ผู้นำสูงสุด อิหร่าน ประกาศกร้าวเตรียมล้างแค้น สหรัฐฯ

ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนความมั่นคงของโลกเมื่อ อยาโตเลาะห์ อาลีคา เมเนอี ผู้นำสูงสุดของประเทศ อิหร่าน ประกาศบนเว็บไซต์ ว่าการแก้แค้นกำลังรออาชญากรอยู่ การต่อสู้จะยังคงดำเนินต่อไป หลังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยืนยันข่าวการจากไปของผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของ อิหร่าน คาเซมโซ เลมานี จากการโจมตีสนามบินนานาชาติแบกแดด ประเทศอิรักซึ่งเป็นคำสั่งโดยตรงจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อ้างกองทัพสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ในต่างแดนโดยการปลิดชีพ โซเลมานี และเพื่อสกัดกั้นแผนโจมตีของอิหร่านที่จะกำลังเกิดขึ้น

โซเลมานี หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม อิหร่าน และอาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดีส์ รองหัวหน้ากองกำลังของ อิรัก ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาล อิหร่าน เสียชีวิตพร้อมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายนายเช้าวันศุกร์ เวลาท้องถิ่น โซเลมานี นับเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลของอิหร่าน ประเทศได้ประกาศไว้อาลัย 3 วัน

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า โซเลมานี มีส่วนรับผิดชอบในการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและพันธมิตรนับร้อยคน และบาดเจ็บอีกนับพัน รวมถึงการโจมตีในเมืองเคอร์คุกของอิรัก เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้มีพลเรือนชาวอเมริกันเสียชีวิต ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประกาศให้ชาวอเมริกันในอิรักเดินทางออกจากประเทศทันที เพราะความตึงเครียดสูงในภูมิภาค

ด้านกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่ออิหร่าน ระบุว่า โซเลมานี ได้ทุ่มเทรับใช้ปกป้องผลประโยชน์ของอิหร่าน และมองว่าการฆาตรกรรมโซเลมานีเป็นก้าวเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค

ไฟซอล อิสราบาดีผู้เชี่ยวชาญตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยอินเดียนาของสหรัฐฯกล่าวถึงเหตุการณ์สูญเสียผู้นำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศเสียเสถียรภาพ นี่เป็นเรื่องใหญ่ของตะวันออกกลาง และการที่เหตุโจมตีเกิดในประเทศอิรัก ทำให้สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลไว้จะกลายเป็นความจริง คืออิรักจะกลายเป็นพื้นที่ต่อสู้ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