ขุดพฤติกรรม หมิ่นเหม่ พาดพิง ล่วงละเมิด มาตลอด “ทักษิณ-เครือข่าย" สู้อยู่กับใคร?

จบสิ้นไปแล้วสำหรับการเสนอชื่อ แคนดิเดตพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติประกาศรับรองการเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี รวม 45 พรรคการเมือง รวมถึงและไม่ประกาศของพรรคไทยรักษาชาติ ที่เสนอรายชื่อแคนดิเดตมาก่อนหน้านี้   ขณะเดียวกัน ต่อแต่นี้สถานการณ์ทางการเมือง ที่ตอนนี้ทุกทิศเพ็งมองนั่นคือ “พรรคไทยรักษาชาติ” เพราะทางกกต. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณี พรรคไทยรักษาชาติ กระทำการมิบังควร เข้าข่ายต้องยุบพรรคหรือไม่?  แต่สถานการณ์ทางการเมือง ที่ต้องจับตาคือ อีกคนหนึ่งที่อยู่แดนไกล ว่าจะขยับก้าวทา’การเมืองต่อไปอย่างไร  ?? และล่าสุดออกมาทวีตข้อความสู้ๆ ขอให้เดินหน้าต่อไป  คำว่าสู้นั้นจะสู้ในรูปแบบไหน 

 

 

โดยเริ่มต้นกันที่พรรคไทยรักษาชาติ คณะกรรมการบริหารพรรคนำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคพร้อมด้วยกรรมการบริหาร และแกนนำ ที่พรรคฯ ซึ่งร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า พวกเราพรรคไทยรักษาชาติ ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์ทุกพระองค์ การที่มีมติของ กกต.ที่ไม่ประกาศรายชื่อแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ พวกเราเห็นว่ามีมติออกมาแล้วถือว่าเป็นข้อยุติ ซึ่งทางพรรคเองไม่มีข้อโต้แย้งใดใด หลังจากนี้ไป จะต้องเดินหน้าสู้สนามเลือกตั้งเพื่อหาเสียง โดยจะใช้เวลาให้เร็วที่สุด

 

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวอีกว่า ในวันนี้จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อวางแผนกำหนดท่าทีในการเดิน เราในฐานะนักการเมือง มีภาระหน้าที่สำตัญต่อพี่น้องประขาชนและต่อสมาชิกพรรค ผู้สมัครของพรรค ซึ่งการทำงานการเมืองไม่สามารถหยุดได้ เราเดินหน้าสื่อสารนโยบาย และขออาสารับใช้พี่น้องประชาชนในวันเลือกตั้งที่จะถึงนี้

 

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์แสดงความเห็นต่อกรณีพรรค ทษช.ยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า มาเห็นข่าวเพื่อนนักการเมืองพูดถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า “ยิ่งกว่ามีความสุข” แล้ว ผมไม่สบายใจเลย ไม่สบายใจจริงๆ ครับ ทั้งนี้ มีผู้แสดงความเห็นพร้อมให้กำลังใจจำนวนมาก โดยนายจาตุรนต์ระบุว่า “สู้ต่อนั้นสู้แน่ แต่กำลังคิดว่าจะสู้อย่างไรครับ ผมสู้มาตลอดชีวิต เลิกไม่ได้ครับ”

 

ไม่เพียงเท่านั้น อีกโพสต์หนึ่งของจาตุรนต์ ที่ระบุว่า  "เห็บกระโดดที่ไหนกัน รู้สึกวาทกรรม 'เห็บกระโดด ตอนหมาจะตาย' ทำท่าจะฮิต อยากจะบอกแบบสบายๆว่า ผมไม่คิดว่าทษช.จะถูกยุบง่ายๆ แต่ถ้าถูกยุบจริงๆ ผมจะอยู่จนถึงวันยุบเป็นคนสุดท้าย เหมือนที่เคยทำมาแล้วที่ไทยรักไทยครับ" ทั้ง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช และ  จาตุรนต์ ฉายแสง ออกมาบอกชัดเจนว่าครั้งนี้จะเดินหน้า “สู้”  สถานการณ์ ทางการเมืองที่เข้มข้นนี้ 

