- 26 ก.ค. 2567
นางเอกสาว "ณิชา ณัฏฐณิชา" พูดแล้ว หลังแฟนหนุ่ม "โตโน่ ภาคิน" สัมภาษณ์ยังไม่พร้อมแต่งงานมีลูก ถ้าประเทศยังมีฝุ่น PM 2.5
จากกรณีที่นักร้องนักแสดงดัง โตโน่ ภาคิน ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ยังไม่คิดจะแต่งงานมีลูกสร้างครอบครัวกับหวานใจ นางเอกสาว ณิชา ณัฏฐณิชา หากประเทศไทยยังมีปัญหามลภาวะ PM 2.5 และปัญหาขยะ เพราะรู้สึกสงสารลูกถ้าต้องเกิดมาเจอโลกร้อนๆ และสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำเอาเกิดดราม่าแฟนคลับพากันห่วงฝ่ายหญิง
ล่าสุดทางด้าน ณิชา ณัฏฐณิชา ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า เอาจริงๆ สำหรับเรามันไม่ได้มีอะไรเลย คือไม่ได้คิดมากอะไรเลย แล้วอย่างที่เคยบอกทุกๆคน ว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นจริงจัง เพราะเราไม่พร้อมกับเรื่องนี้ เรายังอยากทำงาน เอ็นจอยชีวิตส่วนตัว ชีวิตคู่ที่มันจะต้องไปอีกสเต็ปอาจจะยังไม่ได้มีภาพตรงนั้นที่คิดเอาไว้ หรือว่าคุยกันอย่างจริงจังเลย สิ่งที่คุยกันคือปัจจุบันครอบครัวเราแฮปปี้มาก เราพอดีกับแค่นี้ก็โอเคแล้ว
สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงก็เข้าใจทุกคอมเมนต์เลยค่ะ เข้าใจได้ว่าแต่ละคนพอฟังไปแล้ว เขาก็จะมีความเห็นหรือความคิดที่มันแตกต่างกันออกไป ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เลยไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับชีวิตเท่าไหร่ ก็เคารพทุกความเห็น คือหนูเข้าใจว่าแต่ละคนเจอเรื่องต่างๆ ในชีวิตมาไม่เหมือนกัน ความคิดมุมมองต่างๆ ในการใช้ชีวิตก็อาจจะไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจที่เขาอาจจะมองคนละมุมกับเรา แต่ก็ไม่ได้ไปตัดสินใคร เพราะเราไม่รู้จักคนที่มาคอนเมนต์ เลยไม่ได้เอามาใส่ใจ เอามาเครียดหรือกังวล
คือเอาจริงๆ ตอนพี่โน่สัมภาษณ์เขาก็ดูพูดเล่นนะ แล้วหนูว่าที่พี่เขาพูด ไม่ได้หมายถึงว่าฝุ่นไม่หมดไม่แต่งด้วย เขาบอกกว่าเรื่องแต่งเรายังไม่ได้คิด อยากเอ็นจอยชีวิตตอนนี้ พาครอบครัวไปเที่ยวกัน แล้วณิชาก็ยังไม่พร้อม แต่ถ้าเรื่องมีลูก มันอาจจะทำให้ดูกำกวม เรื่องมีลูกหนูเคยคุยกันจริงๆ คนอื่นอาจจะพร้อมที่จะมีลูกในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขา ความแฮปปี้ของเขา แต่ส่วนตัวหนูเองก็รู้สึกว่ามันยาก คือมันไม่ใช่แค่มีลูกแล้วจบไป อาจจะเพราะปัจจุบันนี้หนูยังไม่พร้อมเองด้วย ปัจจัยนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่เคยคุยกัน ว่าถ้าโลกมันร้อนแบบนี้ แล้วมีลูกมาอยู่ในโลกร้อนๆ ก็สงสารลูกเนอะ แต่มันไม่เป็นเรื่องที่คุยกันซีเรียส ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ว่าหนูแฮปปี้ดี
หนูไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้มันต้องเกิดขึ้นตอนนี้ เป็นแบบนี้ๆ หนูมองว่าเราใช้ชีวิตในแบบที่เราพอใจ คนอื่นๆ เขาอาจจะมีแบบที่เขาพอใจ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราแฮปปี้แบบนี้ เรายังไม่พร้อม บางคนคิดว่าแล้วเมื่อไหร่จะได้แต่ง ถ้าเอาเหตุผลนี้ ก็เข้าใจได้ แต่หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหนูก็ยังไม่ได้พร้อมค่ะ ไม่ได้คิดจริงๆ คือตอนแรกหนูไม่รู้เรื่องเลย จนเพื่อนมาบอกว่ามีข่าวนี้ ก็เข้าไปดูแล้วก็อ๋อ ก็เข้าใจได้ค่ะ เป็นเรื่องปกติมากๆ เลย ที่เวลามีข่าวไป เราพูดในมุมของเรา คนเขาก็พูดในมุมของเขา ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา
ไม่ซีเรียสกับดราม่านี้ เพราะโฟกัสงาน เอาจริงๆ ไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ เพิ่งคุยเมื่อคืนนี้ว่าพี่โน่ เดี๋ยวต้องสัมภาษณ์เรื่องนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสทั้งคู่ เราใช้ชีวิตและทำงานกันอย่างหนักมากๆ อาจจะไม่ได้เข้าไปดูโซเชียลเท่าไหร่ ตอนนี้พี่โน่เขาก็ฝึกร่างกายอยู่ต่างจังหวัดด้วย ต่างคนต่างโฟกัสงาน ไม่ได้มาดูโทรศัพท์บ่อยๆ
เราพูดเล่นกัน หนูเป็นคนพูดว่าหนูไม่พร้อม เพราะร่างกายเรา ถ้าลูกจะออกมา ก็มาจากเรา เราก็เลยพูดเองว่าเราไม่ได้พร้อม มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องนี้ด้วย หนูยังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง เหตุผลนี้มันแค่หนึ่งเหตุผลเล็กๆ ในอีกหลายๆอย่าง ไม่ได้อ้าง แต่ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม หนูเข้าใจถ้าคนอื่นจะคิดว่าจะได้แต่งไหม ไม่เป็นไร ไม่ได้ซีเรียส
ถามว่าตอนนั้นคุยอะไรกัน ถึงคุยเรื่องนี้ เหมือนเราดูหนังหรืออะไรสักอย่าง ที่อาจจะพูดเรื่องธรรมชาติ เลยมีประโยคนี้ขึ้นมา คือหนูจินตนาการว่าถ้าหนูไปถ่ายละครทุกวันนี้ ร้อนมากๆ เลย ถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ หนูไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าเราจะดูแลเขาได้ไหม หนูนับถือมากเลย พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาได้ มันแค่ตัวหนูเองที่ไม่ได้รู้สึกพร้อม แล้วก็ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น เอาจริงๆ มันคือความคิด ณ ปัจจุบันนี้เลย แต่คนเรามันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ วันนี้หนูรู้สึกแบบนี้ วันหน้าอาจจะพร้อมขึ้นมาใครจะไปรู้
หนูก็เข้าใจ ทุกคนมีสิ่งต่างๆ มาไม่เหมือนกัน มุมมองเลยแตกต่างกัน มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความเห็นตรงกันทั้งหมด แล้วถามว่าเมื่อไหร่จะพร้อม คือแผนที่วางไว้ตอนนี้ เดี๋ยวจะพาครอบครัวไปเที่ยวค่ะ แค่นี้เลย คู่อื่นอาจจะมีแบบแผนในการใช้ชีวิต แต่สำหรับหนูถนัดอิมโพรไวส์ วันนี้แฮปปี้แบบนี้ ไม่ได้กดดันตัวเองหรือใคร ชีวิตของแต่ละคนพร้อมไม่เท่ากัน ถามว่าคิดไหมว่าอายุเท่าไหร่ ก็ไม่ได้คิดเลย