- 24 ก.พ. 2567
หนังคนละม้วน? เจ้าของ รพ.ศัลย์ชื่อดังโต้ตอบ "ต้อม รชนีกร" งัดหลักฐานโชว์ หลังโดนแฉ ลั่น นักแสดงรุ่นใหญ่ทำตัวเองทั้งนั้น
หลังจากที่ "ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี" นักแสดงรุ่นใหญ่ ออกมาฟาดยับถึง โรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดัง ซึ่งเธอบอกว่า ไม่ทำตามสัญญา ปลูกผม ผมก็ไม่ขึ้น เจ็บตัวฟรี แถมยังทำภาพลักษณ์ที่สร้างมา 30 กว่าปีเสีย
จากนั้นไม่นาน "ปิ่น เลอลักษณ์" เจ้าของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงด่วน ตอบโต้ "ต้อม รชนีกร" ถึงกรณีดังกล่าว พร้อมทั้งแฉกลับว่า หลังศัลย์สวยมากชอบมาก แต่ไปออกรายการร้องไห้ ทำให้องค์กรเสียชื่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ต้อม รชนีกร ฟาดยับ รพ.เสริมความงามชื่อดัง แฉทำเจ็บตัวฟรี - ภาพลักษณ์ป่นปี้
โดย ปิ่น พิศพรรณ ศรีไชยยันต์ เจ้าของโรงพยาบาลเลอลักษณ์โชว์หลักฐานสัญญา ยืนยันว่ามีสัญญาเหมือนกันทั้ง 2 ฉบับ หากไม่เหมือนกันก็ให้เอาสัญญามาให้ตนดูได้เลย ย้ำชัดเป็นสัญญารีวิว ไม่ใช่สัญญาพรีเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังเผยรู้สึกเหนื่อย เพราะต้อมไม่ยอมจบ พาดพิงรพ.จนได้รับความเสื่อมเสีย
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกในมุมของตนว่า ไม่อยากเป็นคนต่อสู้กับใคร แต่เขาไม่จบเลย รู้สึกว่าเขาไม่จบ แล้วประเด็นมันเริ่มโพรเทคตัวเอง แต่ยิ่งทำให้เราเสียชื่อไปอีก อย่างประเด็นแรกที่เขาบอกว่าสัญญาไม่ตรงกันกับของเรา ซึ่งสัญญาทุกอย่าง มาตรฐานของเรา เราเปิดมาขนาดนี้แล้ว 20 กว่าปีแล้ว
"สัญญาเราเป็นคู่ฉบับ คุณต้อมเซ็นทุกหน้า เราเซ็นทุกหน้า ก่อนเซ็นก็ต้องอ่าน ฉะนั้นคู่ฉบับต้องตรงกันค่ะ ถ้าบอกว่าไม่ตรง ช่วยเอามาให้เราหน่อยว่าอันไหนไม่ตรงคะ เพราะคนอื่นๆ เขาจะมองว่ารพ.เลอลักษณ์ หลอกลวงประชาชนหรือเปล่า คือประเด็นนี้ สัญญาไม่มีคำว่าไม่ตรงนะคะ
แล้วเรื่องความเป็นพรีเซ็นเตอร์ เขาบอกว่าเป็นสัญญาพรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่สัญญารีวิว แต่อยากบอกว่าเอกสารมันเห็นชัดค่ะ ยืนยันได้ด้วยเอกสารจะแคปชั่นโชว์ก็ได้นะคะว่าเป็นสัญญารีวิวชัดเจน แต่เมื่อคุณสวยลงตัวแล้ว ก็จะเป็นตัวแทนให้เราโปรโมต ซึ่งทั่วไปจะเป็นแบบนี้ ว่าสัญญารวมแล้วกี่ปี มันไม่ใช่สัญญาหลักพรีเซ็นเตอร์ เป็นสัญญารีวิว
แล้วหัวข้อสัญญา ถ้ากลับไปอ่าน จะเขียนชัดเจนว่าสัญญาตามสเต็ปของรพ.เลย มีก่อนทำ หลังทำ ซึ่งหลังทำทันที มันคือเงื่อนไขอยู่แล้ว ซึ่งหัวข้อนั้นก็คัฟเวอร์อยู่นะคะ นี่คือเรื่องพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเขาอ้างว่าเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เขาไม่ได้รีวิว แต่หัวข้อที่เซ็นคือสัญญารีวิวชัดเจน
แล้วบอกว่าคุยกับเราแล้วว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์เราต้องจ่ายตังค์เขา ของรพ.เลอลักษณ์เราทำมานาน เรื่องดารามาทำศัลยกรรมแล้วรีวิว ปกติเราจะทำให้อย่างดีที่สุด เต็มที่ที่สุด แต่จะไม่เคยมีค่าตอบแทนใดๆ อยู่แล้วหลักการของรพ.เลอลักษณ์ชัดเจนนะคะ
ฉะนั้นการที่เขาบอกว่าเคยคุยกับเราแล้ว เรื่องเราต้องให้ค่าตอบแทนเขา บอกเลยว่าไม่มีการคุยเลย มีแต่เขาอยากทำกับเรา เพราะรู้ว่าผลงานคุณหมอรพ.เลอลักษณ์ผลงานดี เขาอยากทำกับเราจริงๆ ไม่เคยมีเงื่อนไขของการคุยกับเราแล้วว่าเราไปจ่ายตังค์ให้เขา เราไปขอร้องเขาว่าอย่าให้เสียตังค์เลย ไม่มีประเด็นนี้เลยค่ะ"
"ปิ่น เลอลักษณ์" เล่าอีกว่า เคยโทร.หาครั้งสุดท้ายตอนออกรายการคุยแซ่บโชว์แล้วร้องไห้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นบอก สวยมากชอบมาก สาเหตุที่ออกมาชี้แจงเพราะรู้สึกว่ามันไม่จบ แล้วเหตุผลเริ่มออกห่างจากความเป็นจริงมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้เราเสียชื่อ ก็เลยมาชี้แจง
"เราเคยโทร.หาเขาค่ะ ตอนเขาออกรายการคุยแซ่บโชว์แล้วไปร้องไห้ ซึ่งเขาก็ยังมารีวิวกับเรา ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วบอกสวยมาก หนูชอบมาก ทุกอย่างดีมาก แล้วไปร้องไห้ เราก็เลยโทร.ไปหา ติดต่อครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย แฟนเขาเป็นคนรับ นั่นแหละเขาพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราโทร.ไปหาถามว่าทำไมทำแบบนี้ล่ะค่ะ
เราก็ยังรักกัน ยังดีๆ กันอยู่ เขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็คุยกับเขาดีๆ ว่าไปออกข่าวแบบนี้เราเสียชื่อนะคะ นั่นคือครั้งสุดท้าย เขาบอกว่าเขาเสียหายจากการไม่ได้งานรีวิว
เราก็บอกว่ารพ.จะเสียหายหนักกว่านั้น เขาบอกเขาเสียหายไป 2 งาน แต่ไม่ได้เป็นการขอยกเลิกสัญญานะคะ เป็นการขอเลื่อนเฉยๆ เขาไม่ได้โดนยกเลิก นั่นคือครั้งสุดท้ายที่พยายามคุยแล้ว แล้วจะให้เราทำยังไงกับเขาอีกคะ"