 

 

ย้อนกลับไป  9 กุมภาพันธ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความที่ทวิตเตอร์ส่วนตัว “Thaksin Shinawatra” ด้วยข้อความว่า “Chin up and keep moving forward! We learn from past experiences but live for today and the future. Cheer up! Life must go on!” ซึ่งแปลได้ว่า “สู้ๆ ขอให้เดินหน้าต่อไป พวกเราเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อมีชีวิตอยู่ในวันนี้และอนาคต เป็นกำลังใจให้ ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป”

 

กับข้อความที่ว่า “สู้ๆ ขอให้เดินหน้าต่อไป” ของทักษิณ ชินวัตร จังหวะก้าวเดินข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะได้ย้อนพฤติกรรม “ทักษิณ” ที่ให้ท่านผู้ชมได้พิจารณาว่า เป้าหมายของ “ทักษิณ” ตั้งแต่การรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549   ซึ่งมีปฐมเหตุเริ่มต้นจากการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาในยุครัฐบาลทักษิณ ประชาชนลุกฮือต่อต้านจนเกิดการเผชิญหน้ารัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549ก็ได้เกิดขึ้นเพื่อที่จะยุติความแตกแยก

 

นายทักษิณ ชินวัตร ตอนเป็นรัฐมนตรี   นายทักษิณได้เดินทางออกไปนอกประเทศเพื่อตั้งฐานที่มั่นและรวบรวมผนึกกำลังมวลชนขึ้นมา จากคนกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่คัดค้านรัฐประหาร ค่อย ๆ หลอมรวมมาเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปก. ได้พัฒนาการเป็นคนเสื้อแดงความจริงวันนี้ทักษิณประกาศกร้าวภารกิจกลับประเทศโดนการใช้มวลชนกดดัน ขณะเดียวกัน พฤติกรรม ตัวของนายทักษิณ ชินวัตรนั้นก็ทั้งการกระทำและคำพูดที่สังคมไทยนั้นตั้งคำถามถึงความจงรักภักดีด้วยความสุจริตใจหรือไม่อยู่บ่อยครั้ง  คนที่จะให้ตนลาออกได้มีคนเดียว คือพระเจ้าอยู่หัว “ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบผม รับสั่งคำเดียว ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทออกแน่นอน

 

 

4 ก.พ. 2549 ทักษิณพูดผ่านรายการวิทยุ นายกฯ คุยกับประชาชน โดยบอกว่า คนที่จะให้ตนลาออกได้มีคนเดียว คือ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบผม รับสั่งคำเดียว ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทออกแน่นอน"   29 มิ.ย. 2549   ‘ทักษิณ  ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น  ได้พูดตอนหนึ่งระหว่างการประชุมหัวหน้าส่วนข้าราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ และข้าราชการระดับ 10  ขึ้นไป ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า 'วันนี้องค์กรนอกรัฐธรรมนูญ คือ บุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา”

 

 

ในเวลาต่อมา วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552หนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ ของอังกฤษ ได้เผยแพร่ข่าวคำให้สัมภาษณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวกับ นายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี บรรณาธิการข่าวเอเชียของเดอะ ไทมส์ ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีข้อความจำนวนมากที่พาดพิง และล่วงละเมิดสถาบันของไทยอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม บทสัมภาษณ์ดังกล่าวยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจำนวนหนึ่งที่ ทักษิณ กล่าวถึงเหตุการณ์หลายอย่าง และ พาดพิงถึงบุคคลจำนวนมาก โดยหลายข้อความผู้สื่อข่าวสามารถจับพิรุธได้อย่างชัดเจน  17 เมษายน 2552 หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส (เอฟที) ของอังกฤษ เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้สัมภาษณ์ต่อ นาย โรบิน วิกเกิลสเวิร์ธ ผู้สื่อข่าวประจำภาคพื้นอ่าวเปอร์เซียที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีข้อความที่กล่าวพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รวมทั้งยังมีการล่วงละเมิดสถาบัน

