ลุงพล โดนหนัก ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา หลังตำรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ

นายไชย์พล อ่วม โดนแจ้งหาหนัก หลังตำรวจพบหลักฐานใหม่ มัดตัวลุงเขยน้องชมพู่

ยืดเยื้อมาอีกสักพักใหญ่ๆ หลังจากที่ ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน นายไชย์พล ได้ขอเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี โดยมี ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด รับเป็นทนายความส่วนตัวให้ กระทั่ง นายไชย์พล ได้รับการประกันตัว และขณะนี้อยู่ระหว่างต่อสู้คดีในชั้นศาล

ลุงพล

ลาซาด้าแจกคูปองส่วนลด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจ สภ.กกตูม เตรียมเชิญตัว นายไชย์พล มารับทราบข้อหาเพิ่มเติม อีก 1 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังพบหลักฐานบางอย่างในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ อันเป็นหลักฐานสำคัญจนนำไปสู่การตั้งข้อหาดังกล่าวกับลุงเขยของหนูน้อยวัย 3 ขวบแห่งบ้านกกกอก

ลุงพล


ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายไชย์พล ฐานความผิด 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรายงานระบุว่า ตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากเส้นผม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าลุงเขยน้องชมพู่ พาหลานขึ้นภูเขาไปจนเสียชีวิต⁣ ใช้เวลารวบรวมหลักฐานนานเป็นปี 

คดีน้องชมพู่

โดยก่อนหน้านี้มีดราม่าเกี่ยวกับลุงพลอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพจชื่อดังอย่าง ดาวแปดแฉก ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ได้ไล่เรียงเหตุการณ์วันที่ลุงพลมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางเพจได้จั่วหัวตั้งคำถามว่า "#นี่หรือลุงพลตั้งใจมอบตัว?? #เปิดวงจรปิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 มิ.ย.2564 คำถามที่น่าสนใจคือ ผู้รู้กฎหมายย่อมทราบดีว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่ที่ทำการของพนักงานสอบสวน ??"

ลุงพล


อีกทั้ง ทนายตั้ม ยังได้ พานายไชย์พล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ ไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้กรรมาธิการตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารเป็นเท็จเพื่อออกหมายจับลุงพล ก่อนที่ นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ หรือ กมธ. จะปัดตก ไม่รับพิจารณาคำร้อง 

ลุงพล

ลาซาด้าแจกคูปองส่วนลด