- 11 พ.ค. 2564
อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด ประธานกลุ่ม"ร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคี" และสมาชิกในกลุ่ม ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เห็นควรได้รับความเป็นธรรมเเละเป็นผู้บริสุทธิ์
11พ.ค.64 สำนักข่าวทีนิวส์ ขอเเจ้งผลการดำเนินการ กรณีร้องขอความเป็นธรรม ของ นางสาวดรุณี สีดำ ประธานกลุ่มร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคี หลังจากที่ทางเพจกองบังคับการปราบปราม ได้มีการแถลงข่าวการจับกุมในคดีฉ้อโกง ผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊คกองปราบปราม เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ซึ่งผู้ต้องหาเป็นสมาชิกของกลุ่ม "ร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคี" ที่ท่านเป็นประธานกลุ่ม ทางสื่อกองปราบปรามได้มีการแถลงข่าวจับกุมและได้นำภาพถ่ายผู้ถูกกล่าวหาบุคคลที่ 3 ชื่อนายพิทักษ์ เพชรเจริญตระกูล ออกข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมา
โดยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.62 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.ภูมิทัศ ปิติจิระนน สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยนายสิทธิวัตร แสงสิริไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมจับกุม นายพิทักษ์ เพชรเจริญตระกูล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” จำนวน 19 หมายจับ หลังสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 200/1193 หมู่ที่ 1 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายพิทักษ์ และพวก ได้ร่วมกับพวกหลอกลวงเอาเงินจากชาวบ้านในพื้นที่ จังหวัด ศรีสะเกษ ,สุรินทร์ และร้อยเอ็ด ที่ได้รับผลกระทบจากการโครงการก่อสร้างฝายราษีไศล และกำลังรอรับเงินชดเชยจากทางรัฐบาลเป็นเงิน ไร่ละ 32,000 บาทด้วยการอ้างตัวว่ารู้จักกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน สามารถทำโครงการจัดสรรค์เงินชดเชยให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนหรือผู้ที่สนใจอยากได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลได้เร็วกว่าปกติ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินให้กับนายพิทักษ์และพวกเป็นเงิน 350 ถึง 2,500 บาท ต่อที่ดิน 1 แปลง เพื่อเป็นค่าดำเนินการและวิ่งเต้น รวมถึงยังมีการแอบอ้างระดมทุนอ้างว่าเพื่อนำมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว เมื่อชาวบ้านเห็นว่านายพิทักษ์ นั้นก็ถือเป็นสมาชิกระดับแกนนำของกลุ่ม"ร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคี" รวมถึงยังมีการอ้างตัวว่าเป็นท่านชาย จึงหลงเชื่อยอมนำเงินมาให้กับนายพิทักษ์และพวกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกว่าที่ชาวบ้านจะรู้ว่าโครงการเร่งรัดติดตามเงินชดเชยของนายพิทักษ์และพวกนั้นไม่มีจริงก็สายไปแล้ว จึงได้รวมกลุ่มไปเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ ในภายหลังจนมีการออกหมายจับดังกล่าว
ทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุด จากหนังสือ ขอความช่วยเหลือที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ส่งมายังสำนักข่าวทีนิวส์ ของ ประธานกลุ่มร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคี ระบุว่า อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด ดังนั้น ทางสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ดำเนินการทำข่าวชี้เเจง เพื่อยืนยันว่า นางสาวดรุณี สีดำ ประธานกลุ่มร่วมใจรักพิทักษ์สามัคคีและชาวบ้านทุกคนที่อยู่กลุ่มนี้ รวมทั้งนายพิทักษ์ เพชรเจริญตระกูล ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เห็นควรได้รับความเป็นธรรมเเละเป็นผู้บริสุทธิ์