คืบหน้า ลูกน้องผกก.โจ้ ส่อพ้นข้อหา หลังสอบพยานเพิ่ม

วันที่ 28 ส.ค.2564 มีรายงานความคืบหน้าการสอบปากคำ ขยายผลคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.เมืองนครสวรรค์ โดยรายงานล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สอบปากคำตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการล่อซื้อยาเสพติดจาก นายมาวิน ผู้เสียชีวิต และ ใบเฟิร์น แฟนสาว มาสอบปากคำเพิ่ม อีกอย่างน้อย 3 คน 

ผลการสอบสวนมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการล่อซื้อยาเสพติดจริง อยู่ระหว่างหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดี  โดยรายงานระบุเพิ่มเติมว่าต้องจับตาดูว่า หากเป็นการล่อซื้อจริง ตำรวจในชุด 05 ที่ถูกออกหมายจับ พร้อม ผู้กำกับโจ้ "จะพ้นข้อหา ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะ เป็นการทำงานจริง "

ส่วนกรณี "ผกก.โจ้" มีการซ้อมทรมานผู้ต้องหานั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นการล่อซื้อยาเสพติดจริง ตำรวจชุดสืบสวน ระบุว่า ข้อหา "ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยการทรมาน" จะยังอยู่ เพราะ ตำรวจไม่มีสิทธิ์ทำร้ายผู้ต้องหา ส่วนข้อหานี้จะสาวถึงผู้ต้องหาคนอื่นๆกี่คน ยังบอกไม่ได้ต้องรอข้อมูลเพิ่มก่อน

ซึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างการประชุมเร่งรัด โดยมี พล.ต.ต.กรณ์ณพัชญ์ กิตติพิบูลย์ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.ตม. พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์, พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.ตม.2 พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.นครสวรรค์

ทั้งนี้ก่อนหน้าในวันเดียวกันมีรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ถ.ไกรลาศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 39 ปี หรือ หรือ "ผกก.โจ้" อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย,ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้อง กระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น

โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา