- 16 ก.ย. 2563
ล่าสุดรายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 - 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" เปิดใจ "เมย์" วินมอเตอร์ไซค์ที่ออกมาโพสต์ขอความเห็นใจ "หนุ่ม ศรราม" หลังจากที่พา "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" ไปกู้หนี้นอกระบบ แต่ติ๊กไม่จ่ายหนี้ จนเจ้าหนี้มาตามทางตนถึงบ้าน ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้านไปทำงาน
หลังจากมีข่าวออกมาว่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” และภรรยาสาว “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ เทพพิทักษ์” หรือ "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" นั้นมีการหย่าร้าง แถมเปลี่ยนนามสกุลกันแล้วจริงๆ ซึ่งหลังจากมีข่าวเมาท์มอยดังกล่าวออกมา ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงอะไรกับข่าว ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ มีการออกมาไลฟ์สดร่วมกันบ้าง เหมือนจะเป็นการสยบข่าวลือกลายๆ
จนกระทั่งทำเอาหลายคนถึงกับช็อกไปตามๆกัน เมื่อ หนุ่ม ศรราม ได้โชว์ใบหย่า ออกมาโพสต์ร่ายยาว ด้วยข้อความระบุว่า "เนื่องจากในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลมาตามหาคุณติ้กที่บ้านและโทรศัพท์มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก้อทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณาผู้ใดก้อตามที่ได้ทำสัญญาหรือทำธุรกรรมทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆกับคุณติ้ก กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติช่วยติดต่อกับคุณติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน เวลา ดังกล่าวและคุณติ้กก้อไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผมแล้ว เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลงที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น ขอบพระคุณครับผม @mama.veeji @veeji_theappitak @sornramfanclub #STVeeji"
จากนั้นก็มีประเด็นดราม่าผุดมาไม่เว้นแต่ละวัน จน ติ๊ก กนิษฐ์รินทร์ หรือติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 โดย หนุ่ม กรรชัย พิธีกรถามเรื่องไปเป็นหนี้สินจนศรรามประกาศว่าหย่าขาดกันแล้ว ไม่ขอรับผิดชอบอีกแล้ว
โดยติ๊กยอมรับกลางรายการว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่นพนันออนไลน์ เล่นบัคคาร่าเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาด
จากนั้น หนุ่ม ศรราม ยอมเปิดใจสัมภาษณ์ผ่าน รายการแฉ โดยเผยว่าตอนที่อีทีเอ็มหาย ตนต้องไปแจ้งความ และต้องอายัดบัตรที่ธนาคาร ทำให้ธนาคารชี้แจงว่าเป็นคนใกล้ชิด เขาก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน ว่าเขาไม่เกี่ยว ตนก็เข้าไปที่เจ้าหน้าที่ตร. คุยกับพนักงานสืบสวน ดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าเป็นติ๊ก ว่า ณ เวลาไหนกดตู้ไหน แต่เส้นทางการเงิน พนักงานสืบสวนก็ให้ดูว่าเขาไปในทางพนันออนไลน์ ตนก็เลยถอนฟ้อง และขอให้ติ๊กแก้ไขและปรับปรุงตัว ถ้ามีหนี้สินเท่าไหร่ขอให้บอก ครั้งนั้นเคลียร์ให้ 7.5 แสน
เขามีปัญหาอะไรตนก็ช่วยได้ตามกำลังตลอดเวลา ช่วยตั้งแต่ก่อนแต่ง ไม่ทราบว่าเขาติดก่อนแต่งหรือเปล่า แต่ตนบอกให้เขาหยุด ปรับปรุงแก้ไข จำนวนเงินไม่เป็นไร แต่เจตนามันสำคัญ ก็เลยคิดว่าหย่า แต่ไม่อยากให้วีจิขาดใครคนใดคนหนึ่งในชีวิต เพราะลูกยังเล็ก ตนขอให้ปรับปรุงและแก้ไขมัน เขาก็บอกเรื่องหนี้ให้ทราบ ตนช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องเงิน ตนได้แต่ฟังปัญหา แต่ไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร
