ประชาธิปัตย์เตรียมฟ้องอาญาพ่วงแพ่งอนาคตใหม่

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจาณาคดี กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตร 92 จำนวน 2 คำร้อง โดยขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 41 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยจำนวน 9 คน มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยและรับคำร้องไว้วินิจฉัย 32 คน โดยไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น

 

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หัวหน้าคณะทีมทนายความคดีถือครองหุ้นสื่อ ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 7 คน ได้ประชุมคณะทีมทนายความฯ เตรียมยกร่างคำร้องของแต่ละคนรายสำนวน หลังจากวานนี้ (3 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งสำเนาคำร้องให้ ส.ส.ทั้ง 7 คน ซึ่งตามกฎหมายจะต้องทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

 

 

 

 

“ยืนยันว่า ส.ส. 3 ใน 7 คน คือ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายสมชาติ ประดิษฐ์พร ส.ส.สุราษฎร์ธานี และ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้โอนหุ้นก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานทางราชการยืนยันชัดเจน จึงถือว่าสำนวนคำร้องของพรรคอนาคตใหม่หละหลวม ไม่มีการตรวจสอบก่อนยื่นและถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ และทั้งสามคนสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายในทางแพ่งและอาญา ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.นี้จะมีการหารือว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรตามกฎหมายต่อไป”

 

 

นอกจากนี้หัวหน้าคณะทีมทนายความคดีถือหุ้นสื่อ ยังกล่าวอีกว่า พรรคและคณะทนายฯ ไม่รู้สึกหนักใจในส่วนส่วนอีก 4 คนที่ถูกร้องว่าถือครองหุ้นสื่อ และยังไม่ได้มีการโอนก่อนการสมัครรับเลือกตั้ง แต่ละคนก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อยกร่างคำชี้แจง พร้อมทั้งเห็นว่าคดีนี้มีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมือง

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา แฟนเพจ พรรคอนาคตใหม่ – Future Forward Party ได้รายงานกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เดินทางไปยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรกรณี 30 ส.ส.ถือหุ้นสื่อว่า

 

“วันนี้ที่รัฐสภาแห่งใหม่ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคอนาคตใหม่ ทั้ง 80 คน เข้ายื่นเอกสารคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ ส.ส. เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หลังจากพรรคอนาคตใหม่ตรวจสอบแล้วพบว่า มีกรณีเข้าข่ายจำนวน 30 คน รวมถึงยื่นหนังสือ ขอเสนอญัตติ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย”