- 06 ต.ค. 2563
กำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ จากที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.อรอุมา หรือ ครูจุ๋ม เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองของเด็กอนุบาล หลังจากที่ได้เห็นคลิปที่ครูจุ๋มทำร้ายลุกของตน จึงบันดาลโทสะ กระโดดทีมครูจุ๋ม ซึ่งทำให้ผลเสียตกไปอยู่ที่ ทนายเดชาอย่างจังจนแฟนคลับหลายคนขอเลิกติดตาม
กำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ จากที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.อรอุมา หรือ ครูจุ๋ม เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองของเด็กอนุบาล หลังจากที่ได้เห็นคลิปที่ครูจุ๋มทำร้ายลุกของตน จึงบันดาลโทสะ กระโดดทีมครูจุ๋ม ซึ่งทำให้ผลเสียตกไปอยู่ที่ ทนายเดชาอย่างจังจนแฟนคลับหลายคนขอเลิกติดตาม
ล่าสุด ทนายเดชา ได้โพสต์คลิปพร้อมทั้งระบุข้อความว่า "#ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กับทนายคลายทุกข์ จะมุ่งมั่นให้ความรู้ทางกฎหมายและวิเคราะห์ข่าวเด่นคดีดังต่อไปท่านใด มีปัญหาข้อกฎหมายยังคงปรึกษาได้เหมือนเดิมได้ที่ 02-9485700 หรือ 081-6161425 สิ่งใดที่ผมตัดสินใจผิดพลาดไปต้องกลับขออภัยพี่น้องประชาชนมานะที่นี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันคือวิชาชีพทนายความ จึงเรียนมายังท่านเพื่อทราบจากทนายคลายทุกข์ผมจะสู้ต่อไปให้ความรู้ทางกฎหมายกับประชาชนต่อไปครับ #ส่วนคนที่ด่าผมผมก็ไม่โกรธครับ"
นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังเปิดเผยว่า สาเหตุที่รับว่าความให้ฝั่งครูจุ๋ม และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ปกครองนักเรียนที่ทำร้ายด้วยการตบและถีบครูจุ๋ม เนื่องจากตนไปคุยกับผู้บริหารโรงเรียน จึงถูกชักชวนให้ไปเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งตนก็ตอบรับเพราะเป็นวิชาชีพ เพราะมองว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ต้องมีทนายว่าความให้ ใครจะไม่พอใจหรือไม่ก็แล้วแต่ เพราะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นว่าจะเลิกติดตาม ก็เชิญตามสบาย เพราะตนไม่ได้มีรายได้จากเฟซบุ๊กหรือยูทูบอยู่แล้ว บางคนบอกว่าตนเห็นแก่เงิน ก็การว่าความไม่เห็นแก่เงินแล้วจะให้เห็นแก่อะไร
การที่พาครูจุ๋มไปแจ้งความเพราะเขาถูกตบอย่างรุนแรง ผู้ปกครองไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำร้ายใคร การที่ครูจุ๋มทำร้ายเด็กแล้วถูกแจ้งความ ผู้ปกครองมาทำร้ายครูจุ๋มก็ต้องถูกแจ้งความเช่นกัน ซึ่งครูพี่เลี้ยงทุกคนที่โดนแจ้งความดำเนินคดีนั้น ยังไม่ได้เห็นหลักฐานทั้งหมด บางสิ่งบางอย่างเกินจริงก็มี พี่เลี้ยงโดนแจ้งความเกินจริงก็มี
