- 21 ก.ค. 2562
ทนายเดชา โพสต์ตอกหน้าโซเชียล หลังขึ้นลิฟต์พร้อม หนุ่ม กรรชัย ถือโฉนดออกเร่ขาย หาเงินช่วยคดีแพรวา
จากกรณี น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ แพรวา ขับรถยนต์ฮอนด้าเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ บริเวณหน้าช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ศพ และบาดเจ็บอีก 6 ราย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 (9 ปีที่ผ่านมา)
โดยประเด็นดังกล่าวกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า tintin ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในกรณีนี้ เขาคือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนรถตู้คันที่เกิดเหตุ ล่าสุดได้ขยายความและเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาเกือบ 9 ปี นับตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เรื่องราวของเขากำลังได้รับความสนใจอยู่ในเวลานี้ โดยระบุว่า...
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 เป็นช่วงสอบมิดเทอมชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องอยู่อ่านหนังสือจนดึก เพื่อสอบวิชาสุดท้าย วันนั้นกลับบ้านด้วยรถตู้โดยสาร และหลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาสอบอีกเลย มีผู้เสียชีวิต 9 คน และรอดชีวิต 4 คน
"เราหลับตื่นมาอีกทีด้วยเสียงกรีดร้อง พบว่าตัวเองอยู่บนโทลเวย์แล้ว พอถึงโรงพยาบาล พบว่ากระดูกไหปลาร้าเราหัก 3 กระดูกเข่าซ้ายแตก แขนขวาหักพร้อมแผลใหญ่ กระจกรถปักทั่วร่างจนเลือดอาบหน้า เราโดนชน 3 ทุ่ม แต่ได้เข้าห้องผ่าตัดตอน 7 โมงเช้า ตอนนั้นมีคนที่หนักกว่าเราเยอะ"
หลังจากผ่าตัดขยับร่างไม่ได้เลย เพราะโดนพันท่อนล่างทั้งหมด เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ต้องนอนนิ่งๆ บนเตียง ร้องไห้บ่อยมาก หงุดหงิดตัวเองที่ต้องมาเป็นแบบนี้ และแน่นอนว่าไม่ได้ไปเรียน ครั้งแรกที่ได้เจอแพรวา มาพร้อมกับคุณแม่และช่างภาพ ยังนอนติดเตียงอยู่เลย น้องนั่งรถเข็นมาในห้อง คนที่พูดทั้งหมดคือแม่ของน้อง พอพูดจบจึงบอกว่า "ขอโทษพี่เขาสิลูก" น้องก็พูดว่า "ขอโทษค่ั" นั่นคือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน พร้อมกับขนมเปี๊ยะบ้านอัยการและถ่ายรูป
"ตอนนั้นไม่รู้สึกถือโกรธแล้วเพราะมันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ เราก็สึกสึกดีนะที่มาขอโทษ ที่เขาไม่พูดเพราะเขายังเด็กอาจจะกลัวด้วย พอน้องออกไป พี่พยาบาลก็มาเล่าว่าน้องเขาเดินมาปกตินะ แต่มาขอรถเข็นหน้าวอร์ด เราเลยอึ้งไปพักนึง"
หลังจากนั้นก็ต้องกายภาพ หัดเดินให้กลับมาเป็นปกติอีก 1 ปี ระหว่างนั้นก็กลับไปเรียนต่อด้วย ร่างกายกลับมาปกติทุกอย่างในอีก 3 ปีให้หลัง แต่ก็ต้องไปๆ มาๆ หาหมออยู่เรื่อยๆ ค่ารักษาพยาบาลประกันรถเป็นฝ่ายจ่ายให้ แต่หลังจากออกโรงพยาบาลแล้วก็ต้องจ่ายเอง ซึ่งเป็นจำนวนตามที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายไป
"คดีความแบ่งเป็น 2 คดีคือ อาญาและแพ่ง อาญา มาหากันว่าใครผิดระหว่างรถตู้หรือแพรวา ระหว่างนั้นคุณป้าซึ่งเป็นแม่คนขับรถตู้ จะยกมือขอโทษเราทุกครั้ง 'ขอโทษที่ลูกสาวป้าทำให้เราเจ็บ' เราไม่ได้ถือโกรธเลย แต่เราไม่ได้คำยินคำนี้จากแพรวาเลย"
นอกจากนี้ เหยื่อผู้เสียหายจึงได้เล่าถึงกระบวนการทางกฎหมายที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เกิดการต่อรองกันต่างๆ นานา โดยเฉพาะค่าชดเชยเยียวยาเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถึงขนาดที่ผู้เสียหายใช้คำว่า "เขาต่อราคาเรายังกับผักกับปลา" ทำให้เขารู้สึกว่าตลอด 9 ปีของการต่อสู้บนชั้นศาล เป็นช่วงเวลาที่สูญเสียพลังใจไปตลอดเวลา
และล่าสุดเขาได้รับหมายศาลชัน้ฎีกาของคดีแพ่ง ที่หวังว่าคดีจะจบลงเสียที แต่คำพิพากษาใดๆ ก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะยังถูกประวิงเวลาไปอยู่เรื่อยๆ อยู่เช่นเดิม
สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวนั้น ในโลกโซเชียลก็ต่างตีความหมายต่างๆ นาๆ ว่างการขายที่ดินเพื่อมาชดใช้ผู้เสียหายคดีแพรวา 9ศพ ว่าที่ดินดังกล่าวนั้น ขายยากที่ดินไม่มีราคาที่ดินติดจำนอง ที่ดินติดคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นต้น
ทำให้เพจเฟซบุ๊กอย่าง ทนายคลายทุกข์ ได้ดพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า หนุ่มกรรชัยโหนกระแสถือโฉนดออกเร่ขายเพื่อเอาเงินมาช่วยเหยื่อคดีแพรวา ปัจจุบันมีคนสนใจหลายรายแล้วครับ เชื่อว่าไม่นานคงจะได้เงินไปเยียวยาเหยื่อ #ฝากไปยังพวกปากหอยปากปูทางโซเชียลทั้งหลาย ไม่ได้ช่วยเหลือแต่กลับพูดจาโจมตีให้เสียหาย เช่นที่ดินขายยากที่ดินไม่มีราคาที่ดินติดจำนอง ที่ดินติดคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นต้น คนเหล่านี้ดีแต่ปาก
ขอบคุณภาพจาก ทนายคลายทุกข์