- 06 ม.ค. 2563
ยังคงเป็นสถานการณ์การเมืองโลกที่ทุกฝ่ายเฝ้าจับตา ภายหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้มีการลอบโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่น 5 แห่งของกลุ่มติดอาวุธกาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ (Kataib Hezbollah - KH) ในอิรักและซีเรีย จนทำให้ พลตรี กาเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง “คัดส์” ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และ อาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส ผู้นำกองกำลังติดอาวุธในอิรัก เสียชีวิต จากปฏิบัติการดังกล่าว ตามมาด้วยการที่ อิหร่านได้ชักธงสีแดงบนยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคาราน ( Jamkaran Mosqu) เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าพร้อมเข้าสู่ภาวะสงคราม
ยังคงเป็นสถานการณ์การเมืองโลกที่ทุกฝ่ายเฝ้าจับตา ภายหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้มีการลอบโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่น 5 แห่งของกลุ่มติดอาวุธกาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ (Kata'ib Hezbollah - KH) ในอิรักและซีเรีย จนทำให้ พลตรี กาเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง “คัดส์” ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และ อาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส ผู้นำกองกำลังติดอาวุธในอิรัก เสียชีวิต จากปฏิบัติการดังกล่าว ตามมาด้วยการที่ อิหร่านได้ชักธงสีแดงบนยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคาราน ( Jamkaran Mosqu) เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าพร้อมเข้าสู่ภาวะสงคราม
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : อิหร่านชักธงแดงเหนือ ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ ประกาศพร้อมสู่ภาวะสงคราม เริ่มยิงขีปนาวุธถล่มเขตทหาร สถานทูตมะกัน)
ล่าสุด รัฐบาลอิหร่านออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุชัดเจนว่า อิหร่านได้ประกาศยกเลิกการจำกัดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ข้อจำกัดการวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 กับ มหาอำนาจ 6 ชาติแล้ว แม้ว่าจะยังคงบทบาทประสานความร่วมมือต่อเนื่องกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ก็ตาม
ขณะที่ รัฐสภาอิรักก็ได้ผ่านมติเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินการยุติการให้กองกำลังนานาชาติภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา เข้ามาประจำการในอิรักต่อไป ท่ามกลางกระแสโกรธแค้นของประชาชน ที่ยังคงร่วมกันลุกฮือประท้วงขับไล่ทหารสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาระบุว่า สหรัฐเองก็พร้อมตอบโต้อิหร่านเช่นกัน หากมีการแก้แค้น หรือ การลอบทำร้ายพลเมืองสหรัฐ รวมถึงสร้างความเสียหายใด ๆ กับหน่วยงานที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสหรัฐ
"หากเตหะรานทำการโจมตีเพื่อล้างแค้นการสังหารผู้บัญชาการทหารของอิหร่าน มาตรการตอบโต้จะเกิดขึ้นทันที รวมถึงการที่อิรักดำเนินการขับไล่กองทหารสหรัฐออกจากพื้นที่ การคว่ำบาตรครั้งใหญ่ก็จะตามมาเช่นกัน เพราะเรามีฐานทัพอากาศที่มีราคาแพงมาก และเราก็จะไม่ออกไปเสียจนกว่าจะมีการจ่ายคืนความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เรา"
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงขยับราคาขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ม.ค.) มีระดับแกว่งตัวอยู่ที่ 64.34-64.42 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 2.07-2.12% สอดรับกับมุมมองของ นักวิเคราะห์ของ “ยูเรเซีย กรุ๊ป” (Eurasia Group) บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบโลกอาจพุ่งขึ้นถึงระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากความขัดแย้งครั้งใหม่ในตะวันออกกลาง ลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอิรักหรือส่งผลกระทบกับการขนส่งน้ำมันทางเรือในอ่าวเปอร์เซีย