ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

ผู้ว่าฯพร้อม รองผู้ว่าฯปราจีน ร่วม พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยมีประชาชนจิตอาสาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้ง2 แห่ง

จังหวัดปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 2 แห่ง ณ บ่อน้ำหน้าโบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธี และที่บริเวณโบราณสถานสระแก้ว ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ นายสัญชัย ขจรเวหาศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานพิธี

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

เมื่อถึงเวลา 10.00 น. จุดที่ 1 ณ บ่อน้ำหน้าโบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ ผู้ร่วมพิธีประกอบพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกัน ณ บริเวณประกอบพิธี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินไปประจำจุดหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายความเคารพ แล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายความเคารพ

 

ปราจีนบุรี ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินไปยังโต๊ะบวงสรวง จุดธูปเทียนบูชาเพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมส่งให้ผู้บริหารระดับสูงร่วมปักธูป ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และผู้บริหารระดับสูงเข้าประจำจุด พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวง เพื่อบูชาเทพยาดา เทพารักษ์ผู้ดูแลรักษาสถานที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี อ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีพร้อมเจ้าหน้าที่เชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เข้าประจำจุดที่กำหนด เจ้าหน้าที่เปิดฝาขันน้ำสาคร 

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

เมื่อได้ฤกษ์เวลา 11.52 - 12.38 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันน้ำสาคร (ปริมาณร้อยละ 80 ของขันน้ำสาคร) ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีส่งที่ตักน้ำให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ปิดฝาขันน้ำสาคร ห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้นสีขาว ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและเจ้าหน้าที่ผู้เชิญขันน้ำสาครและที่ตักน้ำไปยังรถ ขบวนรถเคลื่อนไปยังวัดบางกระเบา อำเภอบ้านสร้างสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก 

 

พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

 

พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ ปราจีนบุรี

จุดที่ 2 ณ โบราณสถานสระแก้ว ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี นายสัญชัย ขจรเวหาศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประธานในพิธีเดินทางถึง บริเวณแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินไปประจำจุดหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายความเคารพ แล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายความเคารพ

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินไปยังโต๊ะบวงสรวง จุดธูปเทียนบูชาเพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมส่งให้ผู้บริหารระดับสูงร่วมปักธูป รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และผู้บริหารระดับสูงเข้าประจำจุด พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวง เพื่อบูชาเทพยาดา เทพารักษ์ผู้ดูแลรักษาสถานที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี อ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีพร้อมเจ้าหน้าที่เชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เข้าประจำจุดที่กำหนด เจ้าหน้าที่เปิดฝาขันน้ำสาคร 

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

เมื่อได้ฤกษ์เวลา 11.52 - 12.38 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันน้ำสาคร (ปริมาณร้อยละ 80 ของขันน้ำสาคร) รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีส่งที่จักน้ำให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ปิดฝาขันน้ำสาคร ห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้นสีขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและเจ้าหน้าที่ผู้เชิญขันน้ำสาครแลที่ตักน้ำไปยังรถ ขบวนรถเคลื่อนไปยังวัดบางกระเบา อำเภอบ้านสร้างสถานที่ประกบพิธีทำน้ำอภิเษก

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

ทั้งนี้ พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 2 แห่ง ประกอบพิธีพร้อมกัน

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง

 

โบราณสถานสระมรกตและสระแก้ว เป็น 2 แหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัดปราจีนบุรี ที่นำมาใช้ในพิธีพระบรมราชาภิเษก โดยโบราณสถานสระมรกตอยู่ในวัดสระมรกต อำเภอศรีมโหสถ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีกลุ่มโบราณสถานที่สำคัญในสมัยทวารวดี เช่นรอยพระพุทธบาทคู่ ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย บริเวณใกล้เคียงพบกลุ่มอาคารที่สำคัญในวัฒนธรรมเขมร โดยฐานของอาคารสันนิษฐานคืออโรคยาศาลา หรือโรงพยาบาลในสมัยโบราณ ถัดมามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเป็นทรงกลม ลึกประมาณ 10 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา ในสมัยโบราณประชาชนที่มารับการรักษาที่อโรคาศาลา จะนำน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาดื่ม เชื่อว่ารักษาโรคได้ และยังน้ำไปใช้ในพิธีสำคัญต่าง ๆ 

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง


โบราณสถานสระแก้ว เป็นอีกหนึ่งแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัด มีลักษณะเป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขุดลงไปในชั้นศิลาแลงธรรมชาติ กว้างยาวด้านละ 18 เมตร ลึก 5.40 เมตร มีทางลงสระด้านทิศตะวันตก ส่วนด้านเหนือมีการตัดศิลาแลงเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้ายื่นเข้าไปในสระ มีบันไดทางลงทั้งสองด้าน และมีร่องรอยของหลุมเสา สันนิษฐานว่าเดิมมีพลับพลาสร้างด้วยไม้ ริมผนังขอบสระทั้งสี่ด้าน มีภาพแกะสลักมุมต่ำเป็นรูปสัญลักษณ์และรูปสัตว์อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม จำนวน 29 กรอบรูป มีรูปสัตว์ 45 รูป ได้แก่ช้าง 24 รูป สิงห์ 11 รูป มรรคระ 8 รูป หมู 1 รูป กินรี 1 รูป และมีรูปงูพันรูปหม้อน้ำระหว่างช้าง 2 ช้าง มีรูปมรคะและหงส์เดินเรียงกันเป็นแถวเหนือกรอบรูป โดยเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือพิธีกรรมเพื่อความอุดมสมบูรณ์ ตามคติความเชื่อของชาวฮินดู ว่าภาพสัตว์และรูปสัญลักษณ์ที่ปรากฎตามผนังขอบสระเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล

 

ปราจีนบุรีจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์  2 แห่ง


สำหรับพิธีทำน้ำอภิเษกจะทำที่วัดบางกระเบา พระอารามหลวงชั้นตรี ที่อำเภอบ้านสร้าง ซึ่งเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี ตามลำน้ำบางปะกง ผ่านวัดบางกระเบา เพื่อไปสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2451 และก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ ได้พระราชทานเรือเก๋งจีน 1 ลำ และเครื่องอัฐถบริขารแก่หลวงพ่อจาด เจ้าอาวาสวัดบางกระเบา


สายชล หนูแดง /ปราจีนบุรี ข่าว-ภาพ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปิด 6 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์!!เมืองคอนเตรียมซ้อมพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จำนวน 6 แหล่ง-เพื่อร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ปทุมธานีประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ เพื่อประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก

ข้าราชการและประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมใจร่วมพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์