- 18 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
บอกเลยว่าเธอเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 18 สำหรับอดีตนางเอกรุ่นใหญ่ดาวค้างฟ้า "แอ๊ว อำภา ภูษิต" เธอมีผลงานละครให้ติดตามกันมากมาย โดยละครแต่ละเรื่องได้รับบทเด่นเป็นที่จดจำของผู้ชมทุกเพศทุกวัย เช่น บทแม่ปริก ในละครบุพเพสันนิวาส ล่าสุด "แม่แอ๊ว อำภา" ก็ได้มานั่งเล่าเปิดใจถึงชีวิตตนเองผ่านรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ถึงชีวิตที่เคยล้มเหลวเรื่องความรัก จนทำให้คุณพ่อที่เธอรักที่สุดต้องจบชีวิตลง
อยู่วงการมากี่ปีแล้ว? “เกือบ 40 ปีแล้วค่ะ”
เข้าวงการมาได้ยังไง?
“คือไม่ได้มีแววเลย แล้วพี่สาวเขาเดินแบบห้องเสื้อ เราก็ตามเขาไป ก็ไปเจอเจ้าของห้องเสื้อ เขาเห็นเรา เขาก็ให้เราไปประกวดเทพีสงกรานต์สวนสามพราน ตอนนั้นอายุ 18 ค่ะ เป็นเวทีแรกในชีวิตเลย ก็ได้ตำแหน่งเทพีเลย ได้ถ้วยเงินแท้ ทองสองสลึง จากนั้นได้ไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ที่ญี่ปุ่น ไปอยู่ 15 วัน ร้องไห้ทั้ง 15 วันเลย แต่ได้แค่ตำแหน่งชุดสวย สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
ตอนที่เป็นนางเอกละครช่วงแรกๆ มีข่าวว่ามีเสี่ยเขียนเช็คเงินสดให้หลายบาทแล้วยัดใส่มือ จริงมั้ย?
“เมื่อก่อนช่วงงานวันพ่อวันแม่ นางเอกทุกคนจะไปรวมกันที่สนามศุภชลาศัยเพื่อเดินแบบชุดไทย และที่สวนอัมพร จะมีคนนึงเดินเข้ามาหาเรา แล้วบอกเก็บไว้นะ ให้กำไว้ แล้วเขาก็เดินหายไป เรามาเปิดดูเป็นเช็คนี่หว่า ก็มานับตัวเลขดูเป็นจำนวนเงินหลักแสน เราก็มาคิดว่าเราเล่นละครได้แค่ 3หมื่น พอขึ้นรถก็ให้พ่อดู ถามว่ามันเท่าไหร่ พ่อบอกเป็นแสน"
"เราก็บอกว่า เขาให้หนูมา พ่อทำยังไง พ่อบอกเดี๋ยวลองเอาไปเข้าบัญชีดูว่าผ่านมั้ย แล้วก็ผ่านจริงด้วย เราก็อยากเจอเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดี เขาอยากมาเจอเรา เขาเมตตา เขาอยากจะเข้ามาหาเรา ก็มาผ่านทางพ่อแม่เรา บอกว่าอยากได้เด็กคนนี้จังเลย เขาเมตตาเรา เขาบอกจะขายโรงหนังแล้วเอาเงินมาให้เรา เราก็บอกว่า ในเมื่อตอนนี้เรายังทำงานหาเงินได้ ก็ไม่เอา ปฏิเสธไป"
"จากนั้นมาเราก็ไปเป็นโซเชียลไดเรคเตอร์อยู่ที่หนึ่ง อาทิตย์หนึ่งเข้าออฟฟิศ 2 วัน แล้วก็มีคนมาถามว่า มีบัญชีมั้ย เราก็ถามว่าเอาไปทำอะไรคะ เขาบอกว่าอยากได้ เราก็ให้ไป วันรุ่งขึ้นก็มีเงินโอนเข้ามาเป็นแสน บางทีก็เป็นกล่องเพชรมาให้”
เรื่องราวความรัก? “มันเริ่มจากการเจ็บนิดๆ ตรงที่ว่า คุณพ่อเสีย เนื่องจากเขากดดันเรื่องของเรา ที่เราไม่ประสบความสำเร็จเรื่องชีวิตครอบครัว และเราเข้าโรงพยาบาล เราเจอคนทำของใส่ ในความรู้สึกเรา เราว่าพ่อเราต้องรับความรู้สึกนี้ไปด้วย"
"ในปี 40 เราเจอวิกฤตหลายอย่าง ทั้งพ่อเสีย ทั้งผ่าตัด ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วเจอผียมบาล คือวันนั้นเราไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล เรานอนอยู่สักพักรู้สึกตัวเหมือนมีคนมาดึงตัวเราออกไป เราก็จับที่กั้นเตียงไว้ ดึงไม่ไป แล้วกดออดเรียกพยาบาล พอพยาบาลเข้ามา ผียมบาลก็หายไปตรงหัวเตียง และเราก็มาเจอที่คุณพ่อเสีย เรามีความรู้สึกว่าเขาคงจะมาทำของใส่เราเพื่อจะให้เราตาย แต่คุณพ่อจิตอ่อนกว่าเขาคงรับแทนเรา”
ทำไมเขาถึงจะมาทำของใส่เรา? “เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือว่าใครทำ แต่รู้ว่าจะเกิดขึ้นทุกสองอาทิตย์ เราไปหาพระ ท่านก็ทักว่าหนูโดนของนะลูก ควรจะรดน้ำมนต์ออก คือในปี 2540 เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในปีนั้นเลย”
เรียกว่าเข็ดกับความรักไปเลยมั้ย? “ไม่ได้เรียกว่าเข็ด แต่เราเรียกว่า เราถูกขโมยลอตเตอรี่ เลขท้ายก็ไม่โดนไม่ถูกเลย อีกอย่างเราไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยว่าเลขมันออกอะไร เพราะฉะนั้นเราเลิกซื้อดีกว่า ต้องให้เหงื่อออกแล้วได้เงิน”
หลังจากนั้นมีความรักมั้ย? “อยู่เลี้ยงลูกดีกว่า อีกอย่างทำไมต้องไปขวนขวาย”
ในข่าวเขาบอกว่าเรามีความรักครั้งที่สอง? “มันมาแบบฉาบฉวยแล้วก็ไป”
ปีที่สูญเสียหนักมาก เรามีความรู้สึกมั้ยว่า ทำไมต้องมาเจออย่างนี้? “หลังจากที่พ่อเสีย เราก็รู้สึกว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ พอขึ้นรถเราก็พูดกับตัวเองทุกครั้งว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เราก็ร้องไห้ ทุกครั้งจะมีพ่อขับรถให้ พ่อมาขับรถให้เราทุกวัน เราก็พูดกับเขาว่าทำไมต้องทิ้งหนูไป หนูต้องมาดูแลชีวิตตัวหนูเอง จากนั้นมาก็ลืมทุกอย่างไป เพราะทำงานหนักมาก อีกอย่างแม่เรายังอยู่ และลูกสาวอีกสองคนก็ยังมี ถามว่าเคยคิดฆ่าตัวตายมั้ย เคยนะ แต่เราไม่ทำ เพราะไม่อยากให้พ่อเสียใจ เวลาไปไหนมาไหนก็จะเรียกพ่อให้ไปด้วยตลอด
"อยากฝากถึงคนดูทุกคนนะคะ ว่าเราต้องเดินหน้าต่อไปกับชีวิต อย่าไปขวนขวายหาของเก่ากลับมา หรือขวนขวายหาความรักกลับเข้ามาใหม่ มันไม่จำเป็น ตัวเองก็อยู่ได้ เรายังมีแม่ มีลูกๆ เรา ที่เขายังอยู่กับเรา คนอื่นก็คือคนอื่นเวลาที่เราไม่รักเราแล้ว”
.
.
.
ขอบคุณคลิปจาก : Ch3Thailand , Orange Mama , คุยแซ่บShow , sanook