บทเรียนไทยรักษาชาติ! เมื่อ "คนแดนไกล" วางแผนเพื่อตัวเอง แต่คนรับกรรมคือคนรุ่นใหม่ในพรรค?

เป็นที่ชัดเจนแล้ว สำหรับการยุบพรรคไทยรักษาชาติ วานนี้ (7 มีนาคม)  ส่วนประเด็นข้อกล่าวอ้าง ว่าด้วยเรื่องเจตนาของพรรคไทยรักษาชาติ องค์คณะคุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  เห็นความตามบทบัญญัติกฎหมายว่า  เมื่อกฎหมายบัญญัติเพียงแค่ “อาจเป็น” ก็หมายถึงความจำเป็นต้องห้ามไม่รอให้ผลเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นในอนาคต  โดยเฉพาะการกระทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  ซึ่งถือเป็นการดับไฟใหญ่ตั้งแต่ต้นลมไม่ให้ลุกลามเป็นมหันตภัย  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ

 

 

สำหรับการพิจารณาความผิด  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิคุณสมบัติรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ แต่ด้วยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง   แลกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี  เป็นขั้นตอนการกระทำเพียงเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี  จึงมีมติให้ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10  ปี นับวันจากวันวินิจฉัยให้ยุบพรรค

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3  ให้ตัดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติเป็นเวลา 10 ปี   นับวันจากวันวินิจฉัยให้ยุบพรรค และมีมติเอกฉันท์ห้ามรายชื่อ กก.บริหารพรรคไทยรักษาชาติ  จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่  รวมถึงเข้าร่วมเป็น กก.บริหารพรรคการเมืองใดเป็นเวลา  10 ปี   
สรุปเหตุการณ์เบื้องต้น

 

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่มากในสังคมไทย เมื่อล่าสุดวันนี้ (9 มีนาคม) บนเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ของ 'นายกิตติธัช ชัยประสิทธิ์' นักวิชาการอิสระ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่า "วันที่ 7 ก.พ. 2562 มีการปล่อยข่าวลือ โดยให้ Andrew Marshall McGergor เป็นโต้โผ ก่อนที่วันที่ 8 ก.พ. 2562 บรรดาแกนนำพรรคไทยรักษาชาติจะเปิดตัวทูลกระหม่อมฯ ด้วยสีหน้ายิ้มย่องลำพองใจ

เครือข่ายของคนแดนไกล มองแล้วว่าเกมส์นี้เขาจะใช้เชื้อพระวงศ์มาเป็น [เกราะกำบัง] เพราะเชื่อว่าการที่ทูลกระหม่อมฯ ลงมาเล่นการเมือง จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าวิจารณ์ และทำให้การเดินเกมส์ง่ายขึ้น

 

 

แต่ผลที่ได้กลับผิดคาด....

- วันที่ 8 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมาได้ปรากฎชัดเจนแล้วว่าประชาชนจำนวนมาก ไม่ได้สนใจว่าทูลกระหม่อมจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือไม่ เพราะถือว่าถ้าท่านลงการเมืองแล้ว ท่านก็คือ "คนธรรมดาสามัญ" การวิพากษ์วิจารณ์จึงรุนแรงมาก และพบเห็นได้ทั่วโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ระดับชาวบ้าน จนถึงระดับราชนิกูลก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างชัดเจนในวันนั้น  ก่อนที่จะมีราชโองการลงมาในวันเดียวกันนั้น เพื่อยุติเรื่องดังกล่าว และย้ำด้วยว่าการนำทูลกระหม่อมฯ ลงมาเล่นการเมืองนั้น เป็นเรื่องมิบังควร

สิ่งที่คนแดนไกลคาดการณ์ผิด

1. เครือข่ายคนแดนไกล ดูถูกประชาชนคนไทย และคิดว่าการให้ทูลกระหม่อมฯ ลงมาเล่นการเมืองให้กับพรรคของตนนั้น จะทำให้ฝ่ายต่อต้านไม่กล้าหือรือ แต่ผิดคาด...  - ประชาชนคนไทยเคารพในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะท่านทำคุณงามความดี และเป็นพลังใจให้กับแผ่นดินมาตลอดชีวิตของท่าน แม้ว่าทูลกระหม่อมฯ จะเป็นพระราชธิดาก็จริง แต่พ่อกับลูกก็คือคนละคนกัน

- ยิ่งเมื่อทูลกระหม่อมฯ โดดมาลงการเมือง และประกาศว่าตนสละฐานันดรไปตั้งแต่เมื่อ 40 กว่าปีก่อนแล้ว ก็ยิ่งไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีกต่อไป

 

2. เครือข่ายคนแดนไกล คิดไม่ถึงและคาดไม่ถึงว่าจะมีราชโองการลงมาเพื่อยุติเรื่องราวต่างๆ ภายในคืนนั้น

- ทั้งนี้แม้ว่าทูลกระหม่อมฯ จะสละ "ฐานันดร" ไปแล้วในทางกฎหมายหรือทาง [นิตินัย] แต่โดย [พฤตินัย] ท่านก็ยังเป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นลูกของในหลวง ร.9 เป็นพี่สาวของ ในหลวง ร.10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

- อีกทั้งในทางปฏิบัติ ท่านก็ยังไปออกงานพิธีการต่างๆ มีคนติดตาม มีขบวนรถ ขบวนเสด็จ มีข้าราชบริพารคอยดูแล ไม่ต่างจากพระบรมวงศานุวงศ์ท่านอื่นแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนทราบดี...

 

 

- ดังนั้นการดึงทูลกระหม่อมฯ ลงมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่อง #มิบังควรอย่างยิ่ง จนต้องมีพระราชโองการลงมาภายในวันเดียวกัน เพื่อยุติเรื่องดังกล่าว คนรุ่นใหม่ = เครื่องสังเวยรายล่าสุด

วันนี้การยุบพรรคไทยรักษาชาตินั้น ทำให้เกิดคนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ อยู่ 2 จำพวก

#กรรมการบริหารพรรค - ซึ่งปรากฎว่า 13 คนนั้นแทบไม่มีตัวระดับเก๋าๆ หรือคนรุ่นใหญ่ๆ ของพรรคเลย กลายเป็นว่ากรรมการบริหารเป็นลูกหลานหรือเครือญาติของนักการเมืองเก่าผู้มีอิทธิพลในพรรค  - กลายเป็นว่าพวกรุ่นเก่าในพรรคไม่ต้องรับผิดชอบหรือโดนตัดสิทธิ แต่กลายเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีอนาคตการเมืองได้อีกไกล ต้องมาโดนตัดสิทธิแทนพวกผู้ใหญ่ในพรรค

 

#สมาชิกรุ่นใหม่ทางการเมือง - อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ คือ บรรดาคนรุ่นใหม่ในพรรคไทยรักษาชาติ ที่คิดว่าจะเปิดตัวทางการเมืองกับพรรคดังกล่าว

- บางคนอาจไม่ได้รักหรือศรัทธาในเจ้าของพรรคหรือคนแดนไกล แต่เขาอาจมีสายสัมพันธ์และความคุ้นเคยกับขั้วนี้มากกว่าขั้วอื่น

- พวกเขากลับต้องเสียโอกาสทางการเมือง ทั้งโอกาสในการลงเลือกตั้ง ทั้งเงินทุน เวลา และกำลังกายกำลังใจที่เสียไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด ในการลงพื้นที่หาเสียง

- ทุกอย่างสูญสิ้นไปหมดแล้ว...เพียงเพื่อสังเวยความต้องการของคนแดนไกล ที่ต้องการดึงเบื้องสูงมาเป็นเกราะกำบังทางการเมืองให้กับเกมส์การเมืองของตน

(ส่วนตัวผมพอทราบมาว่าหลายคนในพรรคเครือข่ายคนแดนไกล เริ่มไม่พอใจคนแดนไกลและเครือข่าย แต่เพราะสายสัมพันธ์ที่มีอยู่กับคนในพรรค จึงยังยอมทำงานอยู่)

 

แรงกระเพื่อมที่แท้จริง - จากเหตุการณ์ครั้งนี้แรงกระเพื่อมที่แท้จริง อาจจะไม่ได้มาจากภายนอก แต่จะเกิดจาก #ภายในพรรค เครือข่ายของคนแดนไกลเอง ที่เริ่มมองแล้วว่า พวกเขาจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเดินหมากครั้งต่อไปหรือไม่ ?

- บางทีพวกเขาอาจจะอยากแค่ทำงานการเมือง อาจจะอยากเป็น ส.ส.ทั่วไป เขาไม่อยากจะต้องมารับผิดชอบกับคำสั่งการข้างบนที่สั่งให้พวกเขาทำอะไรเสี่ยงๆ แล้วต้องยุติชีวิตทางการเมืองลง

 

 

เช่นที่คนรุ่นใหม่ของไทยรักษาชาติเจอ ในขณะที่พวกเก๋าเกมส์การเมือง ไม่ยอมเป็นกรรมการบริหารพรรค  และลอยตัวจากปัญหาที่เกิดขึ้น...

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-มุขเดิมๆ น่าเบื่อ!! "เพจดัง" ขยี้นัยแฝง แถลงการณ์ "อนาคตใหม่" ออกตัวป้อง "ไทยรักษาชาติ" หลัง โดนยุบ!!