- 20 เม.ย. 2562
พบศพสามเณร วัย 9 ปี วัดดังกาญจนบุรี ลอยน้ำขึ้นอืดในแม่น้ำแม่กลอง หลังสาวใหญ่ผู้เป็นแม่ไปเยี่ยมลูกชายที่วัด เดินค้นหาทั่ววัด แต่ไม่มีวี่แวว สอบถามเพื่อนสามเณรบอกลงไปนั่งเล่นรับลมที่ท่าแพหลังวัด ออกเดินตามหาเท่าไรก็หาไม่พบลูกชาย แจ้งความตำรวจ ลูกชายหายตัวอย่างไร้ร่องรอย ตำรวจบอกแจ้งความยังไม่ได้ เพราะการหายตัวยังไม่ครบ 48 ชม.จึงกระทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานสาวใหญ่จึงลงภาพประกาศตามหาลูกชายแชร์กระหึ่มในโลกโชเชียล ประกาศตามหาได้เพียง 2 วัน มีคนไปพบ สามเณรน้อยกลายเป็นศพ
พบศพสามเณร วัย 9 ปี วัดดังกาญจนบุรี ลอยน้ำขึ้นอืดในแม่น้ำแม่กลอง หลังสาวใหญ่ผู้เป็นแม่ไปเยี่ยมลูกชายที่วัด เดินค้นหาทั่ววัด แต่ไม่มีวี่แวว สอบถามเพื่อนสามเณรบอกลงไปนั่งเล่นรับลมที่ท่าแพหลังวัด ออกเดินตามหาเท่าไรก็หาไม่พบลูกชาย แจ้งความตำรวจ ลูกชายหายตัวอย่างไร้ร่องรอย ตำรวจบอกแจ้งความยังไม่ได้ เพราะการหายตัวยังไม่ครบ 48 ชม.จึงกระทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานสาวใหญ่จึงลงภาพประกาศตามหาลูกชายแชร์กระหึ่มในโลกโชเชียล ประกาศตามหาได้เพียง 2 วัน มีคนไปพบ สามเณรน้อยกลายเป็นศพลอยคว่ำหน้าอยู่ในแม่น้ำมาติดทุ่นดักกอสวะ สภาพศพเน่าขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ตำรวจประสานแพทย์ร่วมมูลนิธิ รุดชันสูตรฯ ไม่พบว่าตามร่างกายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย สอบถามแม่และญาติๆ ไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาด เดินก้าวเท้าพลาดผลัดตกแพจมน้ำหายไปโดยไม่มีคนเห็นเหตุการณ์มอบศพให้แม่และญาติๆ นำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา
เรื่องราวของสามเณรน้อยผู้น่าสงสารที่จมน้ำมรณภาพครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 20 เม.ย.62 พ.ต.ต.อาคม โฉมศรีสารวัตรเวร(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากเด็กเสิร์ฟร้านอาหารครัวชุกโดน ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ต.บ้านใต้ อ.เมืองฯ ว่าขณะที่กำลังยืนรับลมอยู่ภายในร้านได้กลิ่นเหม็นเน่าซากศพพัดโชยมาทางท่าเรือข้ามฟากซึ่งอยู่ห่างจากร้านเพียง 10 เมตร และเมื่อมองไปตรงที่มาของกลิ่นก็พบว่า มีศพผู้เสียชีวิตลอยมาติดทุ่นดักกอสวะข้างท่าเรือข้ามฟากในสภาพศพเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ อายุไม่เกิน 10 ปี สวมชุดจีวรคว่ำหน้าอยู่ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุที่พบร่างของสามเณรบีม(นามสมมุติ) อายุ 9 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 7 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สภาพศพลอยคว่ำหน้าอยู่ในแม่น้ำแม่กลองมาติดทุ่นดักกอสวะในสภาพที่กำลังขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ใช้เรือลากจูงศพจากท่าจอดเรือไปไว้ที่บริเวณท่าจอดแพด้านหลังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้)นำศพขึ้นฝั่งให้เพื่อให้แพทย์และตำรวจร่วมกับมูลนิธิฯ ทำการชันสูตรศพ เบื้องต้นจากการสอบถามพระลูกวัดทราบว่า สามเณรบีม(นามสมมุติ)อายุ 9 ปี ได้มาบวชเรียนในโครงการบวชเรียนสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2562 