- 23 พ.ค. 2562
จากกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเอกฉัทน์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไว้พิจารณา กรณีขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่า คุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นใน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6 ) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
จากกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเอกฉัทน์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไว้พิจารณา กรณีขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่า คุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นใน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6 ) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน!!ศาลรัฐธรรมนูญมติ เอกฉันท์ รับพิจารณาคุณสมบัติ "ธนาธร" ถือหุ้นสื่อ พร้อมสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส.
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 ที่ผ่านมา นายธนาธร เปิดแถลงข่าวกรณีดังกล่าว ที่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 ตึกไทยซัมมิท ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับมติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามข้อสังเกตของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงความเห็นทางด้านข้อกฎหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (22พ.ค62 ) โดยนายธนาธรได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาคำร้องของกกต. เกี่ยวกับการเป็นสมาชิกภาพของสมาชิกผู้แทนราษฎรของตนว่าเป็นธรรมหรือไม่ มีการพิจารณาที่รีบร้อนผิดปกติหรือไม่หรือมี มูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่
พร้อมโชว์เอกสารส่งจากกกต. ลงวันที่ 17 พ.ค. ส่งมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. และมาถึง เมื่อวันที่22 พ.ค. โดยมีเนื้อ ในการเรียกสืบพยานจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต. เพิ่มขึ้น3คน แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดเล็กยังไต่สวนไม่แล้วเสร็จ นายธนาธรได้ตั้งคำถามเหตุใดคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดใหญ่จึงพิจารณาแล้วส่งข้อร้องเรียนนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในวันที่ 16 พ.ค.
กรณีดังกล่าวนี้ไม่ใช่กรณีเดียวที่เกิดความผิดปกติกับข้อร้องเรียนของ กกต.เพราะที่ผ่านมากกต.ได้เรียกนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นมารดาไปให้ปากคำโดยมีหนังสือมาในช่วงบ่ายวันที่ 22 เม.ย.แต่ระบุเวลาที่จะต้องไปให้ปากคำในช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย.ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จากนั้นก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ตนเองในวันที่ 23 เม.ย.โดยไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง
อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบความเร่งรีบของคดีนี้กับกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กรณีที่ภรรยาถือหุ้นในบริษัทเอกชนนั้น พบว่าคำร้องของ กกต.ใช้เวลา 417 วันตั้งแต่การพิจารณาของกกต.ถึงศาลรัฐธรรมนูญ แต่กรณีของตนเองใช้เวลาเพียง 53 วัน จำนวนวันที่แตกต่างคือ 364 วันหรือเกือบ 1 ปี
"คำถามคือ ทุกท่านคิดว่าผมได้รับความเป็นธรรมในกรณึนี้หรือไม่ การทำงานขององค์กรอิสระที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติในประเทศไทยเป็นธรรมหรือไม่ ผมขอเรียกร้องต่อสาธารณะช่วยกันตรวจสอบ พิจารณามติ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับผมว่าได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ มีความพยายามที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้เร็วกว่าปกติหรือไม่" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธรกล่าวต่อด้วยว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่ยืนยันที่จะเดินหน้ารวมเสียงพรรคการเมืองที่ต่อต้านระบอบเผด็จการเพื่อผลักดันให้ “ธนาธร” เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่หยุดหยั้ง และพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี นายธนาธรกล่าวต่อว่า คสช.วันนี้อยู่ในขาลง พวกเขาคือความมืด และพวกเราคือแสงสว่าง พรรคอนาคตใหม่อาสาเป็นผู้เปิดประตูสู่วันพรุ่งนี้
“เรียนพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ยังรักประชาธิปไตย ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ทุกคน เวลานี้ไม่ใช่เวลาแห่งการสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของระบบเผด็จการ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความอยุติธรรม ผมขอเชิญพ่อแม่พี่น้องทุกคนลุกขึ้นยืนและต่อสู้ร่วมกัน เพื่อทวงคืนความยุติธรรมกลับสู่สังคมไทย นั้นคือภารกิจของเรา” นายธนาธรกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ผู้มีอำนาจปชป.ดันมติเสนอชื่อ แข่งพปชร.ชิงเก้าอี้ปธ.สภาฯ จับตาไม่พ้น"ยุบสภา"เลือกตั้งใหม่"
- "ถาวร" สวนมติพรรคส่งชื่อประธานสภาฯแข่ง "พลังประชารัฐ"
- “ธนาธร” ดิ้นเฮือก หลังศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ แต่กลับปลุกสาวก..ปกป้องตัวเอง
- เพื่อไทยนั่งไม่ติด! "ภูมิธรรม" โทรเคลียร์ด่วน "มิ่งขวัญ" ตกลงอยู่จะอยู่ฝั่งไหน?