- 20 ก.ค. 2563
ล่าสุดเป็นพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม คุณแม่อัมพร กลั่นมาลี อายุ 112 ปี คุณแม่ของตลกรุ่นใหญ่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ที่ศาลาเกสนี พันธุลาภ กาญจนาลัย วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน หลังคุณแม่อัมพรเสียชีวิตหลังจากเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากพลัดตกเตียง และเสียชีวิตอย่างสงบช่วงเวลา 14.00 น. ของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ถั่วแระ เชิญยิ้ม ชื่อจริงคือ ศรสุทธา กลั่นมาลี ดาราตลกชาวไทย มีลักษณะเด่นคือไว้หนวดเครา และโพกผ้าคาดศีรษะ มุกตลกประจำตัวคือมุกปากเหม็น มีบทบาทเด่นในการนำเชียร์กีฬาให้กับทีมไทยในการแข่งขันกีฬาระดับชาติหรือระดับโลก ปัจจุบันมีกิจการร้านอาหาร "ครัวถั่วแระ"
และถือเป็นข่าวเศร้า เมื่อล่าสุด ถั่วแระ เชิญยิ้ม ที่สูญเสีย คุณแม่อัมพร กลั่นมาลี ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เวลา 14.00 น. ณ ชั้น 6 ห้อง 11613 หอผู้ป่วยพิเศษพรีเมียม โรงเรียนพระนั่งเกล้า นนทบุรี ด้วยโรคชรา
ซึ่งคุณแม่มีอายุครบ 112 ปีไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยบรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของอาถั่วแระ
รวมถึงลูกๆและญาติพี่น้องที่เดินทางมากราบคุณแม่อัมพรเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะนำร่างคุณแม่เคลื่อนย้ายไปฝากไว้ยังห้องดับจิตของทางโรงพยาบาลในเวลา 16.00 น.
ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแม่อัมพรเริ่มมองไม่เห็นตั้งแต่ช่วงอายุ 101-102 ปี ต่อมาก็ค่อยๆจำใครไม่ได้ จนกระทั่งไม่สามารถพูดสื่อสารกับคนอื่นได้อีกเลย และในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่คุณแม่อัมพรพักอาศัยอยู่บ้านของลูกสาว ระหว่างที่ลุกขึ้นจากเตียงก็เกิดอุบัติเหตุล้มก้นกระแทกส่งผลให้กระดูกบริเวณสะโพกแตก ซึ่งทางครอบครัวก็ได้นำมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี เพื่อตั้งใจที่จะผ่าตัด แต่คุณหมอบอกว่าท่านอายุมากแล้ว ไม่สามารถวางยาสลบได้ จึงนอนพักรักษาตัวอยู่เป็นเวลา 3 วัน และย้ายไปยังโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อพักรักษาตัวต่ออีก 1 อาทิตย์
ก่อนที่จะกลับไปอยู่บ้านของ ถั่วแระต่ออีก 10 วัน เพื่อดูอาการ ปรากฎว่าคุณแม่เริ่มมีเสมหะ หายใจลำบาก ครอบครัวจึงนำตัวคุณแม่กลับมารักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี เป็นเวลา 3 วัน และในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ทางลูกเขยของท่านซึ่งเป็นผู้เฝ้าดูแลอยู่ตลอดก็สังเกตเห็นว่าคุณแม่นอนแน่นิ่งไป จึงลองจับไปที่บริเวณหน้าอก ก็ไม่มีการกระเพื่อมใดๆ เจ้าตัวจึงตัดสินใจเรียกพยาบาลมาช่วยจับชีพจร วัดคลื่นหัวใจและวัดความดัน แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนกระทั่งเวลา 14.00 น. คุณหมอจึงบอกกับทางครอบครัวว่าคุณแม่ได้จากไปอย่างสงบแล้ว
