สาวโดนกล่าวหาเป็นมือที่ 3 ตอบ "หนุ่ม กรรชัย" หลังถาม "รักชอบสารวัตรจริงไหม"

"ตำรวจนอกใจภรรยา" หลังจากที่ บีม ภรรยาของนายตำรวจระดับสารวัตร ร้องไปยังเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ return part 6 แฉว่าสามีนอกใจโดยหญิงมือที่สาม เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าสบู่ดังใน tiktok ซึ่งเธอบอกกับทางเพจมีหลักฐานเป็นคลิปภาพและเสียงที่สามีไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับหญิงมือที่สาม ตอนนี้เมียกลับต้องเป็นฝ่ายกลัวว่าจะถูกฟ้องกลับ เพราะเชื่อว่า หญิงมือที่สามมีเจ้าหน้าที่เป็นแบ็ก ถึงขั้นที่เมียหลวงเคยคิดสั้นเพราะหมดหนทาง

 

จุดเริ่มต้น บีมเมียตำรวจ เล่าว่า ตนเองเป็นแม่หม้ายลูก 1 สามีเก่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจนลูกอายุได้ประมาณ 9 ขวบ กระทั่งเมื่อปี 2562 ได้รู้จักกับ นายเอ ตำรวจหนุ่มรายนี้ ผ่านทางแอปหาคู่ โดยเขาเข้ามาจีบ บอกว่า ตัวเองเป็นพ่อหม้ายลูก 2 และชีวิตครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ ต้องการลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวใหม่ ตำรวจหนุ่มตามจีบ อยู่เดือนกว่าๆ ก่อนตัดสินใจคบหากัน เพราะรู้สึกคลิก เข้าอก เข้าใจกันดี

 

 

หลังคบกันได้ 2 ปี ตนจับได้ว่า ตำรวจหนุ่มไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงทางภาคใต้ เป็นเจ้าแม่ปล่อยเงินกู้ ชื่อ "ซูกัส" ซึ่งตนไปเจอแชทไลน์ว่าเขาส่งหัวใจหากัน ตนเค้นถามจน สามี ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า แอบไปคบหากับผู้หญิงคนนี้จริง แต่คบเพื่อผลประโยชน์ เพราะไปเอาเงินเขามา 7-8 แสนบาท ทำให้เลิกไม่ได้ ขอคบไว้อีกคน 

 

บีม จึงบอกให้ สามี จดทะเบียนสมรสกับตน โดยทำข้อตกลงว่า ยินยอมให้มีผู้หญิงอีกคน แต่ห้ามมีลูกหรือมีพันธะผูกพันใดๆ หลังจากนั้น ตนและสามีก็ใช้ชีวิตร่วมกันปกติเป็นคู่ผัวตัวเมีย ฝ่ายสามีก็ยังไปมาหาสู่กับเจ้าแม่เงินกู้รายนี้เหมือนเดิม

 

ทว่า นายเอ สารวัตรหนุ่ม โต้แย้งว่า ไม่จริง ตนกับซูกัสเป็นแฟนกันมาก่อนที่จะมาเจอเขา แต่บีมมาระรานจนครอบครัวของตนพัง หลังจากเลิกรากับซูกัสก็พูดคุยเป็นเพื่อนกันมา แต่บีมมาข่มขู่ ระรานชีวิตตนสารพัด ตนผิดพลาดเองที่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับบีม แต่ความเป็นจริง ตนไม่ได้รัก ไม่เคยใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยากับบีมเลย มีแค่ทะเบียนสมรสที่ค้ำคออยู่

 

ทว่า นายเอ สารวัตรหนุ่ม โต้แย้งว่า ไม่จริง ตนกับซูกัสเป็นแฟนกันมาก่อนที่จะมาเจอเขา แต่บีมมาระรานจนครอบครัวของตนพัง หลังจากเลิกรากับซูกัสก็พูดคุยเป็นเพื่อนกันมา แต่บีมมาข่มขู่ ระรานชีวิตตนสารพัด ตนผิดพลาดเองที่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับบีม แต่ความเป็นจริง ตนไม่ได้รัก ไม่เคยใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยากับบีมเลย มีแค่ทะเบียนสมรสที่ค้ำคออยู่

