โดนเขาหลอก - หลอกตัวเอง? หญิงหน่อย! คิดได้หรือยัง? แค่เบี้ยการเมือง ที่ "ทักษิณ" วางเกมตั้งแต่เริ่ม!

ติดตามกันมาอย่างต่อเนื่อง  สำหรับความเคลื่อนไหว ของ'พรรคไทยรักษาชาติ' พรรคการเมืองที่ถูกตราหน้าว่าเป็น 'นอมินี ทักษิณ ชินวัตร' หลังจากได้เสนอพระนามของ'ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี' เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ต่อมาในค่ำคืนของวันเดียวกัน พระราชโองการประกาศ การนำสถาบันเบื้องสูง มาข้องเกี่ยวกับการเมือง ถือเป็นเรื่องที่ “มิบังควร”

 

 

แต่แล้ว ณ.วันนี้ ก็เป็นที่ชัดเจนแล้ว สำหรับกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ วานนี้ (7 มีนาคม)  ส่วนประเด็นข้อกล่าวอ้าง ว่าด้วยเรื่องเจตนาของพรรคไทยรักษาชาติ องค์คณะคุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  เห็นความตามบทบัญญัติกฎหมายว่า  เมื่อกฎหมายบัญญัติเพียงแค่ “อาจเป็น” ก็หมายถึงความจำเป็นต้องห้ามไม่รอให้ผลเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นในอนาคต  

โดยเฉพาะการกระทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  ซึ่งถือเป็นการดับไฟใหญ่ตั้งแต่ต้นลมไม่ให้ลุกลามเป็นมหันตภัย  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ

 

สำหรับการพิจารณาความผิด  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิคุณสมบัติรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ แต่ด้วยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง   และกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี  เป็นขั้นตอนการกระทำเพียงเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี  จึงมีมติให้ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10  ปี

นับวันจากวันวินิจฉัยให้ยุบพรรค  ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3  ให้ตัดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติเป็นเวลา 10 ปี   นับวันจากวันวินิจฉัยให้ยุบพรรค และมีมติเอกฉันท์ห้ามรายชื่อ กก.บริหารพรรคไทยรักษาชาติ  จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่  รวมถึงเข้าร่วมเป็น กก.บริหารพรรคการเมืองใดเป็นเวลา  10 ปี 

 

อย่างไรก็ดี  เมื่อเกิดเหตุการณ์เฉกเช่นนี้แล้ว เห็นทีว่า 'กลยุทธ์-แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย' ก็เริ่มจะหนาวๆร้อนๆบ้างแล้ว เพราะแนวโน้มที่จะกระทบไปถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ในฐานะที่พรรคไทยรักษาชาติถูกดันขึ้นมาเป็น “พรรคกระแสหลัก” และรู้กันว่าเป็น “พรรคสาขาเครือนายใหญ่”  นอกจากนี้ผลเบื้องต้นที่ตามมา คือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 175 คน ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ 108 คน จะเท่ากับถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ 'หายจากไปสารบบ' ทันที! และมีการระบุจาก กกต.ว่าหากมีกากบาทเบอร์ของ 'ไทยรักษาชาติ' ก็จะถูกตีเป็น 'บัตรเสีย' อีกต่างหาก เมื่อย้อนกลับไปดูจำนวนผู้สมัคร ส.ส.เขตที่ 'เพื่อไทย' ส่ง คือ 250 เขตเลือกตั้ง

 

ก็เท่ากับไม่มีผู้สมัครของ 'พรรคพี่-พรรคน้อง' ที่เป็นสายใยแท้ๆ ของ 'เครือข่ายนายใหญ่' ใน 100 เขตที่เหลือ  ย่อมส่งผลให้ 'เสียเปรียบ' ในการเลือกตั้งที่ว่ากันถูกเอารัดเอาเปรียบจากบางพรรค-บางขั้วให้หนักข้อขึ้นไปอีก เป้าหมายการรวมเสียงให้ได้ 376 เสียงใน 'สภาล่าง' เพื่อพลิกขั้วอำนาจ และตั้งนายกฯ ที่มาจาก 'เครือข่ายนายใหญ่' ก็ยิ่งห่างไกลความเป็นจริง  

 

 

 

ทั้งนี้ก็เห็นว่าจะมีอีกคนนึงที่รู้สึกหนาวๆร้อนเช่นเดียวกันเมื่อหันกลับมาดูอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของ'พรรคใหญ่ระบอบทักษิณ อย่าง 'คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์' ประธานยุทธศาสตร์ และ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่2 ของพรรคเพื่อไทย ที่ช่วงนี้ฟิตเหลือเกิน ออกเดินสายหาเสียงไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ลองย้อนคิดและตอบตัวเองว่า  "ถ้ากกต.ไม่ตัดพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ออกไป ครั้นเวลาจะโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี

 

 

ถามว่า นายทักษิณ จะบอกให้ลูกสมุนทั้งหลาย โหวตให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่?  ซึ่งแน่นอน เรื่องนี้ตอบได้คำเดียวว่า 'ไม่'  โดยแท้จริงแล้ว'คุณหญิงสุดารัตน์'เองก็คงจะรู้อยู่แก่ใจ ประหนึ่งบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่หลุดออกมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาตินำเสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคแล้ว

 

 

สุดท้ายนี้จะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่คาดหวังว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะพรรคการเมืองเสนอชื่อ ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญ บอกว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ข้อมูลชัดเจนอยู่แล้วว่า 'ทักษิณ' คิดและวางแผนอะไรมาตั้งแต่ต้น 

 

 

อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริงที่สำนักข่าวทีนิวส์ได้เสนอไปทั้งหมดนั้น เป็นที่ชัดเจนเมื่อพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบไป เสียงของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีทางเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล. เพราะหากพรรคการเมือง พรรคหนึ่งหายออกไปจากสารระบบจากแผนแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย  โอกาสของคุณหญิงสุดารัตน์ ณ วันนี้ พูดกันตามตรงว่า นอกจากจะไม่ได้เป็นสส.แล้ว เองเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องพูดถึง เป็นไปไม่ได้เลย

 

หนำซ้ำยังเที่ยวเดินหน้าหาเสียง ตะโกนปาวๆ บอกว่า หากเลือกพรรคเพื่อไทยและจะทำให้ตนเองได้เป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แก้ไขปัญหาประชาชน วันนี้จบแล้ว พูดไปก็เหมือนหลอกประชาชน แต่ที่น่าเศร้าที่สุดเห็นว่าจะเป็นการหลอกตัวเอง ?

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เปิดคำพิพากษา:ผลประโยชน์ต่างตอบแทนทักษิณ บทเรียนยงยุทธ?

-กล้าพูด "ลูกทักษิณพร้อมตั้งแต่เกิด" เปิดปูมวีรกรรมฉาว จับตานับถอยหลังบินนอกไปแล้วไปลับ??

-สุดยอดวิชาโกง!!! ครบ 9 ปีเต็มยึดทรัพย์ “ทักษิณ” จำไม่ลืมคำสาปแช่ง สุดท้ายดาบคืนสนอง...จบสิ้น(หวัง)กลับแผ่นดินไทย