- 11 ต.ค. 2563
อานนท์ นำภา กร้าวปลุกระดมมวลชน ทำสิ่งมิบังควรต่อขบวนเสด็จฯ ก่อนเคลื่อนตัวล้อมทำเนียบ พล.ท.นันทเดช ชี้เป็นหนึ่งวิธีการหาทางลง ยั่วยุจนท.รัฐให้ใช้ความรุนแรงม็อบ
ถือเป็นประเด็นการเมืองที่ทุกฝ่ายเฝ้าจับตา สำหรับกลุ่มบุคคลที่เคยตั้งชื่อว่าเป็นเยาวชนปลดแอก ก่อนจะอ้างตัวเองเป็น "คณะราษฎร" มีการนัดหมายชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 14 ต.ค. 2563 พร้อมระบุข้อเรียกร้องสำคัญในการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างสถาบันกษัตริย์ โดยอ้างเรื่องประชาธิปไตย แต่นานวันเข้าดูเหมือนการเคลื่อนไหว จะกลายเป็นการก้าวล่วง คุกคาม ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : อานนท์สุดกร้าว วิพากษ์สถาบันฯโจ่งแจ้ง ลั่นไม่ปิดกั้นขบวนเสด็จฯ แต่จะยืนชู 3 นิ้ว )
ล่าสุด นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ความเพิ่มเติม เกี่ยวกับขบวนเสด็จฯ ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงความเหมาะสม และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งของหมู่คนไทย ในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อการปลุกระดมความรู้สึกมวลชนอีกครั้ง ว่า "ความผิดพลาดของชนชั้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องขบวนเสด็จมาโจมตีการชุมนุม คือ เขาลืมไปว่าสังคมมันไม่เหมือนเดิมแล้ว คนจำนวนมากเขาไปไกลกว่าที่แกนนำบนเวทีพูดแล้ว ความศักดิ์สิทธิจอมปลอมมันถูกทลายลงแล้ว แม้แต่คนที่เชียร์....เขาก็เอือมกันแล้ว"
พร้อมระบุด้วยว่า "14 ตุลา หลังส่งเสด็จด้วยการชู 3 นิ้วที่ราชดำเนิน ขบวนประชาชนทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปตั้งเวทีปราศรัยไล่ประยุทธ์ และพักค้างรอบทำเนียบรัฐบาล ขอเชิญทุกท่านมาไล่ประยุทธ์ด้วยกัน นอนค้างบนถนนร่วมกับพี่น้องประชาชน"
ทางด้าน พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมือง ผ่านการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. 2563 หัวข้อเรื่อง "ม็อบปลดแอก กำลังหาทางลง" ระบุใจความสำคัญว่า เนื่องจากใกล้วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่าย ต้องการความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยทุกท่าน ตามเหตุผล ดังนี้
1️.ม็อบที่อ้างว่ามี 30 องค์กร หรือม็อบปลดแอก นั้น ปัจจุบัน กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อม็อบกลุ่มนี้ จึงเตรียมหาเหตุในการลงแบบสวยงามอยู่ โดยน่าจะอ้างหรือกระทำใน 3 ลักษณะ ดังนี้
(1) หาทางก่อเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ หรือ ประชาชนฝ่ายตรงข้ามโดยหาเหตุผลอ้างว่า "ถูกรังแกก่อน" จึงจำเป็นต้องยุติการเคลื่อนไหว
(2) การกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้กฏหมายเพื่อหาทางยุติการชุมนุมของพวกตน
(3) การกล่าวหาว่าหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินทำขึ้นมาที่หลังการชุมนุม ของพวกตน ทั้งที่หมายกำหนดการมีมาล่วงหน้าเกือบ 2 เดือน ซึ่งเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมานั้น กลุ่มม๊อบปลดแอกยังไม่รู้เลยว่าจะใช้สถานที่ไหนเคลื่อนไหว
2️.การเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อหาเหตุยุติการชุมนุมอย่างสวยงาม ทั้ง 3 ลักษณะนั้น จะทำได้ยากมาก ถ้าทำต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากพอเริ่มก็ใช้ความรุนแรงจริงๆขึ้นมาเองก่อน เช่น การใช้สี หรือวัตถุเน่าเสีย สาดเจ้าหน้าที่ที่รักษาการ หรือ บุกฝ่าแนวกั้นจุดสำคัญๆ ซึ่งกรณีนี้ม็อบปลดแอกไม่น่าจะกล้าทำ เพราะคราวนี้เจ้าหน้าที่ต้องจัดการอย่างเด็ดขาดแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ม็อบปลดแอก น่าจะทำมากที่สุด คือ การอ้างถึงการเคลื่อนไหวของ" กลุ่มประชาชนที่ออกมาต่อต้าน "
3️.การออกมาต่อต้านม็อบ หรือแกนนำม็อบ ของประชาชนบางกลุ่ม ในห้วงเวลาใกล้ๆนี้ น่าจะส่งผลในทางลบต่อฝ่ายรัฐบาล และส่งผลดีต่อ ม็อบปลดแอก เช่น
(1) ทำให้ม็อบปลดแอกมีความชอบธรรมมากขึ้น
(2) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลำบาก เพราะม็อบปลดแอกจะอ้างว่า ทำไมฝ่ายต่อต้านถึงทำแบบนั้นได้ แต่ฝ่ายตัวทำไม่ได้
(3) ถ้าเกิดการปะทะกันขึ้น ในบางสถานที่ จะทำให้มีผู้เห็นใจม็อบปลดแอกได้
(4) การดำเนินงานทางกฏหมายต่อความผิดของแกนนำกลุ่มม็อบปลดแอก ซึ่งจะมีขึ้นหลายคดีต่อจากนี้ไป จะได้รับผลกระทบอาจทำให้ต้องเลื่อนเวลาต่อไปอีก
ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยกับการออกมาต่อต้านกลุ่มม็อบปลดแอกของประชาชน บางกลุ่มในระยะนี้ แต่เห็นด้วยกับการออกมาร่วมชุมนุมถวายความอาลัยอย่างสงบ ทั้งที่ท้องสนามหลวง และโรงพยาบาลศิริราช และเห็นด้วยถ้าจะออกมาต่อต้าน กลุ่มม็อบปลดแอก ในห้วงเวลาที่เหมาะสม ต่อไปครับ
ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ออกมาต่อต้านกลุ่มม็อบปลดแอก ในห้วงเวลา 2-3 วันนี้ ผมจึงขอยืนยันว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม แต่อย่างใด