นอกจากนี้ ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ตนถูกต่อว่ามากมาย แต่ที่ทนายบางคนว่าความให้ดาราเรื่องยาเสพติด ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย มีทนายบางคนโพสต์ด่าตนว่าตนเป็นทนายให้คนชั่ว ตนถามว่าครูจุ๋มทำผิด เขาก็รับผิดแล้ว ศาลก็ลงโทษตัดสินไปตามกฎหมาย แต่มีการยุยงให้เอาผิดครู เอาผิดพี่เลี้ยงคนอื่นๆ ที่กำลังทำงานอยู่แต่ต้องโดนข้อหาไปด้วย ถ้าไปถามพนักงานสอบสวนดูก็จะรู้ว่ามันเกินจริงไปมาก การแจ้งความเกินจริงก็ต้องโดนดำเนินคดีกลับแน่นอน
ทั้งนี้ ฟังแต่ผู้ปกครอง อยากให้ฟังฝ่ายโรงเรียนบ้าง ตนรู้มาจากโรงเรียนว่ามีนักกฎหมายไปยุยงส่งเสริมให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลายล้านบาท ทั้งที่เจ้าของโรงเรียนก็ขอโทษไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว ทำตามข้อเรียกร้องของผู้ปกครองหมดแล้วแต่ก็ไม่จบ โรงเรียนยินดีจะเจรจาก็ไม่คุย เหตุเกิดที่สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ก็ลามไปว่าสาขาอื่น การทำร้ายเด็กมีบางห้องบางคนก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่กลับมีครูหลายคนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนด่าไปด้วย เด็กโดนถ่ายรูปโดนล้อไปด้วย
จะให้ปิดโรงเรียน ถามว่าปิดได้ไหม แล้วผู้ปกครองที่เป็นข่าวก็ยังไม่เอาลูกออก มีเอาออกแค่ 5 คนเท่านั้น พี่เลี้ยงทำผิดก็ติดคุกติดตะรางไป อย่าไปฟังแค่นักกฎหมายที่ชอบยุยงส่งเสริม การลาออกจากโรงเรียนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อยากรู้ว่าที่ไหนที่ดีกว่าโรงเรียนนี้บ้าง ในเมื่อเจ้าของเป็นถึงนายกสมาคมโรงเรียนเอกชน
นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังกล่าวอีกว่า ครูแพรว ครูอิง จะยังไม่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ตามที่เคยแจ้งกับพนักงานสอบสวนไว้ เนื่องจากมีความเครียดและกังวลใจจึงรอเดินทางมาพร้อมตนภายในอาทิตย์นี้ ส่วนเรื่องการมาว่า ความให้ฝั่งโรงเรียนนั้นส่งผลให้มีคนฝ่ายออกมาท้วงติงนั้น ตนมองว่า เป็นเรื่องปกติที่ผู้ถูกกล่าวหาจะหาทนายว่าความให้ เพราะแม้แต่คดีข่มขืน คดีฆ่ากัน ยังมีทนายของรัฐมาว่าความให้ และถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถกระทำได้
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ครู พี่เลี้ยง ที่ปรากฏในคลิปนั้นไม่ได้มีความเลวร้ายหมดทุกคน จะต้องดูบริบทในขณะเกิดเหตุด้วย โดยเฉพาะครูอิงที่มีภาพในกล้องวงจรปิดว่าเอาเข่ายันเด็ก และใช้ถุงดำห่อเด็กนั้น ในความเป็นจริงไม่ได้เอาเด็กใส่ถึงดำแต่เพียงแค่เอามาครอบเพื่อหยอกเล่นเท่านั้น
"ผมมีเอฟซีของผมตั้ง ล้านสองที่ต้องดูแล ผมไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องมาดูแลทั้งประเทศ ไม่ใช่หาที่ผม จะไปแคร์อะไรล่ะ ผมไม่สนใจ เพราะผมไม่ใช่ส.ส.นะ ผมเป็นทนายเอกชน ใครพอใจก็จ้างผม ไม่พอใจก็ไม่ต้องจ้าง จะไปกลัวอะไร แล้วรู้ได้ไงว่าไม่มีใครจ้างผม เยอะแยะงานผมตอนนี้ ก็ยังยืนยันจุดยืนว่า เป็นทนายให้กับลูกความ ลูกความตกลงว่าจ้าง ค่าทนายโอเค และเราก็ไม่ได้บิดเบือพยานหลักฐาน แล้วเราก็ว่าความไปตามหลักฐานก็จบ ทนายความทั่วไปเขาก็เห็นดีด้วย เขาก็ให้กำลังใจมาว่า พี่เดชา ดีแล้วไม่ต้องไปสนใจอะไร"