 

ขณะที่ บีม ยืนยันว่า ใช้ชีวิตคู่กันเหมือนสามีภรรยาคู่อื่น แต่ชีวิตมาเปลี่ยน สามีเริ่มไม่กลับบ้าน เริ่มติดต่อยาก จนตนจับได้อีกว่า สามีไปยุ่งเกี่ยวกับสาวอีกราย ที่จับได้เพราะตนเข้าไปเล่น TikTok และไปเจอช่องหนึ่งกำลังไลฟ์สดขายสบู่และลงคลิปขายสบู่ ขายของออนไลน์ ตนตกใจมาก เพราะสารวัตรในคลิป คือสามีตนเอง ใส่เครื่องแบบเต็มยศ present ตัวเองต่างๆ นานา ว่า เป็นตำรวจ ยศพันตำรวจตรี สินค้าของเรามีทั้งสบู่อาหารเสริมมั่นใจเลยว่าเป็นของดีการันตีด้วยตัวเอง

 

พอตนเห็นแบบนั้นก็ยิ่งเข้าไปส่องให้ลึกลงไปอีกและดูคลิปต่างๆ ที่สามีมีการลงไว้ปรากฏว่ามีผู้หญิงคนนึงที่จะอยู่ในคลิปด้วยแต่ไม่เห็นหน้าเต็มๆ มาแค่เสียงบ้างมาแค่มือบ้างมีการลูบไล้ขาของสามีตนและเสียงพูดคุยหยอกล้อกันอย่างกระหนุงกระหนิง ตนมั่นใจเลยว่าเป็นเสียงของสามีและขาของสามีตนเองแน่นอน ตนดูทุกคลิปขุดจนเจอว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือเจ้าของสบู่แบรนด์ดังใน tiktok นั่นเอง

หลังจากตนเห็นคลิป เก็บหลักฐานและสืบจนมั่นใจแล้วว่า ทั้งคู่น่าจะมีสัมพันธ์กันเกินเลย ตนจึงถามสามี แต่สามีอ้างว่าเป็น content เพื่อเพิ่มยอดขายและตัวเองในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์ดังกล่าวก็ต้องไลฟ์สดช่วยกันขายของ ตนไม่เชื่อจึงพยายามติดต่อไปที่ฝ่ายหญิงเจ้าของแบรนด์

 
ทั้งนี้ ในรายการมีการถกประเด็นสำคัญ คือคลิปเจ้าปัญหา เป็นคลิปเอามือลูบขา ลูบใกล้เป้ากางเกง โดยทาง บีมภรรยาสารวัตร ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นมือของสามี ที่ไปลูบต้นขาของผู้หญิง

 

ด้าน แอน เจ้าของแบรนด์สบู่ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม ยืนยันว่า เป็นแค่คอนเทนต์ขายของ ทำให้เห็นว่า ใช้สบู่แล้วขาจะขาวแบบนี้ และขาก็เป็นขาของสารวัตร ส่วนมือเป็นมือของตน บีม เข้าใจผิด ซึ่งในรายการต้องเปิดคลิปและหยุดภาพพิสูจน์ว่าที่แขนมีไฝอยู่ ยืนยันว่าเป็นแขนของ แอน จริงๆ แต่ถึงจะเป็นมือใคร ขาใคร การกระทำมันก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี

 

ต่อมา บีมเปิดคลิปอื่นๆ ที่เป็นภาพของ แอน และ เอ นอนอยู่บนที่นอน เรียกกันว่าผัวเมีย มีคลิปที่ทั้งสองคนไปอินเดียด้วยกัน เขียนข้อความบอกว่าเป็นแฟนกัน ซึ่ง แอน โพสต์คลิปเหล่านี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา

 

เรื่องนี้ แอน พยาบยามชี้แจงว่า จ้าง เอ มาเป็นบอดี้การ์ด เพราะว่าธุรกิจของเราต้องมีคนดูแลความปลอดภัย และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กับตนเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าเขามีลูกมีเมียมีทะเบียนสมรส และเธอรักและเอ็นดูสารวัตรเอ เป็นน้องชายคนหนึ่ง เป็นเหมือนคนในครอบครัว 

