ออกแล้ว ผลเลือด "ติ๊ก ชิโร่" ฟ้องปริมาณแอลกอฮอล์ชัด

จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ติ๊ก ชิโร่ ขับรถชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย  คือ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี เสียชีวิต และ นายจักรภัทร อายุ 21 ปี ตกสะพานสูง 10 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม ล่าสุด ผลตรวจเลือด ติ๊ก ชิโร่ ออกแล้ว

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567  ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ญาติเดินทางมาติดต่อขอรับศพ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งคุณพ่อผู้เสียชีวิต อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า อาการของลูกที่บาดเจ็บ ขณะนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย และยังมีอาการไตวาย แล้ววันนี้จะมีการผ่าตัดกระดูกเชิงกราน แต่อาการดีกว่าวันแรก

พ่อยังไม่อยากให้อภัยเพราะว่าสูญเสียเยอะและตอนนี้ลูกชายคนบาดเจ็บก็ยังไม่ดีขึ้น และทางด้านผู้เป็นแม่ก็ยังทำใจไม่ได้และยังโศกเศร้าอยู่ถ้าหากเป็นใครก็คงจะทำใจไม่ได้

 

 

ในส่วนของเรื่องแอลกอฮอล์ตนได้เรียกร้องในที่เกิดเหตุแล้วพอพบเห็นอาการเมาของคนในกลุ่มที่นั่งรถมากับ ติ้กชีโร่ รวมถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ตนได้มีการเรียกขอให้ตรวจแอลกอฮอล์และทางด้านเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะให้ไปเป่าที่โรงพัก แต่ปรากฏว่าติ๊กไม่ได้มาด้วย โดยแจ้งว่ามีอาการเจ็บหน้าอกและไปโรงพยาบาล ตนจึงได้แย้งไปว่าทำไมไม่เป่าตั้งแต่อยู่ในที่เกิดเหตุ และได้ถามกับเจ้าหน้าที่ว่าทราบไหมว่าไปที่โรงพยาบาลไหนจะได้ตามไป กระทั่งมาทราบในตอนเช้า โดยขณะนี้ผลแอลกอฮอล์ยังไม่ออก ต้องรอสามวัน

 

ล่าสุดทาง "ไนน์เอ็นเตอร์เทน" เผยว่าได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว ถึงผลตรวจเลือด ติ๊ก ชิโร่ ซึ่ง ผกก.สน.คันนายาว เผยว่าผลเลือดติ๊ก ชิโร่ ออกแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผลคือ "ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์" หรือก็คือปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกำหนด โดยเกินไปพอสมควร ทว่าไม่สามารถบอกตัวเลขแน่ชัดได้เพราะมีผลกับคดี

ด้านติ๊ก ชิโร่ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งโดนแจ้ง 3 ข้อหา คือ

1.ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 
2. ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย บาดเจ็บสาหัส 
3. ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ทรัพย์สินบุคคลอื่นเสียหาย

ซึ่งนักร้องดังรับทราบทุกข้อกล่าวหา

และล่าสุด อ้อ พรรทิรา ภรรยา "ติ๊ก ชิโร่" ได้ออกมาโพสต์ภาพของสามี ขณะเข้ารักษาตัวนอนอยู่เตียงคนไข้ ผ่านเฟสบุ๊ค Nantasen Pantira ระบุข้อความว่า 

พี่เขาไม่ได้หนีไปไหน…เขาแค่ขอเข้ารักษาตัว…ไม่มีใครอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น…ต่อจากนี้ขอให้อุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็น case study สำหรับทุกๆคนนะคะ และอย่าได้ซ้ำเติมหรือโทษฝ่ายใดฝ่ายนึงเลย…มันบันทอนจิตใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขบวนการและยุติธรรมนะคะ