เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไปทั่้วโล จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกา หลังจากเกิดกรณีความรุนแรง จากพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว กระทำความรุนแรงต่อ นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน จนเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าสลด จนกลายเป็นกระแสเรื่องการเหยียดผิวที่เกิดขึ้นจากประเทศที่อวดอ้างว่าเป็นต้นแบบเสรีประชาธิปไตย

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไปทั่้วโล จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในหลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกา หลังจากเกิดกรณีความรุนแรง จากพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว  กระทำความรุนแรงต่อ นายจอร์จ ฟลอยด์  ชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน จนเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าสลด จนกลายเป็นกระแสเรื่องการเหยียดผิวที่เกิดขึ้นจากประเทศที่อวดอ้างว่าเป็นต้นแบบเสรีประชาธิปไตย

ล่าสุด  ประธานาธิบดีโดนัลด์  ทรัมป์  เปิดแถลงข่าวเน้นย้ำจะให้ความเป็นธรรมต่อนายจอร์จ  ฟลอยด์ (George Floyd) แต่ขณะเดียวกันก็พร้อมจะจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงตามเมืองในรัฐต่างๆ  โดยการส่งกำลังทหาร พร้อมอาวุธสงครามครบมือ ไปแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงตามเมืองในรัฐต่างๆ ทันที  

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน


ประเด็นสำคัญที่ถูกจับตามอง คือ  โดนัลด์  ทรัมป์ มีการกล่าวโจมีผู้ชุมนุมอย่างดุเดือด เนื่องจากมีการก่อจลาจล พร้อมกับการปล้น ทำลายฉกชิงทรัพย์สิน  ตามสถานที่ต่าง ๆ  กลายเป็นความอัปยศอย่างร้ายแรงที่ไม่อาจยอมรับได้ 

 

พร้อมกันนี้  โดนัลด์  ทรัมป์   ยังมีการตำหนิผู้ว่าการรัฐต่างๆ  ว่า  ที่ผ่านมาไม่มีความเด็ดขาดเท่าที่ควร  จึงทำให้เหตุรุนแรงแพร่กระจายไปในหลายจุดของเมืองใหญ่  จึงขอให้มีการใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์บนท้องถนนให้อยู่ในความสงบโดยเร็ว  

 

 

แต่หากทางการของเมือง หรือ มลรัฐใด   ไม่ยอมดำเนินมาตรการจำเป็นต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพลเมือง  รัฐบาลกลางสหรัฐฯจะตัดสินใจส่งกำลังทหาร เข้าไปแก้ปัญหาแทนอย่างเร่งด่วน   ตามบทบัญญัติของ “กฎหมายว่าด้วยการจัดการกับปัญหาการก่อจลาจล” ที่ประกาศบังคับใช้เมื่อปี ค.ศ. 1807 (พ.ศ. 2350)  ที่ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดี ในการส่งทหารเข้าไปปราบปรามการก่อจลาจลของชาวเมืองในรัฐต่างๆ ได้ 

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน


นอกจานี้การพิจารณาเตรียมใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงในสหรัฐ   ยังมีข้อสังเกตุว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความ กล่าวหาว่า 

ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตอ้างว่า ทีมงานของ Joe Biden ว่าเป็นผู้บริจาคเงินให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งหมด ที่เกิดจากการรวมกลุ่ม  ANTIFA หรือกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย ที่ต้องการอนาธิปไตย


ทั้งนี้   Joe Biden เคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯถึงสองสมัยในยุคประธานาธิบดี  บารัค โอบามา และกำลังเป็นแคนดิเดตของพรรคเดโมแครต  ที่จะลงชิงชัยในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020
 

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

ส่วนกลุ่ม  ANTIFA (Anti Facist)  นายนันทิวัฒน์  สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ  ได้โพสต์ความเห็นว่า  เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวหรือผู้ประท้วงเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดกับ นายจอร์จ  ฟลอยด์    แต่ ประธานาธิบดี โดนัลด์  ทรัมป์  ประณามว่าเป็นกลุ่มฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง ที่ต้องการยั่วยุให้การประท้วงอย่างสันติของประชาชนไปสู่อนาธิปไตย​   ด้วยจุดประสงค์ต้องการใช้อำนาสั่งการให้กองกำลังทหาร​ National Guards สามารถเข้าช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงได้

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

"การประกาศให้​ AntiFa.เป็นผู้ก่อการร้ายเท่ากับว่า​ รัฐสามารถใช้ทุกสรรพกำลังในการจัดการปราบปรามผู้ชุมนุมที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น​  AntiFa​ ได้ " 


อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ   ระบุด้วยว่า  การประท้วงที่เกิดขึ้นและขยายตัวไปทั่วสหรัฐ​ เป็นประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน​ คำขวัญที่ชูกันคือ​ Black Lives Matter  แปลว่า​ ชีวิตคนดำก็มีค่า​

 

แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นกลุ่มเอ็นจีโอ​ กลุ่มสิทธิมนุษยชน​ กลุ่มแอมเนสตี้ หรือกลุ่มใดๆออกแถลงการคัดค้าน​ ประณามนายทรัมป์​  ที่จะใช้กฏหมายต่อต้านการก่อการร้ายกับผู้ชุมนุม​  ยังไม่มีการคัดค้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อผู้ชุมนุม​ 

 

หรือแม้แต่ประณามทรัมป์​ ที่กล่าวว่า​ ถ้าขโมย​ ยิงได้เลย​ Looting start. Shooting start  นี่คือ​   การใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องหาความยุติธรรม​ แม้แต่นักบาสเกตบอลอย่าง ไมเคิล​ จอร์แดน​ ได้ออกทวิต เรียกร้องความยุติธรรมให้กับ  ​George Floyd :  NGO HRW Amnesty where are you.


ยิ่งยวดที่สุดเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนในสหรัฐอเมริกา ไม่ได้กระทบต่อพลเมืองมะกันเท่านั้น   แต่โดยข้อเท็จจริงความรุนแรงบานปลาย กระทบถึงคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯเช่นกัน  อาทิ   ผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อ   Sue Kiattisak ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่  31 พฤษภาคม ว่า "ขโมยชัด ๆ แล้วมีหน้ามาบอกว่าต้องการความยุติธรรม  มาหาความยุติธรรมในครัวกูนี่น่ะ"    

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

 

ก่อนจะโพสต์เพิ่มเติมอีกครั้ง  แแสดงให้เห็นถึงสภาพร้านอาหารและการซ่อมแซมในจุดที่เสียหาย   " Sue Kiattisak : Cleaning day วันทำความสะอาดวันทำความสะอาด" 

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน


นอกจากนี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อ "Matt Promprasert" ได้บรรยายสภาพผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยเน้นย้ำให้เห็นความเสียหายที่เกิดกับร้านอาหารของครอบครัวในเมืองพอร์ตแลนด์   หลังจากต้องดิ้นรนฝ่าปัญหาโควิด -19  ยังต้องมาเผชิญกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำอีก 

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

 

 


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก   SiamTownUS  โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของคนไทยบางส่วน  ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นว่า   "ร้านอาหารไทยในย่านไทยทาวน์และใกล้เคียง รวมถึงธุรกิจต่างชาติ ตัดสินใจปิดร้าน ตีไม้กั้นประตูหน้าร้าน เพื่อป้องกักการทุบตีจากโจรฉวยโอกาส" 

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ


นอกจากนี้้   SiamTownUS  ยังมีการเปิดเผยผลชันสูตรศพ  จอร์จ ฟลอยด์ ด้วยว่าเป็นผลจากการที่ร่างกายขาดออกซิเจน  เนื่องจากคอและหลังถูกกดทับ เป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน

 
"แพทย์ผู้กระทำการชันสูตรระบุในรายงายด้วยว่า น้ำหนักบนหลังของผู้ตาย ยังมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ร่วมทำการจับกุม, กุญแจมือและท่านอนของเขา ต่างมีส่วนร่วมทำให้ระบบหายใจติดขัด และทำให้จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิต"

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน


ท้ายสุด ถือเป็นปฏิกริยาย้อนกลับไปถึงมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ชอบแทรกแซงทางการเมืองชาติต่าง ๆ รวมถึงไทย โดยเฉพาะนับเนื่องจากสถานการณ์การก่อจลาจลโดยกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.  จนมาถึงเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557  หรือ กระทั่งการตัดสินใจยุบพรรคอนาคตใหม่  ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ

 

โดยเป็นทางด้าน   นายจ้าว ลี่เจียน  โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลง เกี่ยวกับสถานการณ์ประท้วงและจลาจลสีผิวในสหรัฐ  ว่า  ประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งหมักหมมอยู่ภายใต้การบริหารประเทศมาเป็นเวลานาน ทั้งการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและสีผิว จนมาถึงการใช้กำลังรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต และกลายเป็นเหตุจลาจล ที่สร้างผลกระทบกับทุกฝ่ายในขณะนี้  


จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลจีนจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ ไปตามความจำเป็นของกรอบของกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในสหรัฐอย่างเท่าเทียม

 

เปิดผลชันสูตร จอร์จ ฟลอยด์ ชนวนเหตุจลาจลสหรัฐ  ปธน.ทรัมป์ ขู่ใช้ทหารสยบมวลชน