- 05 พ.ย. 2563
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการเอาผิด 2 ร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง หลังพบมีพฤติกรรมทุจริต ด้วยวิธีการทำรายการซื้อขาย แต่ไม่ได้มีการจำหน่ายสินค้าออกไปจริง จึงสั่งระงับการใช้ระบบแอปพลิเคชันถุงเงิน และจัดการยึดเงินคืนกลับมาทั้งหมด พร้อมขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการอีก ซึ่งนอกจาก 2 ร้านดังกล่าวแล้ว ยังพบมีอีกนับ 10 ร้านที่ทำในลักษณะดังกล่าวอีกด้วย
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการเอาผิด 2 ร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง หลังพบมีพฤติกรรมทุจริต ด้วยวิธีการทำรายการซื้อขาย แต่ไม่ได้มีการจำหน่ายสินค้าออกไปจริง จึงสั่งระงับการใช้ระบบแอปพลิเคชันถุงเงิน และจัดการยึดเงินคืนกลับมาทั้งหมด พร้อมขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการอีก ซึ่งนอกจาก 2 ร้านดังกล่าวแล้ว ยังพบมีอีกนับ 10 ร้านที่ทำในลักษณะดังกล่าวอีกด้วย
ล่าสุด นายอรรถพล อรรถวรเดช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) นำส่งข้อมูลสำหรับใช้ในการสืบสวนสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับร้านค้าจำนวน 3 ราย ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)
นอกจากนี้ นายอรรถพล กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงการคลังได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องอุทธรณ์สำหรับโครงการคนละครึ่งเพื่อดำเนินการตรวจสอบพิจารณาและวินิจฉัยการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ ซึ่งในขณะนี้พบว่ามีร้านค้าจำนวน 3 ร้านค้า มีเหตุอันควรสงสัยว่าเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ดำเนินการระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งหากตรวจสอบพบการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที จึงขอเตือนประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ที่เป็นการดำเนินการผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนและกระจายรายได้ให้กับร้านค้ารายย่อยโดยเฉพาะหาบเร่แผงลอยให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้โครงการได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. มียอดใช้จ่ายสะสม 5,815.37 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 2,966.46 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 2,848.91 ล้านบาท จึงขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการไปในทางมิชอบ เพื่อมิให้ทำลายบรรยากาศของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<