และล่าสุด เป็นพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม คุณแม่อัมพร กลั่นมาลี อายุ 112 ปี คุณแม่ของตลกรุ่นใหญ่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ที่ศาลาเกสนี พันธุลาภ กาญจนาลัย วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน หลังคุณแม่อัมพรเสียชีวิตหลังจากเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากพลัดตกเตียง และเสียชีวิตอย่างสงบช่วงเวลา 14.00 น. ของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพคุณแม่อัมพรเรียบร้อยแล้ว ถั่วแระได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทั้งน้ำตา ถึงการสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักในครั้งนี้ว่า
"เพลงที่เปิดงานงานชื่อเพลง กล้วยไม้ ใครบอกว่าแม่เป็นอัลไซเมอร์ ใครบอกว่าแม่ความจำเลอะเลือน แต่เวลาให้แม่ร้องเพลงกล้วยไม้ แม่จะร้องได้ เมื่อตอนแม่อายุ 90 กว่าแม่ก็ยังร้องได้ แต่พอมาถึง 111 - 112 แม่ก็ร้องไม่ได้แล้ว ตอนเวลาจัดงานวันเกิดให้ท่านก็จะเปิด สิ่งที่สำคัญที่สุดของลูกหลานก็คือจะพยายามให้แม่รื้อความจำ และร้องเพลงคู่กับท่านไป ท่านก็จะร้องเสียงหวานมาก ท่านชอบ ตั้งแต่ท่านป่วยก็จะเอาไปไว้ข้างหูท่านบ้าง เปิดลำโพงในบ้านให้ดังๆ บ้าง จนกระทั่งนาทีสุดท้ายท่านก็ได้ฟังเพลงนี้ครับ"
"ผมไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเลย เพราะหลังๆ แม่เริ่มพูดไม่ได้ ก็พยายามจะสื่อสารว่าถ้าแม่สู้หรือแม่ไม่ไหว แต่ถ้าแม่พูดไม่ได้ แม่กระพริบตาได้ไหม (เสียงสั่น) ให้มีสัญญาณว่าแม่สู้ แม่กระพริบตาทีหนึ่งนะ ถ้าแม่ไม่ไหวแม่กระพริบสองทีก็ได้นะ หรือแม่หิวไหม ถ้าหิวกระพริบตานะแม่ ถ้าแม่สู้แม่ก็จะกระพริบตา ซึ่งคำสอนของแม่ก็มีมาตั้งแต่เด็กแล้ว ร่างกายจิตใจวิญญาณของแม่รักลูกทุกคน แม่ให้ลูกทุกคนได้ตลอด แต่ผมก็โกรธแม่นะ (ร้องไห้) ทุกวันนี้ก็ยังโกรธที่แม่เลี้ยงผมเป็นไข่ในหินมากเกินไป แต่ถ้าผมเป็นโจรหรือเป็นอะไรสักอย่าง ผมก็ต้องโทษแม่อีกว่าทำไมแม่เลี้ยงผมไม่ดี แต่นี่แม่เลี้ยงผมเหมือนไข่ในหิน ผมก็เลยฉลาดน้อยกว่าคนอื่นไหม"
“ผมก็ค่อนข้างสนิทกับแม่นะ เพราะเป็นลูกคนสุดท้อง การดูแลบางครั้งเราก็ขี้งอน บางทีก็กระทบกระทั่งแม่บ้าง แต่พอโตมาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดมันผิด นั่นคือความหวังดีของแม่มากกว่าที่จะคิดว่าแม่รังแกฉัน ไม่ใช่ แต่ก็ไม่มีอะไรค้างคาใจนะครับ สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้เราคิดว่าตอบแทนบุญคุณที่เราหาไม่ได้แล้ว สูญเสียพ่อไปก็เสียใจมาแล้วพอสมควร พ่อใครใครก็รัก แม่ใครใครก็รัก แต่จะถามว่าเราจะทำอะไรให้กับแม่ เมื่อกี้ก็ได้ปรารภกับพวกพี่ๆ ว่าผมน่ะดูแลแม่ไม่ได้หรอก สังขารใครสังขารมัน เมื่อละโลกไปแล้วก็ต้องจากกันไป แต่สิ่งดีงามของแม่จะยังอยู่กับพวกเรา แล้วเราจะสร้างอะไรให้กับแม่ ก็เลยคิดว่าจะไปสร้างพระประธานให้ที่วัดคลองโคน สมุทรสงครามครับ”
