- 03 ก.ค. 2563
สืบเนื่องจากกรณีแกนนำคนเสื้อแดงนปช.คนสำคัญ อย่าง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน อันเป็นความผิดจากการนำมวลชนบุกรุกบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ (ในขณะนั้น) เมื่อช่วงปี 2550
สืบเนื่องจากกรณีแกนนำคนเสื้อแดงนปช.คนสำคัญ อย่าง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน อันเป็นความผิดจากการนำมวลชนบุกรุกบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ (ในขณะนั้น) เมื่อช่วงปี 2550
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : เปิดช็อตภาพอิสระสุดท้าย 5 แกนนำนปช.โดนศาลฎีกาสั่งจำคุก เดินแถวขึ้นรถขังเรือนจำ 2 ปี 8 เดือน )
ล่าสุด นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานนปช. กล่าวภายหลังจัดกิจกรรมเขียนจดหมายหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า การเดินทางเข้าไปเรือนจำยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยโดยตรง แต่เป็นการเขียนหนังสือ ข้อความผ่านทนายความและทำได้แค่โบกมือให้กัน ทั้งกรณีของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ลูกสาวเขียนข้อความพร้อมวาดภาพผ่านเข้าไปให้ หรือ กระทั่งตัวนพ.เหวง ก็มีบ้างที่ต้องเลี่ยงอธิบายให้หลานซึ่งยังเด็กวัยแค่ 3 ขวบฟังเมื่อเขาถามถึงปู่ไปไหน
ส่วนกิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นการแสดงเจตนาเพื่อสื่อสารความรู้สึกจากคนด้านนอกไปถึงคนที่อยู่ด้านใน ซึ่งจากการสอบถามกับทนายความก็ถือเป็นเนื่องน่าดีใจ ที่รู้ว่าทุกคนซึ่งยังอยู่ในแดน 2 มีโอกาสได้รับรู้สิ่งที่พวกเราต้องการบอกไปถึง โดยเฉพาะการให้กำลังใจกันและกันซึ่งก็ทำได้แค่นั้นในเวลานี้ ตามระเบียบว่าด้วยการกักตัวของกรมราชทัณฑ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และขอให้คนด้านในเขียนหนังสือตอบกลับมาบ้าง จะได้มาแชร์ความรู้สึกกันและกัน
"ส่วนตัวอยากพูดถึงประเด็นเรื่องการกักตัว ว่าตอนนี้มีแต่ในต่างประเทศเท่านั้น ที่เขาต้องทำในลักษณะนี้ ซึ่งก็พยายามเข้าใจว่าเป็นระบบของประเทศ ที่ผู้น้อยต้องทำตามผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องทำตามเพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่โมโหโกรธา ซึ่งกรณีของคนอยู่ในเรือนจำเวลานี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีโอกาสได้เจอ เพราะกว่าญาติ หรือ มวลชนจะได้เจอก็ต้องผ่านไป 14 วัน หรือช่วงวันที่ 15 - 16- 17 ก.ค. แล้วหลังจากนั้นก็เป็นวันที่ 31 ก.ค. ด้วยเงื่้อนไขที่กำหนด และเมื่อพวกเขามาศาลอีกครั้ง ก็ต้องถูกกักตัวใหม่อีกครั้ง จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับการต้องมาเจอบางคนในสภาพถูกตีตรวน ในฐานะผู้แพ้ในทางอำนาจ แต่ไม่ใช่ผู้แพ้ทางการเมือง"
นอกจากนี้ นางธิดา ยังกล่าวถึงคดีการบุกรุกบ้านพล.อ.เปรม ซึ่งเป็นเหตุทำให้แกนนำนปช.ต้องได้รับโทษจำคุก ว่า เป็นคดีที่สร้างแรงกระทบจิตใจประชาชนอย่างสูง เพราะได้ก่อให้เกิดลักษณะเปรียบเทียบว่ามันรุนแรงไปหรือเปล่า เพราะในขณะที่คนบุกรุกสถานที่ของรัฐเป็นเวลานานมาก กับกรณีนี้ซึ่งเป็นแค่การยืนอยู่หน้าบ้านไม่กี่ชั่วโมง ทำไมโทษถึงได้แตกต่างกันมากนัก ทั้งหมดเป็นคำถามในหัวใจประชาชน ถ้ามองในทางการเมือง กรณีคนของเราติดคุกติดตาราง บางคนอาจจะคิดว่าแพ้ แต่ถ้ามองในเกมส์การต่อสู้ทางการเมืองและความยุติธรรม ส่วนตัวคิดว่าเราชนะ เพราะผู้คนในประเทศเห็นว่าความยุติธรรมในประเทศยังเป็นที่สงสัยอยู่
"เรื่องความยุติธรรรมนี่เป็นเรื่องที่พูดกันมาโดยตลอดว่าไม่ใช่สิ่งสมบูรณ์ ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้มันต้องมาจากคนมันเท่าเทียมกันจริง แต่วันนี้มันไม่เท่าเทียม เนื่องด้วยความเป็นระบอบ และเราเป็นฝ่ายต่อต้านระบอบที่ดำรงอยู่ ดังนั้นเราจึงต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำเช่นนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องมีการต่อสู้กันต่อไปในเรื่องความเท่าเทียม เรื่องสิทธิเสรีภาพ และ เรื่องระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เหมือนที่คนรุ่นก่อนๆได้อุทิศชีวิตต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ จึงขอให้ทุกคนคิดว่าการที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำไม่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องส่วนรวม และไม่ใช่เรื่องเสียเปล่า"