หลังรู้ตอนปลายเหตุ พอมาถึงวันนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามันไม่ได้ถูกแก้ไขและปรับปรุง ก็มีมาเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องหน้ากาก ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่ามีคนมาฟ้องติ๊ก และตนต้องช่วยเขา อีกวันเอาเช็คเงินส่วนตัวนำมาชำระคืนให้ 9 แสน เอาเงินส่วนตัวไปปิดซะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต หลังจากนั้นก็มีปัญหาเรื่อยๆ
ปัญหามันไม่ถูกแก้ไข ระยะที่ไปรับงานเล่นคอนเสิร์ตเปิดร้านๆ นึง ตนก็เพิ่งทราบว่าเงินมัดจำติ๊กรับมาครึ่งนึง แต่ทราบจากติ๊กว่าเขาเลื่อนเงินมัดจำ พอตนโทรไปตามอีกครึ่งนึงถึงได้รู้ว่าเงินมัดจำโอนไปแล้ว
ขณะที่ตนไปถ่ายละคร มีคนมาที่บ้านทุกวัน มันไม่ปลอดภัย มีการโทรศัพท์มาทวงหนี้เยอะขึ้น ผมถึงต้องุยติความสัมพันธ์กับติ๊ก การใช้ชีวิตร่วมกันแบบนั้นไม่ได้ และเคยพูดว่าถ้าใช้หนี้ไม่พอ เอาทองไปขาย ถ้าต้องเอาเงินอนาคตวีจิไปใช้ ผมถามว่าถ้าเอาทองไปขายล่ะ เขาบอกทองขายไปหมดแล้ว ถึงแม้เขาบอกบางส่วนก็ตาม
จริงๆ ตนให้เงินเดือนติ๊กเดือนละ 3 หมื่น ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ค่าซื้อของเครื่องใช้ในบ้าน เรื่องลูกผมรับผิดชอบ มันไม่ใช่ 300-500 บาทและผมเห็นว่าการปรับปรุงในการแก้ปัญหาจนถึงปัจจุบัน เราคงใช้ชีวิตรวมกันไม่ได้ ต่อให้ขายไปส่วนนึง แต่ทองเป็นของคนที่เขาให้เป็นน้ำใจ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพรักเท่าไหร่ คิดว่ากี่บาท พูดตรงๆ สลึงนึงก็ไม่ควรขาย ตนบอกว่าลองไปขายมั้ยแต่เขาบอกว่าไม่มีแล้ว
สิ่งที่จะบอกคือตนไม่ได้อยากออกมาพูดเรื่องส่วนตัว มันเจ็บทั้งคู เมื่อครอบครัวแตกมันพังอยู่แล้ว ตนก็แย่ ติ๊กก็แย่ แต่คนแย่ที่สุดคือลูก ณ วันนี้ติ๊กออกมาขอโทษตน สังคม วีจิ ทุกอย่างเรียบร้อย ตนขอดูการกระทำของเขาสักระยะว่ามีความปลอดภัยจริงมั้ย
หลังจาก สาวติ๊ก ให้สัมภาษณ์ไปได้ไม่นาน ก็ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องหนี้สินของติ๊กยังไม่จบ เพราะล่าสุดมีเจ้าหนี้รายใหม่โผล่มาอีกแล้ว โดยอ้างว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ที่พาติ๊กไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะอีกฝ่ายร้องขอ เป็นจำนวนเงิน 5 หมื่น มีแชตไลน์ที่คุยกับติ๊กเพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ติ๊กได้ขอให้เจ้าตัวเปิดบัญชีให้ และให้ค่าตอบแทน 2 พันบาท โดยเจ้าหนี้รายนี้โพสต์หาหนุ่มถึงเฟซบุ๊กส่วนตัว วอนขอให้ช่วย ครวญที่ผ่านมาติ๊กไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ จนเจ้าหนี้บุกตามทวงหนี้ตนถึงบ้าน ทำให้ทำมาหากินไม่ได้
“วอนคุณหนุ่มช่วยพี่ด้วยค่ะ พี่กำลังแย่มากตอนนี้ พี่ขับรถวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ รู้จักกับคุณติ๊กมานาน และคุณติ๊กมาขอร้องยืมเงินให้พี่หาคนให้กู้เงิน พี่ก็หาให้ เอาตรงๆ พี่ก็ไม่ได้มีเงินพี่คนหาเช้ากินค่ำ คุณติ๊กบอกเดี๋ยวคืนยืมไม่นานเพราะคุณติ๊กบอกเดี๋ยวได้กลับเข้าบ้านคุณหนุ่ม ถ้าได้เงินจำนวนนี้ไป ตอนนี้สิบกว่าวันแล้ว คุณติ๊กไม่จ่ายดอกเลย พี่เป็นคนกลางก็โดนเจ้าหนี้มาตามถึงบ้าน มาเฝ้าพี่ที่วินมอเตอร์ไซค์ พี่ก็ไม่กล้าไปขับวิน พี่เห็นคุณติ๊กออกรายการ 2 รายการ และวันก่อนคุณติ๊กก็บอกได้เงินจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ได้เงินมาน่าจะจ่ายตัดดอกให้พี่บ้าง