“คือบ้านเราก็ไม่ได้เป็นคนจังหวัดนั้นเลยนะ แต่มีพระอยู่รูปนึงท่านอยู่ที่วัดเทวราชกุญชร แม่บอกว่าถั่วแระไปดูวัดนี้ให้หน่อย เพราะเจ้าอาวาสเป็นลูกศิษย์ฉัน ผมเองก็เป็นลูกศิษย์เจ้าอาวาสวัดนี้ ก็เลยผูกพันธ์กันมาตลอด นี่คือสิ่งที่นำพาไปให้แม่สร้างโบสถ์ สร้างวิหารย์ สร้างหอกลอง หอระฆัง ให้แม่ทำทุกอย่างเลยที่วัดนี้ เพราะว่าวัดประเทศไทยมีเยอะ ดูแลไม่ทั่วถึง ก็ใช้จิตของเรานี่แหละทำ”
“แต่เหตุผลที่เราเก็บร่างคุณแม่ไว้ก่อน คือจริงๆ เราก็อยากจะฌาปนกิจเลยนะครับ แต่เพราะเรื่องราวของโรคภัยอะไรต่างๆ มันกำลังลุกลาม และลูกๆ หลานๆ ยังอยู่เมืองนอกกัน เขาก็โทรมาว่าอย่าเพิ่งทำอะไรคุณย่า (ร้องไห้) ขอให้หนูลงมาก่อน ก็จะรอครับ แต่ก็บอกหลานแล้วว่าถ้า 3 เดือนนี้ยังไม่โอเคจะทำยังไง เราจะรออีกปีไหนล่ะ ก็ถ้าสถานะการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องคุยกับเขาอีกทีครับ เพราะส่วนใหญ่เขาก็เอาไว้แค่ 100 วันเนอะ ก็จะเก็บไว้ที่วัดนี่แหละครับ”
“ปกติแล้วเขาบอกว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 ศพ จนกระทั่งแม่ทำอะไรเสร็จเรียบร้อยเอาไปในห้องเย็น เขาบอกมาเข้ามา 15 ศพติดๆ เลย นี่คือปาฎิหารย์ และเขาก็บอกว่าผู้ที่สูงอายุ 100 กว่าเนี่ยแทบทุกศพที่เขาทำมาไม่เคยมีใครสะอาดเหมือนแม่ แม่อายุ 100 กว่า แต่ไม่มีแผลกดทับ เนื้อตัวไม่มีรอยช้ำ แล้วท่านนอนสง่ามาก ขาแข้งไม่คด เขาบอกทุกคนที่สัมผัสมาเส้นจะยึด เขาก็ต้องหักดัด แต่แม่เราไม่มีเลย นอนมาอย่างดีเลย ถ้าคนจีนเขาเรียกว่าเซียน”
“ก็บอกกับแม่เยอะมาก ไม่รู้แม่จะได้ยินไหม แต่ผมอยากจะเตือนน้องๆ นะครับ ทุกๆ คนเลย ทำอะไรได้ทำก่อนที่แม่จะเป็นอะไรครับ (ร้องไห้) ท่านไม่เคยกิน ท่านไม่เคยเที่ยว ท่านไม่เคยมี หาให้ท่านซะ ถ้าท่านจากเราไปแล้วท่านกินไม่ได้ เอาอาหารไปวางไว้กินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เสื้อผ้าสวยๆ ท่านอยากจะได้ก็ซื้อให้ท่านซะ ท่านจะได้ใส่ให้เราเห็น ท่านอยากจะไปไหนพาท่านไปเถอะ แล้วเวลาท่านนอนติดเตียงเราก็พาท่านไปไม่ได้ นั่งวีลแชร์ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อยากจะเตือนครับ เราชาวพุทธสิ่งที่เราจะต้องตอบแทนบุญคุญมากที่สุดคือพ่อแม่ และผู้ที่มีอุปการะคุณ”
“ผมไม่ขออะไรจากแม่เลย แต่ผมจะเอาสิ่งดีๆ ที่แม่สอน ผมจะจดจำไว้ให้ดีที่สุด ก่อนหน้าแม่จะเสียยังบอกกับแม่เลยว่าขอไปลองชุดก่อนนะ หลานสาวจะแต่งงานที่สุราษฯ พี่สาวก็เฝ้าอยู่ 10 โมงกว่าพี่สาวโทรมาบอกว่าแม่หายใจดี ไม่โครกครากแล้ว เราก็ดีใจ เดี๋ยวเรากำลังจะกลับไปแล้ว จากนั้นไม่เกิน 5 นาที แม่หมดลมแล้ว อะไรวะ (ร้องไห้) ท่านไปง่ายๆ เลย ดีใจได้แป๊บเดียว พี่ก็โทรกลับมาบอกว่าแม่สิ้นใจแล้ว ผมตอนนั้นจะลองสูทก็ไม่ได้ลองแล้ว ก็กลับมาที่โรงพยาบาล”
สำหรับกำหนดการสวดพระอภิธรรมจะมีตั้งแต่วันที่ 19-23 ก.ค. หลังจากนั้นจะนำร่างเก็บบรรจุไว้ก่อน และรอกำหนดวันฌาปนกิจต่อไป