ซึ่งเป็นโครงการบวชหมู่ของทางวัดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก่อนหน้าที่จะพบสามเณรมรณภาพครั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 ทางพระพี่เลี้ยงพบว่า สามเณรบีม(นามสมมุติ)ได้หายไป เมื่อสอบถามเพื่อนๆ สามเณรบีม ก็ทราบว่า สามเณรบีม พร้อมกับเพื่อนๆ 3-4 รูปได้เดินลงไปนั่งเล่นที่ท่าจอดแพริมแม่น้ำแม่กลองด้านหลังวัด และเมื่อเดินค้นหาก็ไม่พบว่า สามเณรบีม หายไปไหน จึงได้โทรศัพท์ประสานไปที่นางจารุณีย์ มีเย็น อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่ของสามเณรบีม และแจ้งให้ทราบว่า สามเณรบีมหายตัวไป
จนกระทั่งเวลา 14.30 น ของวันที่ 18 เม.ย.62 ที่ผ่านมานางจารุณีย์ ก็เดินทางมาที่วัด และได้สอบถามเพื่อนๆ สามเณรลูกชาย แต่เพื่อนๆ สามเณรบอกว่า สามเณรบีมได้เดินลงไปนั่งเล่นที่ท่าจอดแพด้านหลังวัดจนกระทั่งเพื่อนๆ สามเณร ที่ไปด้วยเดินกลับกุฎิกันหมด เหลือแต่สามเณรบีมรูปเดียวที่ยังนั่งเล่นอยู่ จนกระทั่งพบว่า สามเณรบีม ไม่กลับมาที่กุฎิอีกเลย มีรายงานข่าวว่า นางจารุณีย์ มีเย็น แม่ของสามเณรบีม สามเณรผู้น่าสงสารได้เดินสอบถามและติดตามค้นหาสามเณรลูกชายไปตามจุดต่างๆ ภายในวัดแต่ก็ไร้วี่แววบุตรชาย จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ในเวลาต่อมาว่า สามเณรบีม ลูกชายนั้นหายไป ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ยังแจ้งความไม่ได้เพราะระเบียบจ้อกฎหมาย หากยังไม่ถึง 48 ชม.ยังแจ้งความไม่ได้ ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่งเวลา 20 เม.ย.62 นางจารุณีย์ มีเย็น แม่ของสามเณรบีม(นามสมมุติ) สามเณรวัย 9 ปี ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ได้ทำการเผยแพร่ประกาศตามหาลูกชายในโลกโซเชียล ว่าใครที่พบเห็นสามเณรลูกชาย ช่วยกรุณาแจ้งเบาะแสให้ทราบด้วย จนโลกโชเซียลดังกระหึ่มไปในทั่ว จนกระทั่งในเวลาต่อมามีคนพบศพสามเณรลอยน้ำมรณภาพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นางจารุณีย์ มีเย็น ทราบข่าวจึงได้เดินทางมาดูศพ ทันทีที่นางจารุณีย์ เห็นสภาพศพที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ กำลังเคลื่อนย้ายลากศพ นางจารุณีย์ ถึงกับหวีดร้องล้มลงร่ำไห้อย่างน่าเวทนาต่อผู้พบเห็น และบรรดาไทยมุงที่ทราบข่าว จนบรรดาญาติๆ ต้องตรงเข้าช่วยพยุงร่างและพูดจาปลอบโยน จากนั้นจึงพาตัวไปที่ด้านหลังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำร่างของสามเณรน้อยผู้น่าสงสารขึ้นมาจากแม่น้ำเพื่อให้แพทยร่วมกับตำรวจ และมูลนิธืฯ ทำการชันสูตรพลิกศพ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า ตามร่างกายของสามเณรบีม(นามสมมึติ)ไม่พบร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้าย ส่วนสาเหตุการมรณภาพเกิดจากการจมน้ำมรณภาพสอบถามญาติไม่มีใครติดใจสงสัย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่า สามเณรบีม อาจจะเดินก้าวเท้าพลาดผลัดตกแพลงไปในแม่น้ำขณะกำลังเดินเล่นอยู่ในแพจมน้ำหายไปโดนที่ไม่มีใครเห็นก็เป็นได้ จึงมอบศพให้แม่และญาติๆ นำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ข่าว-ภาพ/วันชัย แก้ววิลัย สนั่น ศิลปะขจร ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กาญจนบุรี