"ปิ่น เลอลักษณ์" พูดต่อไปอีกว่า เขาต้องการคำขอโทษจริงหรือเปล่า คำขอโทษกับเรา คำขอโทษเคยบอกเสมอว่ามันไม่ได้ยากหรอก แต่เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะเริ่มขอโทษเขาตรงไหน ยังไง เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดหลักเกณฑ์ หลักการใดๆ เลย
ส่วนของคลิป "ปิ่น เลอลักษณ์" บอกว่า ลบไปแล้วหนึ่งคลิป เราบอกน้องๆ ให้คลิปที่อยู่ในห้องผ่าตัดที่เสร็จทันที เรายังบอกกับการตลาดว่าให้ลบคลิปนี้ออกนะ ให้รีบลบเลย อะไรที่เราไม่เห็นด้วย มันไม่สวย ก็ให้ลบ แล้วคลิปนั้นก็ไม่ได้มีคนดูอะไรเยอะ ส่วนคลิปที่ปรากฏอยู่บนติ๊กต็อกเราด้วยซ้ำไป อันนั้นก็เป็นคลิปที่ขึ้นห้องพักแล้ว ซึ่งหลังการทำทันที ปกติการรีวิวจะเกิดขึ้นอย่างนี้เป็นธรรมดา
"ถามว่ามีการแจ้งก่อนไหมจะนำภาพไปเผยแพร่ มันจบที่สัญญาค่ะ สัญญาหัวข้อที่ 2 ระบุชัดเจน (อ่านสัญญาที่ระบุว่า ตั้งแต่วันทำสัญญา ผู้ให้สัญญา (ต้อม) ยินดีให้ผู้รับสัญญา (รพ.เลอลักษณ์) บันทึกวิดีโอ ภาพนิ่ง ข้อความ เสียง ไลฟ์สดทั้งก่อนทำและหลังทำ ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ เพื่อใช้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานหัตการผลงานของผู้ให้สัญญา
เพื่อสื่อถึงการให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยการให้บริการที่ดี และมาตรฐานต่างๆ ด้านความปลอดภัย โดยผ่านสื่อต่างๆ เช่น เฟซบุ๊กของรพ. การไลฟ์สด อินสตาแกรม และกลุ่มปิดของกิจกรรมต่างๆ รวมถึงรายการโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายโฆษณา วิทยุกระจายเสียง
หนังสือและสื่ออื่นตามที่ผู้ให้สัญญาเห็นสมควร รวมถึงสื่อต่างๆ ตามที่ผู้รับสัญญาเห็นสมควร รวมถึงสื่อต่างๆ ที่ผู้ให้สัญญาบันทึกไว้เลย ในสื่อมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และติ๊กต๊อก ค่อนข้างครอบคลุมเรื่องสัญญาทั้งหมด) ข้อความที่สำคัญคือเขาจะยินยอมตามที่ผู้รับสัญญาเห็นสมควร ผู้รับสัญญาคือรพ.เลอลักษณ์ ดังนั้นหัวข้อนี้มันจบแล้วค่ะ ตรงที่ว่าตามแต่เวลาที่เราต้องการ คือตามขั้นตอนค่ะ
ซึ่งประมาณชม.สองชม. หลังทางเขามีฟีดแบ็กมาว่าอยากให้ลบคลิปนี้ เราก็เห็นสมควรว่ามันไม่ควรอยู่ในสื่อ เราก็ลบไปเลย เราก็บอกผู้จัดการเขาเรียบร้อย ว่าเราเห็นด้วย เราลบอันนี้ให้ ส่วนอันอื่นที่เห็นอยู่บนวอร์ด มันจะได้เห็นหลังการทำ ขึ้นวอร์ดแล้ว ไม่ได้ดูอะไรเลย ปกติเลยค่ะ เป็นการลงรีวิวกับคนไข้ทุกเคสแบบนี้อยู่แล้ว เราเลยไม่เข้าใจ