ส่วนข้อความที่เขียนไปว่าเป็นแฟน เป็นผัวเป็นเมีย ยืนยันว่าตนมีแฟนเป็นตำรวจจริงๆ แต่ไม่ใช่ สารวัตรเอ แต่เอา สารวัตรเอ มาถ่ายคอนเทนต์ เพื่ออวดว่าเรามีแฟนเป็นตำรวจ ซึ่งเรามีจริงๆ แต่ไม่ได้เอาแฟนตัวเองมาถ่ายคลิปเฉยๆ

 

ขณะที่สารวัตรเอ บอกว่า บีมสร้างปัญหาให้ตนไม่เว้นแต่ละวัน ติดพนันออนไลน์ เอาเงินไปเล่นพนัน แล้วชอบไปขู่กรรโชกทรัพย์สามีตัวเองและเคยขู่หลายครั้งว่าจะเอาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ถึงขั้นออกจากราชการ ถ้าไม่ยอมให้เงิน ที่สำคัญภรรยาหลอกสามีจดทะเบียนสมรสและสามีก็มาจับได้ภายหลังอีกว่า ภรรยาก็มีการคุยกับชายอื่นในทำนองชู้สาวเหมือนกัน

 

ทางทนายแก้ว และ ทนายไพศาล นั่งฟังเรื่องราวมาจนจบ แล้วชี้ว่า ปัญหาทั้งหมดที่สองฝ่ายเล่ามา ปัญหาคือทะเบียนสมรสมันบังคับทุกอย่างไว้หมด การที่สารวัตรจะมาอ้างว่าไม่อยากจด ถูกข่มขู่อะไรต่างๆ มันอ้างไม่ได้ แล้วจะมาทำบันทึกตกลงยินยอมให้มีหญิงอื่นได้ อันนี้ตามกฎหมายมันทำไม่ได้ มันขัดต่อศีลธรรม แต่สุดท้ายมันคือการที่สองฝ่ายมีการจดทะเบียนสมรส ถ้าสารวัตรซึ่งควรต้องรู้กฎหมายอยู่แล้ว บอกว่า จับได้ว่าภรรยาแอบคุยคนอื่น หรือติดพนัน หรืออะไรต่างๆ ทำไมไม่ฟ้องหย่าตั้งแต่แรก

 

แล้วในเรื่องของ แอน ที่ไปลงคลิปลงรูป วิญญูชนดูก็รู้ว่ามันมีการสื่อให้คนทั่วไปได้เห็นว่า คนในคลิปเป็นแฟน เป็นสามี ทั้งที่เขาเป็นสามีคนอื่น จะอ้างว่าไม่รู้ว่าเขามีเมีย มีทะเบียนสมรส แต่พอรู้ว่ามี ทำไมไม่ลบ ซึ่งแอนบอกว่า เราไม่รู้ข้อกฎหมายขนาดนั้น แต่ในเมื่อในคลิปเราไม่ได้เปิดเผยหน้า ไม่ได้เปิดเผยว่าคนในคลิปเป็นใคร ก็เลยไม่ได้ลบ

 

ในเรื่องนี้ทนายชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถไปใช้สิทธิ์ฟ้องร้องกันได้ทั้งคู่ จะฟ้องหย่า ฟ้องชู้ ฟ้องหมิ่นประมาท ฟ้องได้ทั้งหมด ไปใช้สิทธิ์ตามกฎหมายกันได้ทั้งสามคน

 

หลังจากที่ สองฝ่ายถกประเด็นกันดุเดือดตลอดทั้งรายการ จนมาช่วงท้ายรายการ หนุ่ม กรรชัย ถาม แอน สาวเจ้าของแบรนด์สบู่ว่า ถามตรงๆ รักชอบสารวัตรจริงไหม ซึ่ง แอน ตอบว่า "รักเขาแบบน้องชายจริงๆ จะเรียกว่ารักมันก็พูดยาก มันเหมือนความสงสาร ความหวังดี จะเรียกว่ารักแบบบริสุทธิ์ก็ได้"