 

ตลอดถึงการปราศรัยที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงนายทักษิณก็ได้มีการพูดคุยผ่านวีดีโอลิงค์กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีการมุ่งโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทย ทำลายความเชื่อถือของรัฐธรรมนูญ ตลอดจนให้ร้ายสถาบันอย่างต่อเนื่อง ผ่านวาทะกรรมอำมาตย์กับไพร่โดยทักษิณจงใจที่จะระบุถึงยุคสมัยที่ยังมีการปกครองโดยกษัตริย์กับโลกสถาบันที่กำลังเปลี่ยนไป ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวของ ผู้ต้องหา ม.112 ที่ออกมาส่งกำลังใจให้กับพรรคไทยรักษาชาติ 

 

 

12 ก.พ.62-   นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ อยู่ระหว่างลี้ภัยที่อเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jom Petchpradab ว่า คุณจาตุรนต์ ฉายแสง บอกว่า อย่าเศร้าไปครับ "มาร้องเพลงกันดีกว่าครับ"   "ยิ่งหม่นหมอง ยิ่งต้องหายใจ หาอะไรซ่อมใจให้งาม"  รักและศรัทธา และให้กำลังใจพี่อ่อย จาตุรนต์ ฉายแสง ตลอดเวลาและตลอดไปครับ  บนเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ผมก้าวเข้าร่วม เพราะมีพี่จาตุรนต์ บุกเบิกฝ่าฟัน นำทาง เป็นแสงสว่างนำทางสายนี้ ให้พวกเราก้าวตามอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวและมีความหวังอยู่เสมอ

 

12 ก.พ.62 - นายสุนัย จุลพงศธร อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย คนของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ได้ให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)โดยช่วงหนึ่งกล่าวว่าไม่ต้องหมดกำลังใจ  ฝ่ายเผด็จการกำลังยุบพรรคไทยรักษาชาติ ผมต้องใส่เสื้อพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อให้กำลังใจ ผู้ที่สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ และกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ   "ไม่ต้องหมดกำลังใจครับ สู้ต่อไป ถ้ามันจะยื่นฟ้องให้มันยื่นครับ วิกฤติจะเป็นโอกาส พี่น้องประชาชนจะเห็นใจ กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติไม่ได้ทำผิดกฎหมาย...หากกกต.ยังจะลงโทษ ก็ลองดูสิครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของคนไทยเท่านั้น แต่อยู่ในสายตาของคนทั่วโลก"นายสุนัย กล่าว.

 

  อย่างไรก็ตาม การย้อนอดีตเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่ เพื่อสร้างความบาดหมางให้กลุ่มคน หากแต่ต้องการชี้ประเด็นให้ผู้ที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองได้เห็นว่า ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนนั้น ไม่ได้มาจากการมีความคิดเห็นที่ ไม่ตรงกันดังนั้น ก็ต้องทบทวนที่ไปที่มาให้ถ่องแท้  และนี่ก็คือโครงข่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ว่าแท้ที่จริงแล้ว ทักษิณ ชินวัตร ต้องการอะไรกันแน่ และการประกาศว่าจะสู้ต่อนั้น จะออกมาในรูปแบบไหน จะกลายเป็นวังวนเดิมหรือไม่ 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ทักษิณ ยังกล้าประกาศสู้ต่อ!! "สนธิญาณ"ชำแหละ.. ถึงวันนี้จบแล้วอย่าหวังกลับไทย! ? (คลิป)

-ฝังตัวเอง! "สื่อนอก" ชี้ชัด "ทักษิณ" เดินเกมการเมืองพลาด ปิดประตูชนะเลือกตั้ง