- 25 เม.ย. 2565
ศาลอาญามีสั่งจำคุก 1 ปี 15 วัน ส.ต.ต.นรวิชญ์ ซิ่งบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต ทนายเผย ส.ต.ต.นรวิชญ์ รู้สึกเสียใจ ไม่ต่อสู้คดี จึงยอมรับในคดีนี้ทุกชั้น
25 เม.ย.65 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก จำเลยในคดีขับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย เสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลตามนัดเพื่อฟังศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผู้บังคับหมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จำเลยในความผิด
ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อหา กรณีขับบิ๊กไบค์ชน แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สิบตำรวจตรีนรวิชญ์มีความผิดขี่รถจักรยานยนต์เร็วในเขตชุมชนด้วยคงามประมาท จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว จึงพิพากษาให้จำคุก 2 ปี 30 วัน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษ จำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4000 บาท โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ศาลอาญามีคำสั่งจำคุก 1 ปี 15 วัน ส.ต.ต.นรวิชญ์
จากนั้น สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว ยังอยู่ระหว่างศาลพิจารณา และจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป โดย นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความฝ่ายญาติของหมอกระต่าย เปิดเผยว่า พึงพอใจในคำตัดสินของศาล ซึ่งจะไปหารือกับญาติของหมอกระต่ายเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
ส่วนคดีฟ้องแพ่งเรียกเงินค่าเสียหายจากสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรุงเทพมหานคร เป็นเงินรวม 144 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างศาลพิจารณา โดยรอศาลนัดวันชี้สองสถาน
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ขี่บิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงวราลัคน์ ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวงและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108 ถึง 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนแพทย์หญิงวราลัคน์เสียชีวิต
ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ โจทก์ได้นำตัวสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหาได้แก่
1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ
2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย
4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง
5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง
9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่ พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย โดยการริบหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะให้พักใช้เป็นระยะเวลากี่ปี
ทั้งนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์แถลงให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ และพินิจ ประวัติการศึกษา สถานะทางครอบครัว และอื่นๆ ของสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ แล้วรายงานให้ศาลทราบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาพิพากษา
ซึ่ง ส.ต.ต. นรวิชญ์ จำเลย ได้รับการปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา โดยศาลตีราคาประกัน 50,000 บาท จนกระทั่งศาลชั้นต้นได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้25เม.ย.65
ด้าน นายสนทยา น้อยเจริญ ทนายความของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ได้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ส.ต.ต. นรวิชญ์ ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาจึงยอมรับในคดีนี้ทุกชั้น โดยหลังจากศาลพิพากษาลงโทษ ได้ใช้ตำแหน่งผู้เป็นพ่อ ยศ ร้อยตำรวจตรี เป็นหลักประกัน ขณะนี้อยู่ในการศาลพิจารณา หลังจากนี้จะมีการขอยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีต่อไป