แอ่งน้ำสีแดงใกล้ทะเลเดดซีทำโกลาหล ผู้คนหวาดกลัวคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิล

สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นปริศนา เมื่อแอ่งน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งใกล้ทะเลเดดซีในประเทศจอร์แดน กลายเป็นสีแดงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้มีหลายๆ คนที่ได้เห็นถึงกับนึกย้อนไปยังคำทำนายใน พระคัมภีร์ไบเบิล ที่เคยให้ไว้ว่า จะเกิดลางร้ายขึ้นกับโลกตะวันตก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ทว่าอีกฝากฝั่งก็พยายามหาสาเหตุอย่างหนักว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น เกิดมาจากอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงน้ำและชลประทานของจอร์แดน ก็ได้เก็บตัวอย่างในแอ่งน้ำดังกล่าวไปวิเคราะห์แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งในระหว่างผลการตรวจสอบดังกล่าวจะออกมา กลับเกิดเรื่องราววุ่นๆ ถึงขั้นเรียกได้ว่าโกลาหลและหวาดกลัวเล็กๆ เลยทีเดียว
 

 

เนื่องจากมีผู้พบเห็นหลายคนนำภาพแอ่งน้ำสีแดงนี้ไปโพสต์ในโลกออนไลน์ ซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งโยงเข้ากับตำนานที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธสัญญาเก่า ว่าเป็นหนึ่งใน 10 เหตุร้ายที่พระเจ้าบันดาลให้เกิดหายนะแก่ฟาโรห์อียิปต์ เพื่อลงโทษที่บังคับให้ชาวยิวเป็นทาส

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตามรายงานระบุว่า คัมภีร์ไบเบิล ได้ทำนายเกี่ยวกับเรื่องราวที่คล้ายกับลักษณะนี้ว่า "พระเจ้าเปลี่ยนน้ำในแม่น้ำไนล์ให้เป็นเลือด ทำให้ปลาตายและชาวอียิปต์ไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค"

 

ขณะเดียวกับ นายยัสซิน อัล-คาเซสเบห์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตร ทางตอนใต้ของหุบเขาจอร์แดน ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อในประเทศว่า ปรากฏการณ์แอ่งน้ำสีแดงนี้ มักพบในแหล่งน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเล เนื่องจากมีแบคทีเรียบางชนิดและสาหร่ายสีแดงที่ชื่นชอบความเค็ม ที่จะเปลี่ยนน้ำเป็นสีแดงเมื่อมีแสงอาทิตย์เพื่อสังเคราะห์อาหารด้วยแสง

 

แต่กระนั้น ก็ยังไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง เพราะแอ่งน้ำอื่นๆ ก็ไม่พบว่ามีสีแดง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ด้านเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าอาจเป็นเพราะออกไซด์ของเหล็กในน้ำที่เปลี่ยนสีน้ำให้เป็นสีแดง แต่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ดีว่าแหล่งน้ำดังกล่าวมีออกไซด์ของเหล็กอยู่ได้อย่างไร และทำไมสีน้ำถึงเปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม นายซัคกร์ อัง-นูซูร์ หัวหน้าสมาคมนักธรณีวิทยาจอร์แดน ได้ออกมาให้ข้อมูลอีกมุมว่าบางทีน้ำที่เปลี่ยนเป็นสีแดงนี้อาจมีใครบางคนนำสารบางอย่างไปทิ้งก็ได้ ขณะที่ชาวจอร์แดนจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือของคนจากหน่วยงานรัฐ ที่ปกปิดเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับมลภาวะในสิ่งแวดล้อมหรือไม่

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ข้อมูลจาก Daily Mail