มดดำ คชาภา ชี้หน้าด่าแรง หมอปลา มือปราบสัมภเวสี กลางรายการ

ยังเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เรื่องคดีของน้องชมพู่ แห่งบ้านกกกอก ซึ่งล่าสุด หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้เดินทางมาให้สัมภาษณ์ในรายการแฉ ซึ่ง มดดำ คชาภา พิธีกรฝีปากกล้า ได้เหน็บแรงถึง หมอปลา ว่าอย่าไลฟ์ทำอะไรไม่ดีในรายการของฉันนะ เนื่องจาก หมอปลา เคยให้สัมภาษณ์กับรายการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ว่าถ้า ลุงพล ถูกตัดสินว่าผิดในคดีนี้ หมอปลาจะปลิดชีพตัวเองเลย

นอกจากนี้ มดดำ คชาภา ยังได้ฟาด หมอปลา ต่ออีกว่า "ไหนเคยพูดว่าจะเอาโฉนดไปประกันตัวลุงพล คนอย่างเธอมันกลืนน้ำลาย" ก่อนที่หมอปลาจะเถียงว่า "ถุยทิ้งไปแล้วนานแล้ว นั่นมันกี่เดือนที่ผ่านมา คุณไม่ดูข่าวเลยเหรอที่ผมถอยออกมาแล้ว"

ทั้งนี้เมื่อ พิธีกรฝีปากกล้า ได้ถามว่าคุณรู้หรือไม่ว่าลุงพลจะโดนจับ หมอปลา ก็ตอบว่า "ตั้งแต่ปักธูปกลับหัวแล้ว" งานนี้เจอมดดำอัดอีกว่า "เรื่องธูปกลับหัว เธอก็ร่วมตอแหลสังคมนะ อีปลาตอแหล"

กระทั่งทั้งคู่ได้นั่งพูดคุยกัน ลุงพลเป็นคนแรกที่ตำรวจสงสัย เพราะแอ็คติ้งมากเกินไป อีกอย่างวันที่ลุงพลปักธูปกลับหัว ผมก็ไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่ที่ต้องบอกว่าเป็นคนสั่งเพราะชาวบ้านตั้งแง่กับเขามาก ตนเลยแก้ตัวแทนเขาไปว่าปักธูปแบบนี้เพื่อให้สะท้อนไปหาคนที่ทำ เพราะผมกลัวครอบครัวเขาจะไม่มีที่อยู่ แต่ที่จริงลุงพลไปเชื่อหมอทางบุรีรัมย์ แนะนำให้ทำแบบนั้น

แต่ประเด็นที่ทำเอาฮือฮาก็คือ เรื่องการทำเหล็กไหล ซึ่ง หมอปลา ก็เล่าให้ฟังว่า นี่เป็นเรื่องการทำเหล็กไหลนะ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องลุงพล พร้อมทั้งบอกว่า ความเชื่อการทำเหล็กไหลของคนกลุ่มนั้น เขาต้องใช้คนที่เกิดวันดวงแข็ง คือวันเสาร์หรืออังคาร และเชื่อว่าต้องห้ามเอาชีวิตเด็กด้วยมือตัวเอง แต่ต้องทำให้เด็กหมดลมหายใจอย่างทรมาน จะทำเองไม่ตาย ต้องให้ตายเอง

โดยการที่ทำให้เด็กตายโดยไม่ฆ่านั้น ก็คือการทุบหลังเด็ก ให้เด็กจุกและค่อยๆ แย่ลงไป ให้เด็กทรมานก่อนตายเพราะจะเกิดความเฮี้ยนในการที่จะได้เครื่องรางชิ้นนั้นมา แต่ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิดๆ เมื่อเล่านิทานจบ หมอปลากลับเข้าเรื่องคดีของน้องชมพู่ ซึ่งบอกว่าน้องชมพู่เกิดวันเดียวกับผม คือ 7 มีนาคม แต่คนละปี น้องชมพู่เกิดวันอังคาร ซึ่งเป็นวันดวงแข็ง

อย่างไรก็ตาม หมอปลา ยังปิดท้ายว่า เรื่องนี้ถ้าลุงพลทำจริง ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาคนเดียว ต้องมีอีกไม่ต่ำกว่า 2 คน เพราะเขาเคยพูดกับผมว่า ถ้าเขาโดนจับจะแฉให้หมด

ขอบคุณรายการแฉ

ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiNews