- 13 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เป็นเพราะความหูเบาของตัวเองที่คิดว่าคนอื่นไม่ดีไปซะหมด ทำให้พิธีกรอารมณ์ดี "ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด" เกือบเสียคนดี ๆ รอบตัวไปอย่างเพื่อนซี้ ส้ม ณัชพร ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจชีวิตสุดติสต์แตกของตัวเองที่ทิ้งวงการหายหน้าหายตาไป 3 ปีเต็ม ผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร พร้อมเอ่ยอโหสิกรรม ส้ม ณัชพร กลางรายการ
จู่ ๆ ก็หายไปจากวงการบันเทิงหลายคนบอกว่าติสต์แตก ?
ตุ๊ยตุ่ย : เป็นความเชื่อที่ผิดมากกว่า ไม่มีวิจารณญาณ ไม่มีตรงกลาง ไม่ตรวจสอบ ตรวจทานตัวเองมันใช่ มันถูกหรือเปล่า ไม่สังเกตคนรอบข้างว่าเค้าอยากจะเตือนเรา พอถึงเวลาหนึ่งอาก็เปลี่ยนไป หายหัวไปเลย คือมองว่าตัวเราดี พรรคพวกของเรานั้นดี คนอื่นทำอะไรก็ไม่ถูกไม่ควร เรานึกว่าตัวเราดีเอง
ไม่มีใครกล้าติเรา ?
ตุ๊ยตุ่ย : ตอนนั้นไม่มีใครกล้าติเรา มันเกิดจากความหลงผิด ถ้าเราดีจริง ๆ ก็ไม่ติเตียนคนอื่น ถ้าเราดีนักเราต้องเข้าใจคนอื่น อาสามารถตัดสินคนอื่นได้ด้วยคำพูดของใครก็ตามที่เราหลง เหมือนเราไม่มีวิจารณญาณ
เห็นว่าแม่ส้ม (ส้ม ณัชพร เจ้าของรายการ) ก็โดนอาตัดสินด้วยเหรอ ?
ตุ๊ยตุ่ย : โอ๊ยยย ส้มนี่ชั่วช้าเลย คือเจ้าตัวหรือคนบางคนเค้ายังไม่รู้เลยว่าเค้าเป็นที่ชังของอา เอาจริง ๆ พอจะมารายการนี้เราก็คุยข้อมูลกับครีเอทีฟแล้วเราก็นึกได้ว่าเราก็เคยตัดสินส้มไว้ด้วย ว่าส้มมันเลว แต่เราก็นึกไม่ออกที่ไปตัดสินเค้า คือ ณ ขณะนั้นเราฟังอะไรเยอะแยะว่าส้มไม่ดี เราเลยตัดสินเลย เราขี้เกียจมาสืบด้วย เหมือนกับว่าเราฟังคนกล่าวถึงแบนนั้นแบบนี้ เรารีบเชื่อ รีบตัดสิน
รู้สึกยังไงที่อาเค้าตัดสินเราไปเรียบร้อยแล้ว ?
