- 27 พ.ค. 2564
ทำเอา “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” นั้นงานเข้าเต็มๆ เมื่อเธอนั้นถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลังเธอนั้นโพสต์ข้อความ ไม่พอใจในการให้บริการของโรงพยาบาล พร้อมกับต่อว่าโรงพยาบาล ที่ไม่มีศักยภาพในการเซฟชีวิตคนไข้ที่ใกล้เสียชีวิต
ต้องบอกว่างานนี้ก็ทำเอา “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” นั้นงานเข้าเต็มๆ เมื่อเธอนั้นถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลังเธอนั้นได้พาคุณเเม่ไปรับการรักษา เเละโพสต์ข้อความลงบนอินสตราเเกรมว่า ไม่พอใจในการให้บริการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวบ้าน
โดยงานนี้ชาวเน็ตก็ได้วิจารณ์ สาวปุ๊กลุก หลังทีมแพทย์ช่วยเหลือจนคุณแม่ของเธอ จนอาการกลับมาดีขึ้น เเต่เธอนั้นนอกจากจะไม่ได้ให้คำชมต่อทีมแพทย์ หนำซ้ำยังด่าโรงพยาบาลออกสื่ออีก จนชาวเน็ตต่างเเชร์วลีเด็ดว่า “CPR แทบตาย บอกขอบคุณค่ะพระเจ้า” ในขณะที่บุคลากรทางการเเพทย์ เมื่อเห็นโพสต์การตำหนิการทำงานของทีมเเพทย์ ก็ถึงกับออกมาเผยเเชท หมดกำลังใจ ออกมาว่อนโลกออนไลน์
เเละก็ดูท่าว่าเรื่องราวนั้นจะไม่จบง่ายๆ เมื่อโรงพยาบาล คู่กรณีของ “ปุ๊กลุก” ไม่ขอทน ตามหาคลิปไลฟ์ เตรียมฟ้องเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งทางเพจชื่อดังอย่างเพจ หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor นั้นก็ได้เผยเเชทการสนทนาบุคคลหนึ่งผ่านโลกโซเชียล ซึ่งได้มีการเอ่ยถึงโรงพยาบาลที่คู่กรณีของ สาวปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ที่มีปัญหาระหว่างการรักษาคุณแม่ ซึ่งทางเพจได้โพสต์ระบุข้อความว่า "ทาง รพ. ฝากมา เขาจะเอาคลิปไลฟ์ของ ปล. ไปฟ้องครับ"
เเละล่าสุดทางด้านของ โรงพยาบาลคู่กรณี “ปุ๊กลุก” ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้ว ไม่คิดฟ้อง ทางผู้บริหารโรงพยาบาลยังไม่คิดที่จะดำเนินการฟ้องร้องนางเอกดังแต่อย่างใด เพราะภารกิจสำคัญของโรงพยาบาลคือการช่วยชีวิต โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดหนัก จึงไม่ติดใจกรณีดังกล่าว เพราะช่วยชีวิตคุณแม่สำเร็จแล้ว พร้อมเผยเหตุผล 5 ข้อ! โดยโรงพยาบาล ได้กล่าวว่า
1. เรื่องรถพยาบาล ที่ปุ๊กลุกบอกให้แวะรับกลางทางเผื่อรถสวนกันนั้น ขอชี้แจงว่าปัจจุบันทาง รพ.รับผู้ป่วยทั้งเคสทั่วไป และเคสผู้ป่วยโควิด ซึ่งใช้รถพยาบาลร่วมกันไม่ได้ และคืนเกิดเหตุก็มีเหตุฉุกเฉินเยอะมาก ไม่ได้มีแค่กรณีคุณแม่ของปุ๊กลุก อีกทั้งการแวะรับกลางทางก็ไม่ทราบพิกัดแน่นอน จึงเป็นการสะดวกกว่าที่จะตั้งรับที่ รพ.
2. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากรถ เนื่องจากทราบว่าผู้ป่วยล้มศีรษะกระแทก จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเรื่องการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะส่วนศีรษะและกระดูกสันหลัง เพราะหากเคลื่อนย้ายไม่ถูกต้องอาจสร้างความบาดเจ็บเพิ่มเติมให้แก่ผู้ป่วยได้
3. ยืนยันว่าแพทย์ พยายาล และเจ้าหน้าที่ ได้ทำการปั๊มหัวใจกู้ชีพอย่างดีที่สุด รวดเร็วที่สุด จนกระทั่งสามารถช่วยชีวิตคุณแม่ของปุ๊กลุกได้สำเร็จ
4. แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เข้าเวรในคืนดังกล่าวได้เห็นข้อความที่ปุ๊กลุกโพสต์แล้ว ทุกคนรู้สึกเสียใจ และหมดกำลังใจ เนื่องจากในสภาวะเช่นนี้ทุกคนต้องทำงานหนักและอยู่เวรมาตลอดทั้งวันแล้ว แต่ก็ไม่มีใครติดใจ เพราะเข้าใจความรู้สึกของญาติผู้ป่วยว่า 1 นาทีของท่าน กับ 1 นาทีของเรามันไม่เท่ากัน ยืนยันไม่มีใครโกรธ หรือติดใจ เพียงแต่รู้สึกเสียใจและหมดกำลังใจ
5. รพ.ยืนยันไม่ฟ้องปุ๊กลุก เพราะภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยสำคัญกว่า โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาดหนักเช่นนี้ แต่ยืนยันตามหาคลิปที่มีคนอ้างว่าปุ๊กลุกไลฟ์จากในห้องฉุกเฉินจริง เพื่อตรวจสอบว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากผิดกฎ และละเมิดสิทธิ์ผู้ป่วยท่านอื่นที่อาจถ่ายติดไปด้วย และถ้าเจอก็จะขอให้ลบคลิปดังกล่าวทิ้งไปเท่านั้น ไม่ได้คิดฟ้องร้องแต่อย่างใด เพราะสิ่งสำคัญคือ ได้ช่วยชีวิตคุณแม่ของปุ๊กลุกได้สำเร็จแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiNews