ผบช.ไซเบอร์ ตอบแล้ว เหตุผลออกหมายเรียก แม่แตงโม ลั่นถามความสำคัญ บังแจ็ค

ผบช.ไซเบอร์ ตอบแล้ว เหตุผลออกหมายเรียก แม่แตงโม ลั่นถามความสำคัญ บังแจ็ค จากที่ก่อนหน้านี้ หนุ่ม กรรชัย ที่ดำเนินรายการโหนกระแสได้มีการติดต่อไปยัง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ให้มาร่วมพูดคุยด้วยการวิดีโอคอล เกี่ยวกับ กรณีของ บังแจ็ค ซึ่งช่วงตอนหนึ่ง ผบช.สอท. ได้เปิดเผยแล้วว่า ออกหมายเรียก คุณแม่แตงโม ให้เข้าไปพบทำไม 

 

โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ระบุว่า ทนายเดชาเป็นคนนัดให้เข้าไปยังสอท. เพื่อให้คุณแม่มาในฐานะพยาน ในคดีที่ กระติกแจ้งความ ในเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากว่าภาพที่บังแจ็คได้มีการเปิดเผยมานั้นมีภาพกระติก และในนั้นมีข้อความบางอย่างซึ่งกระติกเองมองว่าตัวเองเสียหาย เธอจึงไปแจ้งความเอาไว้ 

และเมื่อไปแจ้งความเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ด้วยการ ต้องมีการสอบและสืบ นั่นก็คือการถามต้นทางว่า ภาพเหล่านั้นมาจากไหน ซึ่งรูปเหล่านั้นมีอยู่ 2 แห่งคือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและอยู่ในเครื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโม แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือคุณแม่แตงโมนำโทรศัพท์มือถือส่งให้บังแจ็ค 

และทาง บังแจ็คก็ยอมรับแล้วว่าเป็นคนปล่อยภาพเหล่านั้นเอง ตำรวจจึงต้องเลือกต้นทางนั่นก็คือคุณแม่ ที่เป็นคนถือโทรศัพท์ เพื่อจะได้มีการสอบถามว่าทำไมถึงให้โทรศัพท์บังแจ็คไปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ การที่คุณแม่มาเป็นพยาน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเนื่องจากต้นทางของ Facebook มันอยู่ในเบอร์มือถือของแตงโม และการที่จะพิสูจน์ทราบได้ก็ต้องมาจากมือถือ 

ซึ่งตอนนั้นคุณแม่บอกอยู่เสมอว่า มือถืออยู่ที่คุณแม่ บางครั้งก็บอกว่าอยู่กับทนายเดชาบ้าง พร้อมก็บอกว่าเก็บไว้อย่างดีใส่ห่อไว้เรียบร้อย ซึ่งในทางกลับกันคุณแม่ต้องมาให้การ เมื่อมีคำให้การของคุณแม่หรือจากที่คุณแม่บอกว่าจะมวลชนไปว่าได้ส่งโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ไปให้บังแจ็ค นั่นก็คือประเด็นหนึ่งที่จะต้องสอบถามว่าส่งไปด้วยเหตุผลใดและการโพสต์ใครเป็นคนโพสต์ 

ถ้าว่ามีความผิดไหม ในคดีของกระติก เนื่องจากเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และก็มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ประกอบ ดังนั้นเราจะต้องออกหมายจับ ซึ่งถ้าบังแจ็คไม่มามันก็เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนคุณแม่ก็จะมาสอบเป็นพยานในคดี ทนายเดชารู้อยู่แล้วเพราะมันเป็นขั้นตอนของกฎหมาย มันไม่ได้แปลกอะไรเลย 

 

"การตรวจพิสูจน์ ผมยังงงอยู่ว่าบังแจ็คเป็นใคร เป็นนักเทคโนโลยีหรือเป็นผู้ที่ได้ลายเส้น หรืออย่างไรถึงให้มือถือเขาไปตรวจ อันนี้ก็ยังงงอยู่เนื่องจากในเมืองไทย ผมเชื่อว่าตำรวจไทยไม่น้อยหน้าใคร สามารถพิสูจน์ทราบได้อยู่แล้ว ในรายละเอียดในสิ่งที่อยู่ในมือถือทั้งหมด ผมเชื่อว่าสามารถ ดูดออกมาได้หมด

แล้วก็มีเหตุผลมีภาพถ่ายต่างๆที่ เขาอ้าง ถ้ามันมีจริงก็ส่งมาสิครับผมพูดหลายครั้งแล้ว ก็ให้ส่งมาให้มันประกอบคดี ส่วนตัวผมมีหน้าที่ทางด้านไซเบอร์ ก็คือเรื่องของการโพสต์หมิ่นประมาทที่เกิดขึ้น และทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ สงสัย และพยายามชี้นำให้เป็นเรื่องนู้นเรื่องนี้ ผมจะได้รู้ว่าบังจะโพสต์ทำไม โพสต์แล้วมีความผิดนะครับ อันที่จริงบังแจ็คถูกห้ามเข้าจนถึงปี 69 เลยนะ" ผบช.ไซเบอร์ อธิบาย