เห็นใจพี่เถอะค่ะคุณหนุ่ม ถ้าไม่หมดหนทางจริงๆ พี่คงไม่ขอให้คุณหนุ่มช่วยแทนคุณติ๊ก ตอนนี้พี่มีเงินติดตัว 200 จะออกไปวิ่งวินมอเตอร์ไซค์ก็กลัวเจ้าหนี้มาดัก อยู่บ้านก็ผวาว่าเขาจะมาตาม ขอความกรุณาคุณหนุ่มช่วยพี่ด้วยนะคะ และเมื่อคืนคุณติ๊กบอกใช้บัญชีตัวเองไม่ได้ พี่เองก็ไม่เข้าใจ หรือคุณติ๊กยังเล่นอยู่ แบบนี้พี่ก็เท่ากับช่วยส่งเสริมเขา #ต้องกราบขอโทษ ถ้าทำให้คุณหนุ่มรำคาญใจ แต่พี่หาเช้ากินค่ำ ถ้าออกไปทำงานวิ่งรถไม่ได้ลูกพี่จะอยู่กินยังไง วอนเห็นใจด้วย #เห็นใจคนหาเช้ากินค่ำด้วยค่ะ”
ขณะที่หนุ่ม ศรรามได้เมนต์ตอบกลับไปว่า “ขออนุญาตเรียนตามตรงนะครับว่าผมกับคุณติ๊กได้หย่าขาดกันโดยสิ้นเชิงเป็นระยะเวลาที่นานแล้วนะครับ และตอนนี้คุณติ๊กไม่ได้พักอาศัยอยู่กับผม ผมเห็นใจที่พี่เดือดร้อนนะครับผม แต่ต้องขอความกรุณาให้ติดต่อคุณติ๊กโดยตรงนะครับผม ด้วยความเคารพ ขอยพระคุณครับผม”
โดยล่าสุด สาวติ๊ก ได้ออกมาชี้แจ้งกับประเด็นดังกล่าวว่า “จริงๆ แล้วติ๊กได้ออกมาพูดในรายการหมดทุกอย่างแล้วนะคะ แล้วก็อยากจะบอกกับพี่ๆ ว่าวันแรกที่พี่สื่อมวลชนโทรหาติ๊กเนี่ยมากกว่า 200 มิสคอล แต่ว่าติ๊กต้องขอโทษจริงๆ
ที่ให้สัมภาษณ์อะไรไม่ได้มาก หนึ่งเพราะติ๊กไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่นซึ่งเป็นคนที่ติ๊กรักอยู่ 2 คนนะคะ เพราะฉะนั้นวันนี้ติ๊กแก้ไขเริ่มต้นใหม่ แล้วก็พร้อมที่จะปรับปรุงนิสัยของตัวเอง ไม่ว่าเจ้าหนี้คนไหนใดๆ ก็ตามที่มันเป็นเรื่องเก่าแล้ว หรือว่าเป็นช่วงเวลาที่ติ๊กออกมาขอโทษให้สัมภาษณ์หมดแล้ว”
“ในกรณีนี้ติ๊กไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขามีแรงจูงใจอะไร ที่รู้ว่าติ๊กลงอยู่แล้วเราก็คุยกันทุกอย่าง ติ๊กช่วยเหลือเขาเรื่องเงินด้วยก้อนหนึ่ง ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่มีเงินจะใช้
อันนี้ถือว่าเจตนาคนเราคิดจะทำสิ่งใดก็แล้วแต่ เจตนามันคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
ไม่ว่าพี่เขาคนนั้นจะบอกว่าเป็นเงินของเขาเอง ซึ่งมันก็ไม่จริง เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่ค้ำประกันติ๊ก ซึ่งมันก็ไม่จริง เพราะว่าไปดูตามบัตรประชาชนได้ว่า ติ๊กเป็นคนกู้คนเดียวเซ็นคนเดียว ถ้ามีผู้ค้ำประกัน ติ๊กเคยกู้มาแล้ว 2 รอบนะคะ ถ้ามีผู้ค้ำประกันเขาจะต้องเขียนชื่อผู้กู้ในกระดาษบัตรประชาชนอันนั้นด้วย แต่อันนี้มันไม่มีอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเจตนาจงใจของเขาต้องการอะไร”
หมายถึงวินมอเตอร์ไซค์คนนั้นใช่ไหม?
“เมื่อกี้พี่ถามถึงใครล่ะคะ”
ทางเขาบอกว่าตอนนี้ออกไปทำงานไม่ได้เพราะว่ามีเจ้าหนี้มาทวงหนี้?
“อันนี้พูดไปแล้วนะคะก็ขอพูดแค่นี้ ถ้าจะขยายอีกอย่างก็คือวันนั้นที่ติ๊กกู้มา เขาก็กู้เหมือนกัน ถ้าเขาจะตามคงไม่ได้ต้องตามส่วนของติ๊กค่ะ เพราะว่าติ๊กกับคนที่ติ๊กกู้มาก็ยังติดต่อติ๊กได้ตลอด เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะตาม ไปดูได้เลยว่าติ๊กโอนเงินให้ก่อนที่เขาจะโพสต์หมื่นนึง แล้ววันที่เขาโพสต์อีก 4 พัน แล้วอีกตอนนึงติ๊กโอนให้คนที่เป็นเจ้าหนี้ติ๊กอีก 4 พัน ก่อนหน้านี้ติ๊กก็โอนให้ตลอดเวลาทั้งที่ติ๊กออกข่าว ออกรายการว่าติ๊กกำลังแย่ ความรับผิดชอบติ๊กมี เพราะว่าต้องการที่จะแก้ไข เพราะฉะนั้นใครที่มีเจตนาจงใจไม่ดีกับติ๊ก ติ๊กอโหสิให้ค่ะ”
ยอดที่กู้มาคือ 50,000
“จริงค่ะ ยอด 50,000 คือรวมดอกด้วยนะคะ เพราะติ๊กกู้ 40,000 ดอกเบี้ยอีก 10,000 รวมเป็น 50,000”
ที่ผ่านมาคือจ่ายตรงทุกงวด?
“อันนี้ตอบไปแล้วนะคะ ติ๊กก็ตอบได้แค่นี้ ต้องขอโทษจริงๆ”
“ถามว่าท้อไหม วันที่กล้าออกมายอมรับ ติ๊กเชื่อว่าน้อยคนมากๆ ที่จะกล้าออกมายอมรับแบบนี้ แต่ติ๊กก็เชื่อว่าอีกมุมหนึ่งของสังคมไทยก็ยังมีใครที่ผิดพลาด เพราะไดเร็กแมสเสจของไอจีติ๊กที่เปิดช่องทางเดียวเพื่อหากำลังใจ คนส่งข้อความมาเกือบแสนคน ตอนนี้ 60,000 คน มากกว่าคนคอมเมนต์ในไอจีนะคะ หลายคนกล้าที่จะบอกเรื่องที่ตัวเองผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพนัน หลายคนได้เล่นการพนัน แต่หลายคนยกย่องในตัวติ๊กที่วันนี้กล้าหาญออกมา เขาก็กำลังหาแรงบันดาลใจเหมือนกันว่าเขาจะหลุดพ้นตรงนี้ได้ยังไง”
“เอาง่ายๆ ว่าถามว่าท้อไหม
ไม่เคยท้อค่ะ ถ้าถามลำบากไหม มันก็ลำบากเนอะ แต่ถ้าเรากลัวความลำบากเราก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ สิ่งๆ นี้มันเกิดขึ้นในชีวิตติ๊ก ตั้งแต่เล็กจนโตติ๊กสู้มาตลอด ถามว่าลำบากไหม ท้อไหม เคยเป็นค่ะในช่วง 10 วันแรก แต่วันนี้ 16 วันแล้วที่ออกจากบ้านมา
ขอบอกเลยว่าไม่เคยท้อ ทุกวันนี้เดินออกจากบ้านมาทำงาน 1 กิโล เพราะมันไม่มีแท็กซี่เข้าไปถึงหมู่บ้านที่อยู่ ก็เดินได้ค่ะ"
รู้จักกับวินมอเตอร์ไซค์คนนั้นมานานแค่ไหน
"ติ๊กได้ตอบไปแล้วนะคะ ก็จะไม่ขอพูดอีกนะคะ"
กลัวจะลามปามมากไปกว่านี้มั้ยเรื่องของมอเตอร์ไซค์คันนี้
"ทำไมติ๊กต้องกลัวคะ เพราะในเมื่อติ๊กกู้ ติ๊กใช้ ให้ดอก 100 ละ 20 บาท ทำไมต้องกลัว ไม่กลัวค่ะ"
ทราบเหตุผลมั้ยว่าทำไมเขาถึงออกมาแฉเรา
"ติ๊กพูดได้แค่นี้นะคะ ขอโทษด้วย ไม่ขอพูดเรื่องเก่าแล้วนะคะ"
มีการติดต่อเขาไปบ้างมั้ย
"ถ้ายังถามเรื่องเก่าอยู่ต้องขออนุญาตจริงๆ เพราะว่าตอบได้แค่นี้จริงๆ ค่ะ"
คิดว่าหนี้สินทั้งหมดของเราจะเคลียร์จบยังไง
"ถ้าจะให้ตอบเป็นวันและเวลากับตอนนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมาอยู่ไม่อยากจะขอพูดเรื่องเดิมๆ
ถ้าทุกคนอยากจะเป็นกำลังใจให้ติ๊กก้าวต่อไปได้ แก้ไขในสิ่งผิดพลาดได้ หนูขอความกรุณาและความเห็นใจ (เสียงสั่น) เพราะว่าหนูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ร้องไห้) เพราะฉะนั้นติ๊กอยากได้กำลังใจ ไม่อยากได้คำถามที่เจ็บปวด เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าจะมูฟออนไปยังไงน่าจะดีกว่า”
“เอาจริงๆ จากใจนะคะ ติ๊กก็เป็นผู้หญิงกล้าคนนึงที่สามารถกล้าพูดทุกอย่างได้ แต่ติ๊กก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่มีความรู้สึกนึกคิดตรงกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะฉะนั้นติ๊กเคารพความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก ถ้าวันนึงติ๊กแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว พี่ๆ นักข่าวอยากถามอะไรถามได้หมดเลยนะคะ ไม่ปิดบังอยู่แล้ว เพราะวันนี้ที่ออกมาก็ไม่คิดจะโกหก ติ๊กอยากจะพูดความจริงหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ที่จะก้าวไปข้างหน้าคือลูกค่ะ อะไรที่พูดได้ อะไรที่พูดไม่ได้ อะไรที่ออกรายการได้ อะไรที่ออกรายการไม่ได้ อะไรที่หารายได้ได้ อะไรที่หารายได้ไม่ได้ ทุกอย่างมันถูกตีกรอบไว้ในภาพที่ถูกต้อง ในภาพที่ไม่เอาตัวเองไปคลุมเครือในสิ่งที่ไม่ดี”