คลิปที่ออกมาเผยแพร่ในสื่อทางรพ. รูปแรกที่ลงก็ขึ้นวอร์ดแล้ว ก็เห็นว่าหลังการทำ เอาทุกอย่างออกหมดแล้ว คนไข้ท่านอื่นๆ ก็เป็นการรีวิวจะได้เห็นว่าหลังทำแล้วเป็นอย่างนี้ ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยนะคะ จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงคืออะไร หลักการรีวิวเป็นแบบนี้นะคะ"
"ปิ่น เลอลักษณ์" เล่าอีกว่า ตอนเซ็นสัญญา เราเป็นคนเซ็น เพราะเอกสารมาจากรพ. เราก็ให้เขาอ่าน แต่จำไม่ได้ว่าเซ็นต่อหน้ากันหรือเปล่า แต่เขาอ่าน อันนี้ก็พูดไปตามตรง เพราะงานเราไม่มีเวลาจริงๆ แต่สำคัญที่สุดก่อนเซ็นเขาต้องอ่าน แล้วเขาก็เซ็นทุกหน้า มีผู้จัดการของเขาด้วย
"ถ้าเขาบอกว่าสัญญาของเขาไม่เหมือน ก็ขอสัญญาที่ไม่เหมือนมาแสดงกับเราหน่อยค่ะ หัวข้อก็เขียนชัดเจน วันที่ 29 มิ.ย. 66 สัญญาการสนับสนุนการเป็นรีวิวประชาสัมพันธ์ด้านศัลยกรรมรพ.เลอลักษณ์ หัวข้อใหญ่ที่สุดอยู่ตรงนี้ ไม่มีคำว่าพรีเซ็นเตอร์ แต่หลักการอินฟลูฯ หรือดาราเข้ามาทำศัลยกรรมกับเรา หลังจากสวยแล้วเขาก็จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เราตามระยะเวลาอยู่แล้ว"
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกอีกว่า ที่ออกมาโต้ เพราะหลายครั้งแล้ว ไม่จบสักทีนึง แล้วเริ่มหาเหตุผลให้กับตัวเขาเอง แล้วทำให้รพ.เราเสียชื่อ เช่นสัญญาไม่ตรงกัน แล้วเรื่องที่บอกว่าไม่ใช่สัญญารีวิวนะ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมันไม่ใช่ แล้วก็เรื่องค่าใช้จ่ายที่เราไปขอร้องเขาว่าอย่าคิดเขาเลย ซึ่งมันไม่เคยคุยเรื่องนี้เลย แล้วอยู่ดี เขามาพูดประเด็นอะไร ก็เลยจำเป็นต้องชี้แจง
"ถามว่าได้ติดต่อเขาไหม ไม่รู้จะติดต่อเขาไปเพื่ออะไร เราไม่ใช่คนแข็ง จะบอกว่ายืนแข็งอยู่อย่างนี้ แต่ถึงตรงนี้เขาก็ออกมาชี้แจงตามสื่อต่างๆ มาหลายรอบแล้วนะคะ ก็รู้สึกว่าอยากชี้แจงบ้าง ที่สำคัญเราขอพูดตรงนี้ว่ามันไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และดูแลกันอย่างดี ในวอร์ดก็ดูแล จะนอนกี่คืน อยากทานอะไร เราพิเศษให้หมดนะคะ ดูแลอย่างแฮปปี้ที่สุด ยังจะไปเที่ยวด้วยกัน ไปทานข้าวก็ไปทานด้วยกันมา
ไม่เข้าใจเลยว่าประเด็นที่เขาไปออกคุยแซ่บโชว์ไปร้องไห้ อยู่ดีๆ ก็ไปออก ทั้งที่อยู่กับเราก็บอกว่าชอบผลงาน เขาชมตลอด รวมทั้งแฟนเขาก็บอกว่าหาแผลไม่เจอเลย งานสวยมาก ความช้ำอยู่ไหนแล้วตัดกรามไปรอบนึงแล้ว ตัดกรามไปแล้ว 4 เดือนก็มาดึงหน้า
ก็รอเขาจนเขาบอกว่าพร้อมตอนถ่ายหนังมนต์รักลูกทุ่งจบ ตอนนั้นหน้าเขายังไม่ได้ทำนะคะ เขาบอกเขาสวยอยู่แล้ว เขาเสียใจกับแฟนคลับเขา 30 ปี เขาไม่เห็นความสวยเขาอีกแล้ว ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับหน้าเขา ทำนองนั้น ก็เลยมองว่าเขาสวยแล้วนะ"
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกอีกว่า เขาเสียชื่อ เธอมองว่าไม่ใช่ความสวย เขาเสียชื่อเพราะตัวเองหรือเปล่า ถ้าพูดตรงๆ ความสวยมันประจักษ์ มันเห็นชัดอยู่แล้วว่าเขาสวยขึ้นจริงๆ แต่เรามองว่าความเสียชื่อของเขา เกิดจากความศรัทธาของคนต่างหาก คนเราจะสวยไม่สวย จะดีมีจนยังไง หัวใจสำคัญ นิสัยคนเราไม่ต้องดาราหรอก ทำไมแบบนึงคนคบ ทำไมอีกแบบคนไม่คบ ฉะนั้นเขาเป็นคนที่มีคนชื่นชมอยู่แล้ว
"ปิ่น เลอลักษณ์" ตอบปมเรื่องผมว่า ทำผมแล้วผมไม่ขึ้น เป็นแผล การผ่าตัดดึงหน้า เขาเคยดึงหน้ามาแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งเรา เราเห็นตอนหลังที่แผลมีรอยเย็บมาแล้ว แต่ปกติเราไม่มีแผลหน้าหูเลย จะเป็นที่เดียวที่ทำซ่อนแผลในรูหู คุณหมอสุดยอดจริงๆ แต่พอเห็นมีแผลขอบหู แต่แผลเนียนมาก ก็กลายเป็นว่ารู้แล้วว่าเขาเคยดึงหน้ามาแล้วแต่ส่วนที่เป็นบริเวณคิ้วของเขา
ตรงที่ต้องดึงขึ้นไปตรงขมับ คุณหมอเลี่ยงวิธีการตัดรากผมอยู่แล้ว เลี่ยงวิธีการทำให้ผมไม่ขึ้นอยู่แล้ว การผ่าตัดก็ระวังเรื่องนี้ ไม่รบกวนการเสียหายของเส้นผมรากผมเลย รวมทั้งเรื่องใช้วิธีแม็กซ์ในการเย็บเพื่อป้องกันไม่ให้โดนรากผม เป็นวิธีที่ทันสมัยที่สุด
"แต่อย่าลืมว่ารากผมเส้นผม แพทย์จะรู้ว่าต้อง 3 เดือนไปแล้ว สำหรับแผลความกว้างขึ้นมานิดนึงเป็นเรื่องปกติ บางแห่งแผลดึงคิ้วมาอยู่หน้าผากด้วยซ้ำ ของเราซ่อนไปหมด ถ้าสังเกตดีๆ จะไม่เห็นแผลเขาเลยนะคะ เราใช้เทคนิคที่ดีที่สุดแล้ว แล้วก็แก้ไขได้คือทำให้แผลมันชิดขึ้น รากผมชิดขึ้น แต่มันเรียบร้อย การปลูกผมช่วยได้ ไม่ได้ซีเรียส มันนิดเดียว ไม่ได้เยอะอะไร" อธิบาย
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกอีกว่า อยากให้เขาเป็นที่รักของคนอื่นๆ ประชาชนที่ศรัทธาและปลื้มเขา เราอยากให้เขาเป็นที่รักโดยไม่ทำแบบนี้ ยิ่งทำอะไรไปก็มองว่าแรงศรัทธาจะยิ่งน้อยลง ด้วยความรักนะคะ แล้วอยากบอกน้องว่า เราเป็นนักให้อภัยนะคะ ถามใครก็ได้ เราให้อภัยคนเสมอ จะยังไงเราก็ให้อภัยหมด ไม่เคยคิดร้ายหรือทำให้เขาเสียชื่อใดๆ
