุกคนได้หรือไม่  เป็นข้อมูลให้สาธารณชนพิจารณาได้เอง  จากข้อความที่ถ่ายทอดโดย  นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ในขณะนั้น   ผ่านรายการ "ฮอตนิวส์" ทาง สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที   เมื่อวันที่ 9 กันยายน  2552 นายศุภชัย  ยืนยันชัดเจนว่า นายสมัคร รับปากนายทักษิณ ว่าจะรับเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคชนะเลือกตั้ง โดยมีเงื่อนไขข้อเดียวคือ ต้องไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร  แต่เฉกเช่นที่ได้ระบุไว้แล้วว่าภายหลังนายสมัครถูกคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ  พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหานายเนวินด้วยตัวเอง  ขอให้นายเนวิน   แจ้งกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ พรรคพลังประชาชนว่า   ให้สนับสนุนนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป  นายเนวิน จึงแจ้งกับ ส.ส .พรรคพลังประชาชน และให้ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชน   ไปขอร้องนายสมัคร ที่บ้านพักในหมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 ให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง โดยทางส.ส. พลังประชาชนพร้อมที่จะสนับสนุน ตอนแรก นายสมัครปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว  เพราะไม่ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว   ด้วยมั่นใจว่าได้ทำหน้าที่ให้กับพรรคพลังประชาชนตามคำขอร้องอย่างครบถ้วนแล้ว

 

แต่เมื่อได้รับการขอร้อง ก็ตกปากรับคำว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ และคืนวันที่ 11 ก.ย. ผู้ที่ไปเจรจา กับนายสมัคร ก็กลับมาแจ้ง กับ ส.ส. พลังประชาชนที่รออยู่ที่พรรค ว่า นายสมัครยอมรับตำแหน่งนายกฯ ทำให้ผู้รออยู่ตบมือกันเกรียว แสดงความยินดีและเป็นสัญญาณว่า วันพรุ่งนี้ จะไปยกมือให้นายสมัครเป็นนายกฯ แต่ปรากฎว่าถึงช่วงเช้าวันที่ 12 ก.ย.  ปรากฎว่ามีแต่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน  กลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคประชาธิปัตย์มาประชุม โดยไม่มี ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ รวมถึงกลุ่มส.ส.พรรคพลังประชาขนอีกส่วนหนึ่ง   ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เลือกนายสมัครเป็นนายกฯไม่ได้

 

“เวลา 10.15 น. นายสมัคร เดินลงมาขึ้นรถคนเดียวด้วยอาการเศร้าซึม   ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน  ก่อนที่นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น  จะนำข้อความจากนายสมัครมาบอกกับนักข่าวว่า “ท่านฝากบอก แมสเสจ สั้นๆว่า ได้ทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ไป เป็นภาระของพรรคพลังประชาชนที่จะดำเนินการต่อไป”   ทั้งหมดคือข้อเจจริงที่มีการบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมือง  และบุคคลที่เข้ามาเป็นรายชื่อนายสมัคร ในการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

 

ประเด็นสำคัญทางการเมือง ก็คือสิ่งที่นายศุภชัย  เน้นย้ำเป็นคำถามก็คือ  “ ถ้าท่านทักษิณ ต้องการให้น้องเขยคือท่านสมชายเป็นนายกฯ ทำไมไม่บอกแต่แรก ทำไมมาบอกคุณเนวิน มาบอก ส.ส.พรรคพลัง ประชาชน ให้สนับสนุนคุณสมัครเป็นนายก ทำไมถึงได้ให้บรรดาแกนนำ ส.ส. ไปขอร้องให้เป็นนายกต่อ ถ้าท่านเพียงแต่บอกตรงๆ การตัดสินใจของกลุ่มเพื่อนเนวิน จะได้กำหนดท่าทีให้ถูกต้อง ถ้าพูดกันตรงๆ บอกกันตรงๆ มันดีกว่าหรือไม่ คุณสมัครก็ไม่ต้องเจ็บปวด จะไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองถูกหักหลัง กลุ่มคนที่ทุ่มเททำงานให้กับคุณสมัคร ที่มีแกนนำคือ คุณเนวิน จะได้ไม่รู้สึกว่า ถูกหลอกใช้

 

    ในทางการเมืองรู้กันดีว่า อาการถูกหลอกของนายสมัคร ในครั้งนั้น ทำให้ อดีตสส.แห่งพรรคประชากรไทย ขมขื่นแค่ไหน ว่ากันด้วยซ้ำว่า "นั่นเป็นสาเหตุของอาการตรอมใจและนำมาซึ่งความเจ็บป่วยในเวลาต่อมา เรื่องนี้แม้ไม่มีใครยืนยัน แต่ร่องรอยคำพูดของ"นายสมัคร"หลังรู้ตัวว่าถูกหลอก ที่ว่า "ได้ทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ไป เป็นภาระของพรรคพลังประชาชนที่จะดำเนินการต่อไป” นั่นย่อมสะท้อนความเศร้าตรมที่ถูกกระทำได้เป็นอย่างดี

 

 

ถ้าพิจารณาชีวิตของชัชชาติวันนี้ ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเหมือนกับนายสมัครหรือไม่.. กว่าจะรู้ตัวเองว่าเป็นเพียง “หุ่นเชิด” ก็สายเกินกว่าจะแก้ไปเสียแล้ว งานนี้จะซ้ำรอยเดิมบาดแผลทางการเมือง ตำนานงูเห่า หรือไม่ ? ต้องจับตาต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เต็มใจให้หลอก? เปิดโพลทักษิณเขี่ย "หญิงหน่อย" ดัน "ชัชชาติ" คะแนนนำ!

- "กิตติธัช" สวน "ชัชชาติ" ปมปราศรัยหาเสียง "ส่วนต่างราคาข้าว" งานนี้มีคนเงิบหนัก...ใครแน่รู้ไม่จริง

- “สุดารัตน์”เข้าทาง “โอ๊ค-พานทองแท้” ..อาจเป็นโอกาสสุดท้ายขว้าง ชัชชาติ ขึ้นเบอร์ 1 ลิสต์ นายกฯเพื่อไทย???

- เกือบตายกันทั้งพรรค!​ "ยิ่งลักษณ์" โชว์พาวครอบงำ "ชัชชาติ​" พท.​เสียวถูกยุบ?