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่หนุ่มและลูกกำลังรอดูอยู่คือการแก้ปัญหาในสิ่งที่ถูกต้อง กลับตัวเองเป็นคนใหม่ เดินทางที่ถูก เพราะฉะนั้นหนี้ทุกอย่างจะใช้เคลียร์เมื่อไหร่ หนี้ทุกอย่างถูกแบ่งเงินก้อนนึงที่ออกรายการหรือว่างานจากอันอื่นที่แบ่งก้อนนึงให้กับคนหลายๆคนทีละเล็กๆ ทุกครั้ง แม้แต่ตัวเองจะลำบากก็ไม่เป็นไร"
ล่าสุดรายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 - 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" เปิดใจ "เมย์" วินมอเตอร์ไซค์ที่ออกมาโพสต์ขอความเห็นใจ "หนุ่ม ศรราม" หลังจากที่พา "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" ไปกู้หนี้นอกระบบ แต่ติ๊กไม่จ่ายหนี้ จนเจ้าหนี้มาตามทางตนถึงบ้าน ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้านไปทำงาน
รู้จักกันนานหรือยัง?
เมย์ : "รู้จักจะ 8 ปีแล้วค่ะ ตอนเขายังไม่แต่งงานกัน ติ๊กใช้งานอยู่ตลอดจนสนิทกัน"
รู้มั้ยติ๊กเล่นการพนัน?
เมย์ : "ตอนแรกไม่รู้หรอกค่ะ มารู้ตอนหลังติ๊กเขาให้ไปเติมเงินเอาเงินไปเข้าบัญชี ล่าสุดเดือนธ.ค. เขาทักว่าพี่เมย์สบายดีมั้ย หนูอยากให้พี่เมย์ช่วยหน่อย มีใครออกเงินกู้มั้ย พี่ก็บอกว่ามีนะ เดี๋ยวดูให้แต่ยังไม่รับปาก ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาติดการพนัน คิดแค่เพียงว่าเอ๊ะ ทำไมเขาเป็นเมียศรราม ทำไมถึงจะต้องให้วินมอเตอร์ไซค์หากู้ให้เขา เขาบอกว่าถ้าหากู้ไม่ได้ เขาไม่ได้เข้าไปหาลูก ช่วยหาให้หน่อย เพราะถ้าไม่เงินก้อนนี้ไปหนูไม่ได้กลับเข้าบ้าน หนูโดนพี่หนุ่มไล่ออกจากบ้าน หนูต้องหาเงินก้อนนี้โอนไปให้พี่หนุ่ม ก็เลยตัดสินใจโทรหาเจ้าหนี้ ซึ่งไม่ติดต่อเขามานานแล้ว ไปถามคนข้างๆ ว่ามีเบอร์คนนี้มั้ย ถ้าจะให้ก็ให้มาคุยกันเอาเอง ก็นัดเจ้าหนี้มาคุยกันหน้าคอนโด"
ตอนนั้นเท่าไหร่?
เมย์ : "ตอนนั้นน้องจะเอาเป็นแสน แต่เจ้าหนี้บอกว่ามันเยอะไป แล้วจะเอาอะไรค้ำประกัน น้องก็เอาสำเนาบัตรประชาชนของน้องนั่นแหละ ไม่มีหลักทรัพย์อะไร เจ้าหนี้ให้ 5 หมื่น เป็นเงินต้นยังไม่รวมดอกเบี้ย ดอกเบี้ยอีก 1 หมื่น"
ร้อยละ 20?
เมย์ : "น้องพูดเองว่าดอกเท่าไหร่ก็ได้ ส่งเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้ได้เงินก้อนนี้มาเพื่อเข้าบ้านหาลูก"
เขาบอกมั้ยยืมนานเท่าไหร่?
เมย์ : "เขาบอกว่ายืมไม่นาน เขาถามเจ้าหนี้ก่อนส่งอะไรยังไง ถ้าเงินจำนวนนี้เดือนนึงก็ส่งวันละ 2,000 ถ้าส่ง 24 วันก็วันละ 2,500 น้องก็ตกลงที่ 2,500 ก็เขียนบัตรประชาชนแค่นั้นแหละ แล้วพอแยกจากเจ้าหนี้ น้องก็ทักว่าเมื่อไหร่เขาจะโอนเงินให้ ไปถามให้หน่อยได้มั้ย"
เขาบอกว่าเขาจะเอาไปทำอะไร?
