- 23 มี.ค. 2562
คนกาญจนบุรี ขนานนามถนน 4 แยกร้อยศพ หลังเกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนรถตู้ตกคลองชลฯ ตาย 10 เจ็บ 4 วิจารณ์ ขมเกิดอุบัติเหตุมีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นประจำ ก่อนหน้าสังเวยสยอง 10 ศพในอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็มีรถตู้แรงงานต่างด้าวชนกับรถกระบะมาแล้วบาดเจ็บหลายราย เดชะบุญไม่มีล้มหายตายจาก เคยร้องอำเภอ จังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวข้องขอสัญญาณไฟเขียวไฟแดง แต่เรื่องเงียบเฉย
คนกาญจนบุรี ขนานนามถนน 4 แยกร้อยศพ หลังเกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนรถตู้ตกคลองชลฯ ตาย 10 เจ็บ 4 วิจารณ์ ขมเกิดอุบัติเหตุมีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นประจำ ก่อนหน้าสังเวยสยอง 10 ศพในอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็มีรถตู้แรงงานต่างด้าวชนกับรถกระบะมาแล้วบาดเจ็บหลายราย เดชะบุญไม่มีล้มหายตายจาก เคยร้องอำเภอ จังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวข้องขอสัญญาณไฟเขียวไฟแดง แต่เรื่องเงียบเฉย วอนขอให้ท่านผู้ว่าฯ ช่วยดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอด้วย หรือจะปล่อยให้มีคนบาดเจ็บล้มตายเท่าไหร่จึงจะดำเนินการ ด้านโชเฟอร์รถตู้ชนสยอง เผย นาทีรอดพ้นเงื้อมือมัจจุราช ว่า เดินทางมาจากกรุงเทพฯ พาแรงงานชาวลาวและเวียตนาม มาต่อวีซ่าที่ด้านพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์ ขากลับขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ถูกรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนจนรถตกคลอง ทำให้กระจกหน้าแตก พอได้สติจึงมุดต้วว่ายน้ำออกมา จึงรอดตายหวุดหวิด ปกติวิ่งเส้นทางผ่านหน้าศาลากลาง วิ่งถนนเส้นนี้เป็นครั้งนี้แรก จากกรณีเกิดโศกนาฎกรรมหมู่ รถพ่วง 18 ล้อชนกับรถตู้นำพาแรงงานชาวลาวและเวียตนาม เดินทางมาต่อวีซ่าเพื่อขออยู่ต่อในประเทศไทย ที่ด่านตรวจถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางที่ขับรถมุ่งหน้าไปตามเส้นทางถนนเลียบริมคลองชลประทานสายบ้านถ้ำ-เพชรบุรี หมู่ที่ 5 บ้านสระเศรษฐี ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กลับกรุงเทพมหานครฯ
ระหว่างทางที่ขับผ่านทางร่วมทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟเขียวไฟแดงถูกรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนจนรถทั้ง 2 คันเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทาน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแรงงานชาวลาว และเวียตนามติดคาซากรถจมน้ำเสียชีวิตถึง 10 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 รายตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น จากกรณีเกิดโศกนาฎกรรมหมู่ รถพ่วง 18 ล้อชนกับรถตู้นำพาแรงงานชาวลาวและเวียตนาม เดินทางมาต่อวีซ่าเพื่อขออยู่ต่อในประเทศไทย ที่ด่านตรวจถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางที่ขับรถมุ่งหน้าไปตามเส้นทางถนนเลียบริมคลองชลประทานสายบ้านถ้ำ-เพชรบุรี หมู่ที่ 5 บ้านสระเศรษฐี ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กลับกรุงเทพมหานครฯ ระหว่างทางที่ขับผ่านทางร่วมทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟเขียวไฟแดงถูกรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนจนรถทั้ง 2 คันเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทาน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแรงงานชาวลาว และเวียตนามติดคาซากรถจมน้ำเสียชีวิตถึง 10 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 รายตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุได้มีชาวบ้านในละแวกพื้นที่เกิดเหตุ และประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมามุงดูการทำงานของเจ้าหนัาที่นักประดาน้ำของมูลนิธื 6 มูลนิธิ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม มูลนิธิสว่างราชบุรี และมูลนิธิราชานุสรณ์ราชบุรี และมูลนิธิรวมใจราชบุรี กำลังกว่า 50 นายพร้อมอุปกรณ์ประดาน้ำลงงมค้นหา จนกระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย ต่างวิพากษณ์วิจารณ์ต่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ตั้งแต่มีถนนสายนี้ขึ้นมา เกิดอุบัติเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ละครั้งมีคนเจ็บคนตายไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ จนกระทั่งชาวบ้านในเขต อ.ท่าม่วง และที่เกิดเหตุต่างขนานนามบริเวณ 4 แยกร้อยศพ ก่อนหน้าอุบัติเหตุครั้งนี้ก็เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง หมาดๆ ล่าสุด รถตู้บรรทุกแรงงานกรีดยางจากทางภาคใต้ ชนกับรถยนต์กระบะจนพลิกคว่ำ เดชะบุญไม่ตกคลองชลประทาน มีแต่ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย
แต่มาครั้งนี้เสียชีวิตถึง 10 คน ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปทางอำเภอท่าม่วง ทางเทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอสัญญาณไฟเขียวไฟแดง แต่เรื่องก็เงียบ ไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงอยากขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยเหลือสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแล หรือนำสัญญาณไฟมาติดตั้ง เนื่องจากบริเวณ 4 แยกในแต่ละวันจะมีรถยนต์วิ่งสวนกันไปมาเป็นจำนวนมาก หากไม่ติดตั้งสัญญาณไฟ ก็ไม่รู้จะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายอีกเป็นจำนวนเท่าไร หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายบุญมี กล้วยประโคน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 4 ต.โคกย่าง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ที่ได้เล่าถึงวืนาทีที่รอดพ้นความตายจากอุบัติเหตุสยอง 10 ศพนี้ว่า ตนได้นำแรงงานต่างด้าวชาวลาว และชาวเวียตนาม เดินทางจากกรุงเทพมหานครฯ เดินทางมาต่อวีซ่าที่ด่านตม.ถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
หลังเสร็จสิ้นการต่อวีซ่าเสร็จก็ขับรถเดินทางจะกลับบ้านที่กรุงเทพมหานครฯ โดยใช้เส้นทางถนนเลียบริมคลองดังกล่าว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ถูกรถพ่วง18 ล้อพุ่งเข้าชนจนรถของตนเสียหลักพุ่งตกคลองฯ ตนพอได้สติจึงตะโกนร้องบอกให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถรีบมุดตัวออกมาทางกระจกด้านหน้าที่แตก และพยายามตะเกียตตะกายว่ายน้ำเข้าหาฝั่งซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็มาช่วยนำตนและผู้โดยสารที่นั่งมาตอนหน้าส่ง รพ. เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก ถนนสายนี้ก็เพิ่งเคยวิ่งมาเป็นครั้งแรก เที่ยวอื่นๆ ตนจะใช้เส้นทางหลักคือวิ่งผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหลัก สาเหตุที่เปลี่ยนเส้นทางไปวิ่งบนถนนเลียบริมคลองฯ เพราะถนนเลียบริมคลองชลฯ ไม่ค่อยมีรถวิ่ง จึงคิดว่าสะดวกและปลอดภัย" ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 10 ราย ได้แก่
1. MRS.VIENGVILAY PHOTHINAN อายุ 54 ปี สัญชาติ ลาว เกิดวันที่ 6 เม.ย.2504
หนังสือเดินทางเลขที่ PA0173360 (เสียชีวิต)
2. MR.BOUALA PHIMMASANE อายุ 22 ปี สัญชาติ ลาว เกิดวันที่ 6 ก.ย.2540
หนังสือเดินทางเลขที่ P2017494 (เสียชีวิต)
3. MRS.KEO ไม่ทราบนามสกุล อายุ 21 ปี สัญชาติ ลาว เกิดวันที่ 15 มิ.ย.2541
หนังสือเดินทางเลขที่ P2035125 (เสียชีวิต)
4 .MR.AENOY KAAMFAIVANH อายุ 19 ปี สัญชาติ ลาว เกิดวันที่ 4 มี.ค.2543
หนังสือเดินทางเลขที่ PA0246367 (เสียชีวิต)
5. MRS.NOY XAYASING อายุ 23 ปี สัญชาติ ลาว เกิดวันที่ 8 ก.พ.2539
หนังสือเดินทางเลขที่ P2145485 (เสียชีวิต)
6 .MR.VAN SON PHAN อายุ 27 ปี สัญชาติ เวียดนาม เกิดวันที่ 20 พ.ย.2535
หนังสือเดินทางเลขที่ C6767103 (เสียชีวิต)
7 .MRS.THI THU NGUYEN อายุ 28 ปี สัญชาติ เวียดนาม เกิดวันที่ 15 ส.ค.2534
หนังสือเดินทางเลขที่ C6691053 (เสียชีวิต)
8 .MR.VAN SON PHAN อายุ 27 ปี สัญชาติ เวียดนาม เกิดวันที่ 20 พ.ย.2535
หนังสือเดินทางเลขที่ C6767103 (เสียชีวิต)
9 .MRS.THI BICH DOAN อายุ 34 ปี สัญชาติ เวียดนาม เกิดวันที่ 26 มี.ค.2528
หนังสือเดินทางเลขที่ C6686357 (เสียชีวิต)
10. MRS.THI THUY DUNG PHAM อายุ 22 ปี สัญชาติ เวียดนาม เกิดวันที่ 13
มิ.ย.2540 หนังสือเดินทางเลขที่ C6773952 (เสียชีวิต)
ข่าว-ภาพ/วันชัย แก้ววิลัย สนั่น ศิลปะขจร ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กาญจนบุรี