ส้ม : งง คือจริง ๆ พอครีเอทีฟเค้าคุยข้อมูลแล้วรู้เรื่องนี้มา เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตุ่ยคิดแบบนั้น แล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่าตุ่ยจะคิดไม่ดีกับเรา
ตุ๊ยตุ่ย : กรรมทั้งหลายกาย วาจา ใจ กรรมที่น่าติเตียนทั้งสิ้น ที่มีต่อเพื่อนโดยที่เพื่อนไมรู้ตัว เกิดจากที่เรารับฟังแล้วก็เชื่อคนอื่นแล้วตัดสิน คุณอาจจะคิดว่าคุณฉลาด ดีพร้อม วันหนึ่งคุณอาจจะคิดว่าคุณหลงอะไรมาก ๆ หรือศรัทธาใด ๆ คุณต้องรู้จักมีวิจารณญาณ คุณต้องใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์มาตรวจสอบอันนั้นด้วย มิฉะนั้นคุณจะเสียอะไรหลาย ๆ อย่าง คืออย่างอา อาไม่มีอินเนอร์เลยว่าส้มเค้าทำอะไร รู้แต่ว่าเค้าไม่ดีก็คือไม่ดี
ส้ม : นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ยินว่าเค้าไม่ได้มีเรื่องกับเราโดยตรง เพราะในชีวิตเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วอยู่ ๆ เค้าก็รู้สึกว่าไม่ชอบขี้หน้าเรา โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว
ตุ๊ยตุ่ย : ในอดีตเคยคิดว่าส้มเค้าเจ๋ง สามารถเลี้ยงลูกผู้อื่นเสมือนลูกตน วันใดต้องปล่อยก็ปล่อยเป็น คือเรารู้สึกรักแล้วก็ศรัทธามันมาก เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ
วันนี้อยู่ด้วยกันตรงนี้มีอะไรอยากจะบอกกันมั้ย ?
ตุ๊ยตุ่ย : แม้ว่าเอ็งไม่เคยรู้ใด ๆ ว่าข้าเคยคิดไม่ดีใด ๆ ซึ่งก็ดีแล้วมันก็บริสุทธิ์อยู่ในนั้น ใจที่มันแปดเปื้อนคือใจของฉันที่คิดไม่ดีต่อเธอ ฟังคำผู้อื่นที่คิดไม่ดีมากกว่าความดีของเธอได้อย่างไร ในขณะนั้นฉันเป็นได้อย่างไร กรรมใด ๆ ที่น่าติเตียน ทั้งความคิด การกระทำ คำพูด ที่อาเคยทำต่อส้ม อาต้องกราบขอขมาส้มด้วย ขอให้เพื่อนอโหสิกรรมต่อเพื่อนด้วยค่ะ
ส้ม : สำหรับเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นกรรมอะไรยิ่งใหญ่เลย เราดีใจที่ตุ่ยกลับมาเป็นตุ่ยเพื่อนเราคนเดิม
อารมณ์ไหนที่อยู่ดี ๆ ก็คลายจากตรงนั้นได้ ?
ตุ๊ยตุ่ย : มันมีความเอ๊ะบางอย่าง อาว่าอาอาจจะหมดเวรหมดกรรมด้วยแหละ ในช่วงที่เราคลั่ง ๆ อยู่เนี่ย มันก็เอ๊ะนิดนึงว่าคนเราจะไม่ชอบคนอะไรเยอะแยะไปหมด แต่พอมันมีมากคนเข้าเราก็รู้สึกว่าเราเริ่มตรวจสอบ แล้วก็ถ้าเราอยู่ตรงนี้อีกจะเป็นยังไง เราก็เลยถอยออกมานิดนึง มองในแง่ดีของคนอื่นบ้าง มองคนอื่นด้วยความรัก ความเมตตาจริง ๆ บ้าง
แล้วตอนนี้อายังติดต่อกับกลุ่มเพื่อนอาที่ทำให้เรารักและศรัทธาอยู่มั้ย ?
ตุ๊ยตุ่ย : ไม่เลยค่ะ รู้สึกว่าใครจะทำอะไรให้เกิดขึ้น ถ้าเราเป็นคนมั่นคงหนักแน่นแต่แรก เราก็จะไม่มีความเสียหายของหัวใจเกิดขึ้น ความเชื่อที่ผิดมันก็ทำให้เรากระทำที่ผิด มันทำให้เราสูญเสียเพื่อนบางคน แต่บางคนเค้าโดนเราทำไม่ดีต่อเค้าไปอีก เพราะเรารู้สึกว่าเค้าไม่ดี แล้วเราก็สนิทด้วย แล้วคนคนนั้นเค้าก็รักในตัวเรามาก แล้วพอเค้าโดนอะไรแบบนี้เค้าก็จะเจ็บปวดใจมาก
ขอบคุณ รายการคุยแซ่บโชว์ ช่อง One31