- 14 เม.ย. 2562
ประเด็นร้อนทางการเมือง ตอนรับเทศกาลสงกรานต์ คงหนีไม่พ้น กรณีกระแสข่าวลือการ จัดตั้งรัฐบาล ที่มีแกนนำ คือ พรรคพลังประชารัฐ ว่าขณะนี้สามารถรวบรวมเสียงส.ส.ทะลุเป้า มากกว่า 250เสียง ได้เป็นผลสำเร็จ และยังมั่นใจว่ามีเสียงมากกว่าฝั่งพรรคเพื่อไทยแน่นอน
ประเด็นร้อนทางการเมือง ตอนรับเทศกาลสงกรานต์ คงหนีไม่พ้น กรณีกระแสข่าวลือการ จัดตั้งรัฐบาล ที่มีแกนนำ คือ พรรคพลังประชารัฐ ว่าขณะนี้สามารถรวบรวมเสียงส.ส.ทะลุเป้า มากกว่า 250เสียง ได้เป็นผลสำเร็จ และยังมั่นใจว่ามีเสียงมากกว่าฝั่งพรรคเพื่อไทยแน่นอน
รายงานข่าวจาก พปชร. โดยสรุป ระบุว่า ส.ส.ที่ทะลุ 250 เสียงนั้น ประกอบด้วยพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรครักษ์ผืนป่า และพรรคเล็กอื่นๆที่ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว ล่าสุดยังได้เพิ่มอีก 5 เสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 52 เสียงนั้น จะไม่มายกพรรค เนื่องจากสมาชิกทางฝั่งนายชวน หลีกภัย และคนรุ่นใหม่ในพรรคไม่เห็นด้วยกับการมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ว่าที่ ส.ส.ที่นำโดยนายถาวร เสนเนียม ยืนยันว่าจะมาและพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นมีมากถึง 35 ส.ส. ที่พร้อมจะมาร่วมพปชร.
ล่าสุดผู้ที่ตกเป็นข่าว อย่างนายมิ่งขวัญ จะออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ว่าหาใช่ความจริงแต่อย่างใด บางช่วงบางตอนระบุว่า “ผม และ ว่าที่ สส. ทุกคน ในนามพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขอยืนยัน ว่าข่าวดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และ ผมไม่เคย เข้าไปร่าวมเจรจา ทางการเมือง กับพรรคพลังประชารัฐ ใดๆทั้งสิ้น”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังปรากฏชื่อของนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ส.ส.สงขลา ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น หัวหน้า“งูเห่า” เตรียมนำบรรดาว่าที่ ส.ส. กว่า35 คน แห่งพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมจะเป็นไปได้หรือไม่ ..เพราะที่ผ่านมาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ปรากฏข่าวคราวในการแหกมติพรรคแต่อย่างใด
ขณะที่นายถาวรเองก็ได้ออกมายืนยัน ว่าตนเองนั้น “ไม่เป็นงูเห่า”อย่างแน่นอน ด้วยความเป็น ส.ส. มาถึง 7 สมัยไม่เคยทำให้พรรคเสียหาย นายถาวร ระบุว่า.. เป็นการเขียนข่าวกันเอาเอง ตนไม่ได้ให้ข่าวในนามกลุ่ม แต่ความเห็นส่วนตัวของตน ยังคงต้องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีการเมืองอยู่ 2 ขั้ว 1.ขั้วต่อต้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ2.สนับสนุนนายทักษิณ ซึ่งตนต่อต้านนายทักษิณมาตลอด
“ความคิดของผมไม่ขัดกับอุดมการณ์พรรค เพราะพรรคให้แสดงความคิดเห็นในทางการเมืองได้ และมติพรรคออกมาอย่างไร ผมกับเพื่อน จะยอมรับมติพรรค ใครก็แล้วแต่ที่ห่วงใยว่าผมจะทำให้ผิดวินัยพรรคหรืออุดมการณ์พรรค เขาคิดไปเอง หรือพูดให้ตัวเองมีราคา ผมยืนยันถ้ากลุ่มผมแพ้ก็คือแพ้ ถ้าชนะก็คือชนะ ผมอยู่ในพรรคมา 24 ปี เป็นส.ส.มา 7 สมัย ไม่เคยทำให้พรรคเสียหาย มีอุดมการณ์พรรคแน่นอน”นายถาวร กล่าว
เมื่อถามหากมติพรรคออกมาในทางลบจะเกิดงูเห่าขึ้นในพรรคหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า สำหรับตนไม่มีแน่นอน ไม่เป็นงูเห่า แต่เราพูดแทนคนอื่นไม่ได้
และยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณา ตามคำอ้างขอรายงานข่าวดังกล่าว ที่ว่าขณะนี้ สามารถรวมเสียงส.ส.ทะลุเกินครึ่ง (251+) จะเป็นจริงหรือไม่ ..ก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข จากผลการเลือกตั้ง หลังจากที่ทาง กกต. แถลงสรุปคะแนน 100% อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อนำมาคิดคำนวนตามวิธีที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ พรรคที่ได้ ส.ส. รวม ทั้งแบบแบ่งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ มากที่สุด คือพรรคเพื่อไทย สามารถได้ถึง137 เสียง ซึ่งจะไม่ได้ส.ส.จากปาร์ตี้ลิสต์เลย ลำดับ2 เป็นพรรคที่มีคะแนนป๊อบปูล่าโหวต มากที่สุด คือ พรรค พลังประชารัฐ สามารถ ได้ส.ส.รวมทั้งสิ้น117เสียง ลำดับ3 พรรคอนาคตใหม่ ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเป็นหัวหน้าพรรค ได้ 80 เสียง ชนะขาดพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาเป็นลำดับ 4 ได้ส.ส. 53เสียง ลำดับ5 พรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หะวหน้าพรรค ได้ถึง 51 เสียง
ลำดับ6 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 11เสียง ลำดับ7 พรรคเสรีรวมไทย ได้ 10 เสียง ลำดับ8 พรรคประชาชาติ 7เสียง ลำดับ9 พรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง ลำดับที่10 พรรคเพื่อชาติ ได้ 5เสียง ลำดับที่11 พรรคชาติพัฒนาและพรรคพลังท้องถิ่นไทย ได้เท่ากับ 3เสียง ลำดับที่12 พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 และลำดับที่ 13 พรรคพลังปวงชน 1เสียง
โดยก่อนหน้านี้เป็นทางฝ่ายของพรรคเพื่อไทย พร้อมพรรคแนวร่วม รวม 6 พรรค ประกอบด้วย เพื่อไทย , อนาคตใหม่ , เสรีรวมไทย ,.ประชาชาติ , เพื่อชาติ และพลังปวงชนไทย ได้ร่วมแถลงชิงตั้งรัฐบาลอ้างฝ่ายประชาธิปไตยพร้อม "ลงสัตยาบรรณ" จะทำให้เสียงทั้งหมด รวมแล้วได้ 240เสียง ... และหากรวมเศรษฐกิจใหม่ ของนายมิ่งขวัญ บวกเพิ่มเข้าไปอีก6 เสียง จะทำให้ ฝ่ายเพื่อไทย มีเสียงทั้งหมด 246เสียง
ขณะที่ฝ่ายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ผนึกกำลังกับพรรคอื่นๆ ทั้งภูมิใจไทย ,ชาติไทยพัฒนา ,รวมพลังประชาชาติไทย ,ชาติพัฒนา ,พลังท้องถิ่นไทย ,รักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคการเมืองขนาดเล็กอื่น และรวมถึง ประชาธิปัตย์ “แบบยกพรรค” !! จะทำให้รวมเสียง ทั้งหมด 254 เสียง แม้จะมากกว่ากึ่งหนึ่งจริง แต่เสียงปริ่มน้ำ จะทำให้ได้รัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ตามรายงานข่าวดังกล่าว ระบุว่า ประชาธิปัตย์จะมาเพียง 35 เสียง จะทำเหลือเสียงรวมทั้งหมดเพียง 236 เสียง หายไปถึง 18เสียง
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับการเกิดงูเห่าในพรรคประชาธิปัตย์ เพียง35 เสียง แล้วจะทำให้ฝ่ายพลังประชารัฐชา สามารถกวาดเสียงได้ทะลุเป้าเกินกึ่งหนึ่ง พูดง่ายๆ ต่อให้มีพญางูเห่าก็ช่วยอะไรมิได้ เว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์ยกมีมติรวมกับฝ่ายพลังประชารัฐเท่านั้น!!
** ทั้งนี้ การคำนวณ เป็นเพียงการคาดการณ์จำนวนว่าที่ส.ส.ของแต่ละพรรคการเมืองเท่านั้น อย่างไรเสียต้องรอ ตัวเลขจากกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ..ในวันที่ 9 พ.ค. ที่จะถึง