- 16 พ.ค. 2562
กลายเป็นเรื่องราวอันน่าสลดใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีทารกคนหนึ่งถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ทว่าการนำเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองมาทิ้งเฉยๆ นั่นก็ว่าเลวมากแล้ว แต่นี่คนที่ขึ้นขึ้นว่าเป็นแม่กลับนำลูกแท้ๆ ของตัวเองกลบดินฝังอีกด้วย
กลายเป็นเรื่องราวอันน่าสลดใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีทารกคนหนึ่งถูกแม่ใจร้ายนำมาทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ทว่าการนำเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองมาทิ้งเฉยๆ นั่นก็ว่าเลวมากแล้ว แต่นี่คนที่ขึ้นขึ้นว่าเป็นแม่กลับนำลูกแท้ๆ ของตัวเองกลบดินฝังอีกด้วย
โดย พ.ต.ท.ภานุวัตร์ ผุดตำคำ สว.(สอบสวน) สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชุมพวงว่า ได้รับตัวเด็กทารกเพศชาย ผิวขาว หนัก 2,400 กรัม จากชาวบ้านในต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา มาดูแลรักษาช่วยชีวิตหลังจาก นายอุสา นิสัยค้า อายุ 41 ปี ชาวบ้านหมู่ 15 บ้านหนองขาม ต.ท่าลาด ซึ่งเป็นคนเลี้ยงวัวไปพบในขณะที่นำวัวไปกินหญ้าบริเวณไร่มันสำปะหลังห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร
ล่าสุดเด็กปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ นายอุสา ได้เปิดเผยว่า ขณะกำลังเลี้ยงวัวอยู่บริเวณติดกับไร่มันสำปะหลังของตน จู่ๆ ได้ยินเสียงสุนัขเห่าและได้ยินเสียงเด็กร้องตกใจ จึงรีบวิ่งไปดู พบว่า สุนัขกำลังคุ้ยเขี่ยกองดินทราย จึงสังเกตเห็นขาทารกโผล่ออกมาและตามร่างกายถูกดินทรายถมไปบางส่วน จึงได้ใช้มือโกยดินช่วยเหลือออกมาก่อนจะนำเด็กวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อเรียกให้คนช่วยและพากันนำส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชุมพวง ได้ไปตรวจสอบบริเวณจุดที่พบเด็ก พบมีกระเป๋านักเรียนสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เศษผ้า และถุงพลาสติกที่เปื้อนเลือดตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าแม่ใจร้ายน่าจะเพิ่งคลอดทารกน้อยได้ไม่นานก่อนจะนำมาฝังดินในไร่มันเพื่อหวังฆ่าให้ตาย แต่โชคดีที่เจ้าสุนัขมาพบและส่งเสียงเห่าเรียกคนมาเจอและช่วยไว้ได้ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมแม่ใจร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป