- 28 ก.ค. 2563
กรณีเหตุการณ์หนุ่มใหญ่ ชาวบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายร่างกายตำรวจ ก่อนจะถึงจุดจบชีวิต
กรณีนายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ชาวบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คลุ้มคลั่ง อาละวาดในบ้านนางทองคำ เคนโสม วัย 56 ปี พี่สาว หลังขอเงิน 100 บาทไปซื้อเสพ ใช้มีดฟันศีรษะและต้นแขน ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม รับแจ้งมาระงับเหตุ จนบาดเจ็บ
ก่อน ร.ต.ท.วิจิตร ใช้ปืนยิงขานายลำเพย 2 ข้าง อ้างว่านายลำเผย ผู้เสียชีวิตแย่งปืน เกิดลั่นใส่ดับอ้างว่า ป้องกันตัว ด้าน ญาติได้โพสต์คลิปวีดีโอขอความเป็นธรรมให้ผู้ตาย ก่อนเข้าแจ้งความเอาผิดกับตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 พ.ต.ท.อธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เจ้าของคดี กล่าวว่า ศพนายลำเพย ผู้ตาย ได้ฝากไว้ที่ห้องดับจิต รพ.นครพนม ญาติไม่รู้ขั้นตอนยืนยันจะขอรับศพนำไปเผาอย่างเดียว เนื่องจากติดวันหยุดยาว 4 วัน ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 จะประสาน กู้ภัยศรีสัตตนครพนม นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อนำผลชันสูตร มาประกอบสำนวนคดี
นายกิตติศักดิ์ จำปา กำนัน ต.บ้านค้อ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่พยาน ในเหตุการณ์ แต่มีคลิปหลักฐานชัดเจน ตำรวจทำงานขาดสติ แทนที่จะขอกำลังสนับสนุน และเรียกผู้นำท้องถิ่น มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้ตายยังไม่ได้ทำร้ายใคร ลูกบ้านจะต้องไม่ตายฟรี ตำรวจที่ยิงจะต้องถูกดำเนินคดี และรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น
จะเสนอให้ย้ายตำรวจ ที่ก่อเหตุออกจากพื้นที่ เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องคุกคาม ข่มขู่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้าน พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ เปิดเผยว่า นางทองคำ จำปา พี่สาวของผู้ตาย ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่ก่อเหตุนั้น ตอนแรก นายกิตติศักดิ์ จำปา กำนัน ต.บ้านค้อ จะไม่ให้นางทองคำ ลูกบ้านมาแจ้งความ จึงโทรศัพท์บอกกำนันไปว่าแล้วตำรวจจะทำคดีอย่างไร ในเมื่อไม่มีผู้เสียหาย ท้ายสุดนายกิตติศักดิ์ จึงยอมพานางทองคำ พี่สาวผู้ตาย มาแจ้งความ
ด้านผู้กำกับ สภ.โพนสวรรค์ กล่าวว่า ตำรวจรับเลขคดีแล้ว แจ้งข้อหา ร.ต.ท.วิจิตร กระทำการเกินกว่าเหตุ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถ้ามีพฤติกรรมเพิ่มเติมก็จะแจ้งเพิ่ม แต่ยังไม่สอบปากคำ ร.ต.ท.วิจิตร ผู้ถูกกล่าวหา แยกเป็น 3 สำนวน สำนวนแรก ผู้ตายต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน รวมกับสำนวนที่ 2 ตำรวจถูกทำร้ายและตำรวจยิงนายลำเพยถึงแก่ความตาย เบื้อนต้น ผู้บังคับบัญชา มีคำสั่งย้าย ร.ต.ท.วิจิตร ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.นครพนม ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 26 กรกฎาคม 2563
ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยก็จะดำเนินการอีกครั้ง ขั้นตอนที่ตำรวจต้องทำต่อไปจะมีการพูดคุยกับญาติผู้ตาย จะมี 3 ฝ่ายเข้าไปพูดคุย เพื่อหาทางเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต กรณีตำรวจถูกทำร้ายนั้น ยังไม่ได้รับคดี เพราะยังไม่สอบปากคำคนเจ็บคือ ร.ต.ท.วิจิตร ที่ยังคงนอนรักษาตัวที่ รพ.นครพนม ส่วนอาการล่าสุดดีขึ้นแล้ว โดยผู้บังคับบัญชาได้ย้ำให้ทำคดีนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเร่งเยียวยาทางญาติผู้เสียหาย และเน้นย้ำให้ทำคดีอย่าให้เกิดความล่าช้า คำให้สัมภาษณ์ของ ผกก.สภ.โพนสวรรค์
ขอบคุณ
เทพพนม Cop Hero Thailand Magazine
บิ๊กเกรียน