ในช่วงท้ายนางธิดา ระบุว่า กรณีคดีความของบรรดาแกนนำนปช.ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ทุกคนยังจะต้องเผชิญกับการต่อสู้คดีอีกมากพอสมควร เนื่องจากคดีที่ทำให้ทุกคนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำวันนี้เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในปี 2551 แต่มาเข้าสู่กระบวนการในปี 2552 ซึ่งก็มีกรณีของนายจตุพรรวมอยู่ด้วยแต่เป็นงวดหลัง ในขณะที่เรายังมีคดีอาญาที่เกิดขึ้นในปี 2552 และ 2553 แล้วยังต้องเจอคดีแพ่งอีก 2 คดี แต่ละคดีที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย รวมดอกเบี้่ยแล้วก็มีตัวเลขอยู่ที่กว่า 40 ล้าน และขอยืนยันแต่ละคดีไม่มีอะไรเชื่อมโยงมาถึงพวกเราเลย เพียงแต่บางกรณีเป็นเรื่องของตรรกะ เช่นการอ้างว่าที่ตรงนั้นมีคนอยู่แค่ 2 กลุ่ม ระหว่างคนเสื้อแดงกับทหาร ซึ่งทหารไม่มีทางเผาจึงเป็นเรื่องที่คนเสื้อแดงต้องชดใช้
"กรณีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์อันนี้จบไปแล้ว เพราะคนที่ถูกกล่าวหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯก็เช่นกัน แต่เรามีคดีแพ่ง 2 คดี ที่ศาลฎีกาแพ่ง ตัดสินไปแล้วว่าแกนนำต้องชดใช้ รายละกว่า 40 ล้าน นี่คือชะตากรรมคดีแพ่งและอาญา
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ศาลฎีกายืนคำพิพากษาสั่ง จตุพร-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง ชดใช้กว่า 21 ล้าน เหยื่อเผาตึกย่านอนุสาวรีย์ชัย ปี 53 )
ก่อนหน้านั้น นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้เคยโพสต์ชี้แจงคำถามในประเด็นเดียวกับที่นางธิดากล่าวถึง ว่า "ชี้แจงกรณีนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี กล่าวหาว่าคดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบิน ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม.เป็น Sound of Silence ขอชี้แจงว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม. ถูกศาลฏีกาพิพากษาลงโทษ 5 แกนนำ 1 ผู้ประสานงานให้จำคุกคนละ 8 เดือน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ในคดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วัน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปีกว่า ศาลอุทธรณ์ ลดโทษเหลือ 8 เดือน ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกคนละ 8 เดือน
และขณะนี้ ทางทำเนียบรัฐบาลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอีกกว่า 10 ล้านบาท ต่อแกนนำและผู้ประสานงาน คดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีที่ศาลแพ่ง ส่วนคดีสนามบิน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ จำเลยในคดีนี้มีกว่า 90 คน
ส่วนคดีแพ่ง 2 คดี มีคดีการท่าฯและหอบังคับการบิน คดีสิ้นสุดที่ศาลฏีกาไปแล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยเกือบพันล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ทั้งแกนนำ พธม.ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อยู่ และที่มวลชนบุก NBT ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลืออีกสองสามคนที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และก็ยังมีบางคนที่ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร
ส่วนตัวผมเองและพรรคพวกนั้น ก็อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนกบฎ ในคดีการชุมนุม คปท.แต่ถูกฟ้องร่วมในคดีของ กปปส.ที่โดนข้อหากบฎ ในระหว่างการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มวลชน พธม.ถูกลอบยิงด้วย M 79 เกือบทุกคืน ทำให้มีคนตายไป 10 คนและบาดเจ็บพันกว่าคน พิการ 4 คน นอกจากนี้มวลชน พธม.ยังถูกตำรวจล้อมปราบที่บริเวณหน้ารัฐสภาฯตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงหัวค่ำในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อย่างโหดเหี้ยม โดยผู้สั่งการของฝ่ายรัฐบาลที่ถูก ปปช.ฟ้องร้อง ถูกศาลยกฟ้องทั้ง 5 คน
ในสมัยนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.ยังถูกลอบยิงตอนเช้ามืด กลางกรุงเทพมหานคร ด้วยกระสุนสองร้อยกว่านัดพร้อมกระสุน M 79 ทำให้บาดเจ็บสาหัสร่วมกับคนขับรถ จนบัดนี้ยังจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว นี่ยังไม่นับเหตุการณ์การชุมนุมของ คปท.และ กปปส. ที่ถูกลอบยิงทั้งกระสุนปืนและ M 79 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเช่นเดียวกับการชุมนุมของ พธม. ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จึงรายงานมาเพื่อทราบเพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริวของประชาชนทุกหมู่เหล่า"