- 26 ส.ค. 2560
ศาลแขวงกรุงโซลกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ให้ทางด้านนายอี แจยอง รองประธานบริษัทซัมซุง
เจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางกรุงโซล ได้ทำการควบคุมตัวนายอี แจยอง เอาไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 และได้นำตัวจำเลยมาขึ้นศาลเพื่อรับฟังคำตัดสินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษเขาด้วยการจำคุก 5 ปี แต่ทว่า คำพิพากษาของศาลยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ทั้งโจทก์และจำเลยยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว กรณีศาลแขวงกรุงโซลกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ให้ทางด้านนายอี แจยอง รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ต้องโทษจำคุก เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากความผิดจริง จากข้อกล่าวหา เรื่องการติดสินบน ยักยอกเงิน และเป็นเครือข่ายคอร์รัปชั่น ที่เชื่อมโยงไปถึงทางด้านอดีตประธานาธิบดีปาร์ค กึนเฮ ของผู้นำเกาหลีใต้ ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด
เจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางกรุงโซล ได้ทำการควบคุมตัวนายอี แจยอง เอาไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 และได้นำตัวจำเลยมาขึ้นศาลเพื่อรับฟังคำตัดสินเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษเขาด้วยการจำคุก 5 ปี แต่ทว่า คำพิพากษาของศาลยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ทั้งโจทก์และจำเลยยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ขณะที่อัยการต้องการให้ศาล นั้นมีบทลงโทษทางด้าน นายอี แจยอง เป็นระยะเวลา 12 ปี ผู้ที่ในทางปฏิบัตินั้นถือว่าเขาเป็นประธานของอาณาจักรธุรกิจซัมซุง จากการเป็นบุตรชายคนโตของนายอี คุนฮี ประธานบริษัทคนปัจจุบัน ซึ่งล้มป่วยอยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่กลางปี 2557
ทางด้านพนักงานสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าทางบริษัทซัมซุง ได้ทำการบริจาคเงิน 43,300 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1,290 ล้านบาท ให้กับอดีตผู้นำของเกาหลีใต้ คือ ปาร์ค กึนเฮ ผ่านทางมูลนิธิและองค์กรของนางชเว ซุนซิล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ปาร์ค กึนเฮ เพื่อแลกรับความสนับสนุนจากภาครัฐ ในการอำนวยความสะดวกให้แก่การควบรวมกิจการของบริษัทขนาดเล็ก 2 แห่งในเครือของซัมซุง ที่ประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก เมื่อปี 2558 เพื่อเป็นการสร้างฐานอำนาจให้แก่นายอี แจยอง ในการควบคุมอำนาจบริหารทั้งหมดของอาณาจักรซัมซุงในอนาคต