"อีกประเด็นเขาพูดขึ้นมาว่าเหมือนเราจุดประกายคำพูดบางอย่างทำให้คนแห่มาว่าเขา บอกเลยค่ะไม่เคยจุดประกายเลย มีเขาเป็นผู้เริ่มต้นมาโดยตลอดเลย ในการออกคลิปสัมภาษณ์แต่ละครั้ง เราไม่เคยเริ่มต้นก่อนเลยค่ะ ฉะนั้นก็อยากให้เขาคิดได้ค่ะ เราให้อภัยเขาดีกว่า ให้อภัยคนที่คิดยังไม่ได้ถือว่าเป็นบุญนะคะ เขาควรคิดได้นะคะ ถ้าเขาคิดได้มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้เลย"
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกอีกว่า ขอให้เป็นเรื่องการให้อภัยก่อน อยากให้เขาจบ เราเองก็เหนื่อย แล้วเป็นคนที่ไม่ชอบมีปัญหากับใครเลย พยายามคิดบวกเสมอ ช่างมันเถอะ แต่เขาเป็นแบบนี้ มันทำให้เราเริ่มเสียหายขึ้นเรื่อยๆ สัญญาไม่ตรงบ้างอะไรบ้าง
"ปิ่น เลอลักษณ์" บอกต่อไปว่า ยินดีหันหน้ามาเคลียร์กัน ถ้าเขาจะมาเคลียร์ใจกัน ว่าทำให้เขาสะเทือนใจอะไรไป เรายินดี แต่อยากบอกว่าปัจจุบันน้องสวยแล้ว น่าจะมีความสุข ถ้าเราทำแล้วสวยแบบนี้จะดีใจมากเลย รู้มาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ เพราะต้อมเคยบอกสึนามิเงียบๆ ภายใน 1 นาทีก็หายนะ
"ตอนนี้เหนื่อยแล้วค่ะ บางครั้งไม่ใช่ไม่เครียดนะคะ เราชี้แจงได้แต่เครียด รู้มาก่อนหน้านี้ด้วยว่าจะเกิดสึนามิกับเรา เขาพูดมาแล้วจะเกิดสึนามิกับรพ. เขาเงียบหายไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆ นะ เขาบอกรู้จักสึนามิไหม สึนามิเงียบๆ ไป ภายใน 1 นาทีก็หายนะเลย คำนี้รู้เลยว่าเราไม่ได้มีประเด็นอะไรที่เราผิดเลย แต่เราก็ไม่สบายใจ ว่าอะไรอีก แล้วก็มารอบนี้แหละค่ะ"
ก่อน "ปิ่น เลอลักษณ์" จะทิ้งท้ายว่า เขาไปออกรายการและให้สัมภาษณ์เ ในแง่ดีก็มี คนก็เห็นได้ว่าผลงานออกมาดีจริงๆ รพ.ไม่เคยเสียชื่ออะไรคนเข้าใจก็มีเยอะ แต่ที่ออกมชี้แจง เพราะบอกสัญญาไม่ตรง มันกลายเป็นโพรเทคเขาแล้ว มันเสียหาย มีส่วนที่เสียหายในสองสามประเด็นอย่างที่บอก
"ก็เลยอยากชี้แจง เราก็เข็ดเหมือนกันนะ จากใจ ถ้าเขากลัวเรา ที่เขาบอกไม่กล้ามาแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะกลัวอะไร ถามเราบ้างไหมเจอแบบนี้กลัวไหม หนาวๆ นะคะ ขาดความมั่นใจในตัวเองไปเหมือนกัน ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แค่เขาอยากทานทุเรียน เราก็ส่งไปให้ที่บ้านเขา ที่ไกลๆ มากเลยนะคะ"