เมย์ : "จะเอาไปโอนให้พี่หนุ่มเพื่อไปหาลูก ด้วยเหตุผลนี้ รักน้องด้วย แล้วก็สงสารหลาน"
ก่อนหน้านี้เขาก็ให้พี่เมย์ช่วยหาเจ้าหนี้ให้ตลอด?
เมย์ : "ค่ะ แต่ไม่เคยหาให้เลย แต่ครั้งนี้หาให้เพราะสงสาร อยากให้เขากลับไปเจอลูก"
เบ็ดเสร็จทั้งหมด 6 หมื่น หลังจากนั้นยังไงต่อ?
เมย์ : "น้องยืมวันที่ 30 ส.ค. แล้วน้องก็ส่งเขาไปแค่วันเดียว วันที่ 31 จำนวน 2,500 จากนั้นไม่ส่งเลย เจ้าหนี้ก็เลยว่ายังไง ไม่เห็นโอนเลย เขาก็บอกว่าเดี๋ยวโอนให้นะ แป๊บนะ เดี๋ยวไปออกรายการ 10 วันผ่านไปก็ไม่ได้ แล้วมาได้อีกหมื่นนึงวันที่เขาออกรายการคุยแซ่บโชว์"
เขาโอนไป?
เมย์ : "เขาไม่ได้โอน วันนั้นแหละค่ะที่เขานัดว่าเขาจะคืนให้หมดเลย เขานัดแล้วหายไปจนสี่ทุ่มเรียกไปเอาเงินสดได้แค่หมื่นเดียว บอกว่าให้เอาไปให้เจ้าหนี้ พี่เมย์ก็เอาไปโอนให้เจ้าหนี้เลย อีกวันน้องก็ให้มาอีก 4 พัน วันที่โพสต์ลงไปวันที่ 12 ก.ย. รวมเป็น 16,500"
เจ้าหนี้ว่าไง?
เมย์ : "เจ้าหนี้บอกว่าให้เป็นหน้าที่คุณแล้วกันให้คุณไปจัดการหามาให้ผมให้ได้ แค่นั้น"
เจ้าหนี้มาตามทวงกับเรา เขาว่ายังไง?
เมย์ : "เขาว่าพี่เมย์ครับ พี่ติ๊กว่าไง ก็บอกว่ากำลังตามให้อยู่ ดูให้อยู่ ไปเฝ้าที่คอนโดให้อยู่ ระหว่างเฝ้ารอก็เสียเวลาทำมาหากินแล้ว ไม่ได้วิ่งรถ ก็ไม่มีรายได้"
ไปเฝ้าอยู่นานเท่าไหร่?
เมย์ : "ไปดูทุกวัน ดูว่าเขาจะกลับมามั้ย เราไลน์ไปทักไปเขาก็ไม่อ่าน โทรไปก็ไม่รับสาย"
เพราะอะไรโพสต์หาหนุ่ม ศรราม?
เมย์ : "อยากให้น้องหยุดเรื่องการพนัน ปรับปรุงตัวใหม่ อยากให้กลับเข้าไปหาลูก"
ทำไมไม่โพสต์หาติ๊กเอง?
เมย์ : "ถึงทักไปหาน้อง น้องก็ไม่ตอบอยู่แล้ว ถึงตัดสินใจทำอย่างนี้ พี่ก็วอนให้คุณหนุ่มช่วยว่าคุณติ๊กให้พี่ไปยืมเงินนอกระบบให้ ตอนนี้เจ้าหนี้มาบีบพี่ พี่ตามคุณติ๊กไม่ได้"
คุณหนุ่มมาตอบด้วย?
เมย์ : "ค่ะ ตอบว่าเขาไม่เกี่ยวกับคุณติ๊กแล้ว เขาหย่าแล้ว ให้ไปทวงถามกับคุณติ๊กโดยตรง"
เขาตอบมาแบบนั้นโกรธคุณหนุ่มมั้ย?
เมย์ : "ไม่โกรธค่ะ แค่อยากให้เขาทราบเฉยๆ เผื่อเขาช่วยอะไรได้บ้าง ช่วยหรือไม่ช่วยก็ไม่โกรธ"
ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ อยู่ในสาย ตกลงเรื่องเป็นยังไง พี่เมย์พาติ๊กไปเจอเจ้าหนี้ใช่มั้ย?
ติ๊ก : "ก็ดีเหมือนกันที่มีทนายเจมส์นั่งอยู่ตรงนี้ จะได้ปรึกษาปัญหาไปด้วยเลย คือติ๊กรู้จักกับพี่เมย์เป็นระยะเวลานานมากซึ่งติ๊กเคารพและรักพี่เมย์เหมือนพี่ ยามทุกข์หรือมีปัญหาอะไร ติ๊กสามารถไว้ใจพูดกับพี่เมย์ทุกเรื่อง ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังออกจากบ้านเพราะเราต้องเอาเงินใช้กับเจ้าหนี้บางส่วน ให้พี่เมย์ช่วยหาคนที่สามารถกู้หรือยืมเงินใครมาก่อนได้มั้ย ดอกร้อยละ 20 พี่เมย์ก็แนะนำคุณเค เป็นเจ้าหนี้ เขาก็ให้กู้ยืมมา 4 หมื่น รวมดอกด้วยเป็น 5 หมื่น ด้วยติ๊กมีปัญหา พยายามแก้ไขอะไรบางอย่างในชีวิตของติ๊กเอง เพื่อครอบครัวยังไงก็ต้องยอม บางทีเราเอาตรงนี้มาโปะตรงนี้ เอาตรงนี้ไปโปะตรงนั้น"
แต่พี่เมย์มีสลิปที่เจ้าหนี้โอนเงินให้ติ๊ก 5 หมื่น?
ติ๊ก : "5 หมื่นรวมดอกด้วยค่ะ กู้ 4 หมื่น รวมดอกด้วยเป็น 5 หมื่นบาท สลิป 5 หมื่นน่าจะเป็นเงินกู้ แต่ดอกด้วย ส่งวันละ 2,500 ยี่สิบสี่วัน"
สรุปเงินกู้ 5 หมื่น?
ติ๊ก : "ตรงนี้ติ๊กอาจสับสนค่ะ ต้องขอโทษด้วย เป็น 6 หมื่่นค่ะ ติ๊กขอโทษทีสับสนนิดนึงค่ะ"
ตอนนั้นตั้งใจเอาเงินไปทำอะไร?
ติ๊ก : "ตั้งใจเอาไปปิดหนี้ส่วนหนึ่ง และที่เหลือเอาไว้ใช้ และเอาไปจ่ายเพื่อนคนนี้ ติ๊กก็จะเหลือแค่ 7 พัน ติ๊กก็เห็นว่าพี่เมย์มีน้ำใจกับติ๊ก ติ๊กบอกพี่เมย์ว่าให้พี่เมย์ 3 พัน วันนั้นก็ไลน์บอกพี่เมย์ว่าหนูเหลือ 7 พันแต่ให้พี่เมย์ 3 พัน"
3 พันที่ให้เป็นค่าอะไร?
ติ๊ก : "เป็นสินน้ำใจที่พี่เมย์ช่วยในตอนที่หนูแย่ หยิบยืมใครไม่ได้ พี่เมย์มีน้ำใจแนะนำให้หนูกู้เงินมาได้"
ได้ 5 หมื่นเอาไปจ่ายเจ้าหนี้หลายๆ คน?
ติ๊ก : "มีเพื่อนที่หนูยืมมา และเอาไปจ่ายเจ้าหนี้ที่ยืมมา 2 หมื่นก็ปิดไปเลย 2 หมื่น"
ติ๊กได้เอาไปให้พี่หนุ่มตามที่บอกพี่เมย์ด้วยมั้ย?
ติ๊ก : "ไม่ใช่ค่ะ ตอนนั้นที่คุยกับพี่เมย์ หนูอยากใช้หนี้พี่หนุ่ม 4 แสนบาท ที่หนูไปกดเอทีเอ็มของลูกมา ต้องขอประทานโทษพี่เมย์ด้วยนะ ว่าทำแบบนี้เพราะอะไร เพราะ ณ วันนี้หนูไม่โทษพี่เมย์ หนูให้อภัย วันที่หนูกู้ พี่เมย์ก็กู้เหมือนกัน พี่เมย์ไม่ได้มาค้ำประกันหนูนะคะ ถ้าพี่เมย์มาค้ำประกันหนู ในใบถ่ายเอกสารหนูเคยกู้มาแล้ว 3 ครั้งกับ 3 คน รวมคุณเค หนูกู้มา 3 เจ้า ถ้ามีบุคคลที่ค้ำเขาต้องเซ็นในบัตรประชาชนหนู แต่พี่เมย์ไม่ได้เป็นคนค้ำ หนูไม่เข้าใจว่าหลังจากนั้น หนูได้ส่งให้คุณเควันละ 2,500 หนูส่งให้เจ้าหนี้น่าจะ 3-4 วัน แต่หนูไม่แน่ใจ ต้องดูประวัติการโอน แต่ช่วงนึงหนูไม่ได้ส่งให้คุณเค หนูก็คุยกับคุณเคเหมือนกัน คุณเคก็น่ารักนะคะ คุณเคเข้าใจว่าหนูเดือดร้อน จริงๆ ณ วันที่หนูนัดคุณเคเอาไว้ว่าหนูกำลังแย่ ถ้าคุณเคว่าหนูไม่ได้โกหก รอหนูอีกสักวันนึง หนูจะได้เงินก้อนใหญ่ แล้วหนูเอามาจ่ายค่าห้อง หนูอาจจะปิดคุณเคเลย ซึ่งเขาบอกว่าโอเคแต่อีกวันที่หนูนัดคุณเคว่าจะให้ หนูกลับไม่ได้เงินจำนวนนั้น หนูเลยคิดว่าเอาเงินอันนี้ที่ไปออกรายการให้คุณเค แต่หนูได้คุยแซ่บโชว์ 2 หมื่นหนูได้คืนคุณเคไปก่อนพี่เมย์โพสต์ 1 หมื่นแล้ว หนูก็เหลืออีกหมื่น ถ้าให้หมดเลย หนูก็จะแย่อีก ชีวิตหนูจะเคลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้ หนูก็ตัดสินใจให้พี่เมย์ไปฝากแบงก์อีก 4 พัน"
"หนูเป็นหนี้ก็จริง แต่หนูพยายามเคลียร์ให้เจ้าหนี้ทุกคน และตามสัญญา 24 วัน คุณเคเคยบอกว่าให้จ่าย 24 วันหรือ 30 วันก็ได้ หนูจะจ่ายทบหรือปิดก็ได้ก่อนถึงเวลาที่กำหนด แต่เนื่องด้วยวันที่พี่เมย์โพสต์ มันยังไม่ถึงเวลาที่กำหนดที่้้ต้องจ่ายเป็นก้อน"
พี่เมย์บอกว่าเจ้าหนี้ตามบีบพี่เมย์ แล้วเขามาตามพี่เมย์เพราะอะไร?
ติ๊ก : "หนูไม่ทราบว่าสิ่งที่พี่เมย์พูดจริงหรือไม่จริง เพราะหนูโทรหาพี่เมย์วันที่พี่เมย์โพสต์ จริงๆ เราเคลียร์กันได้นะ ถ้าคิดว่าเราล้มกำลังแย่ หนูเคยร้องไห้กับพี่เมย์ ว่าหนูคิดถึงลูกมาก ตรงนี้หนูต้องแก้ หนูขอบคุณที่พี่เมย์ช่วยหนู แต่ ณ วันนี้หนูพยายามติดต่อพี่เมย์ตลอด ถ้าพี่เคบีบคั้นพี่เมย์จริง พี่เมย์น่าจะรับสายหนู หรือบอกกับหนูตั้งแต่วันนั้น ไม่ใช่ว่าพี่เมย์โพสต์ แล้วแคปหน้าจอหนู ที่หนูไว้ใจพี่เมย์ คิดว่าเป็นพี่ ที่ช่วยเหลือเวลาหนูเดือดร้อนจริงๆ แต่กลายเป็นว่าพี่เมย์เอาความไว้ใจของหนู ช่วงเวลาที่หนูแย่ เอามาประจานหรือแฉหนูอีกรอบนึง (เสียงสั่น) หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจุดประสงค์พี่เมย์ พี่เมย์อาจโดนบีบ แต่พี่เมย์ควรรับสายหนู หนูโทรหาพี่เมย์หลายรอบมาก"
พี่เมย์มีอะไรอยากพูดกับติ๊ก?
เมย์ : "ก็ไม่ได้รับสายจริงๆ เพราะพี่กำลังวิ่งซื้อของให้ลูกค้าอยู่ กำลังยุ่งอยู่"
ติ๊ก : "แต่มันนานมากเลยนะพี่เมย์ มันเกือบทั้งวัน ทำไมพี่เมย์รับสายพี่นุ่นได้คะ หนูอยู่กับพี่นุ่นนะคะพี่เมย์ หนูอยากให้พี่เมย์พูดความจริงนะคะ"
เมย์ : "ระหว่างที่รับสายพี่นุ่น ช่วงจอดรถพอดี"
ติ๊ก : "ไม่ค่ะพี่เมย์ เอางี้แล้วกัน ประเด็นนี้หนูเองไม่จำเป็นต้องมาแก้ตัว เพราะหนูเองยอมรับกับสังคมได้ว่าหนูเป็นอะไร ผิดพลาดตรงไหน อยากแก้ไขตรงไหน อะไรที่พูดได้หรือพูดไม่ได้ หรือต้องไปพาดพิงบุคคลที่สาม ครอบครัวหนูลูกหนู ทำให้ภาพแย่ลงหนูไม่พูด"
อยากบอกอะไรพี่เมย์?
ติ๊ก : "หนูจะบอกว่าหนูขอบคุณมาก หนูไม่คิดหรอกว่าพี่ทำร้ายหนู หนูให้อภัย หนูคิดว่าพี่เมย์เป็นพี่ที่เคารพและรัก และขอบคุณที่ช่วยติดต่อคุณเคมาช่วยในตอนที่หนูกำลังหายใจไม่ออก กำลังจะจมน้ำ ได้โผล่ขึ้นเหนือน้ำได้หายใจอีกเฮือกหนึ่ง หนูก็ขอโทษที่ทำให้พี่เดือดร้อน ในระยะเวลาที่คุณเคบีบพี่หรืออะไรก็ตาม ที่พี่ได้ตัดสินใจทำแบบนี้ เวลาสถานการณ์คนล้มมันเกิดอะไรขึ้นได้ตลอดเวลา ก็อย่าโทษคนอื่นเลย โทษตัวหนูดีกว่าค่ะ"