- 05 ต.ค. 2563
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2563 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา”ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในนามตัวแทนเครือโรงเรียนสารสาสน์อย่างเป็นทางการ พร้อม น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ “ครูจุ๋ม” เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชาญวิทย์ (สงวนนามสกุล) และภรรยา ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ด.ช.เอ (นามสมมุติ)
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2563 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา”ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในนามตัวแทนเครือโรงเรียนสารสาสน์อย่างเป็นทางการ พร้อม น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ “ครูจุ๋ม” เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชาญวิทย์ (สงวนนามสกุล) และภรรยา ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ด.ช.เอ (นามสมมุติ) ที่เข้าทำร้ายร่างกาย “ครูจุ๋ม” เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศน์ราชพฤกษ์ หลังเห็นกล้องวงจรปิดน้องเสือถูกทำร้ายร่างกายและระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงเข้าทำร้าย
ทั้งนี้ทางทนายเดชา กล่าวว่า ตนมาในนามโรงเรียน ที่พนักงานสอบสวนได้เรียกไป วันนี้ครูที่ถูกตบตีจะมาแจ้งความด้วย ตนว่าความตามหลักฐานไป ใครผิดก็ว่าไปตามหลักฐาน วันนี้นำหลักฐานมายื่นให้พนักงานสอบสวนโดย น.ส.อรอุมา หรือ "ครูจุ๋ม" มาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองสองคน ที่ทำร้ายร่างกายครูจุ๋ม เมื่อวันที่ประชุมที่โรงเรียน ซึ่งตนรับผิดชอบทุกคดีของโรงเรียน คือประมาณ 30 คดี ครู 13 คน เรื่องคดีก็ว่าไปตาม พยานหลักฐานว่ากันที่ศาล
ล่าสุดจากกระแสที่เหมือนจะตีกลับหลังทนายเดชา ออกมาประกาศช่วยเหลือครูจุ๋ม ชาวเน็ตต่างนำมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าถือเป็นเรื่องไม่สมควร และทางเพจ ชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ของ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ดังได้ก็ดับได้ 35 ปีไม่มีความหมาย หากไปฟ้องครูผู้ปกครอง ชมรมไม่เห็นด้วย อย่าเห็นแก่เงินจนลืมคุณธรรม ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เตือนด้วยความหวังดี โรงเรียนค่าเทอมแพง จ้างครูไม่มีคุณภาพทำนักเรียน แทนที่จะสำนึกแสดงความรับผิดชอบ