โอไมครอนโควิด ลุกลามทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ

โอไมครอนโควิด ลุกลามทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ WHO ถึงออกเตือนมาตรการสกัดกั้นที่เสี่ยงซวยในอนาคต

เพิ่งยืนยันไปอีก 2 ประเทศล่าสุดสำหรับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอนโควิด ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าระบาดไปแล้ว 21 ประเทศจาก 5 ทวีป ซึ่ง 2 ประเทศล่าสุดที่มีการยืนยันการติดเชื้อก็คือ เกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา จากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยโอไมครอนโควิด ยังไม่มีรายงานว่าเป็นผู้ป่วยรุนแรง

โอไมครอนโควิด ลุกลากทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาเตือนว่า คำสั่งห้ามเดินทางแบบสาดกระจายแบบเหวี่ยงแหจะไม่ช่วยป้องกันการระบาดระหว่างประเทศของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ชนิดกลายพันธุ์ รหัสพันธุกรรม B.1.1.529 หรือ สายพันธุ์โอไมครอน แม้หลายสิบประเทศประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแล้วก็ตาม


แม้กำหนดให้ โควิดโอไมครอน เป็น โควิดสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่สุด แต่องค์การอนามัยโลกชี้ว่า คำสั่งห้ามเดินทางแบบเหวี่ยงแห (Blanket Travel Bans) จะสร้างภาระอันหนักหน่วงต่อชีวิตและการดำรงชีวิตของผู้คน ทั้งยังทำให้หลายประเทศไม่มีแรงจูงใจรวมทั้งขาดความกระตือรือร้นในการรายงานและแบ่งปันข้อมูลด้านระบาดวิทยาและการลำดับทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัส


โดย WHO ได้รับรายงานการตรวจพบ โรคโควิดโอไมครอน ครั้งแรกจากแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ก่อน และขณะนี้หลายประเทศในหลายภูมิภาคต่างยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทำให้หลายสิบประเทศเริ่มดำเนินมาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้น แม้กระทั่งการระงับเที่ยวบิน

โอไมครอนโควิด ลุกลากทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ

ขณะที่ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวขอบคุณ บอตสวานาและแอฟริกาใต้ที่รายงานการตรวจพบสายพันธุ์โอไมครอนอย่างรวดเร็ว ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลกเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความกังวลที่ประเทศเหล่านี้กำลังถูกประเทศอื่นลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง


กีบรีเยซุส เรียก มาตรการที่สาดกระจายและไม่เหมาะสม ที่เสนอโดยประเทศสมาชิกบางประเทศว่า ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานหรือมีประสิทธิภาพ พร้อมเรียกร้องประเทศต่างๆ ใช้ มาตรการลดความเสี่ยงอย่างเป็นสัดส่วนและสมเหตุสมผลตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)


ด้าน องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ผู้ที่รู้สึกไม่สบายหรือมีความเสี่ยงเป็นโรคโควิดอาการรุนแรงและกำลังจะเสียชีวิต รวมถึงผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้มีโรคประจำตัว อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ควรเลื่อนแผนการเดินทางออกไปก่อน

โอไมครอนโควิด ลุกลากทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ


องค์การอนามัยโลก ระบุในคำแนะนำการเดินทางฉบับแก้ไขว่า มีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่ว่าจะมีหลายประเทศที่ตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ เริ่มยกระดับการเฝ้าระวังและการตรวจหาลำดับพันธุกรรมของไวรัส พร้อมกับอัพเดทข้อมูลจนถึง ณ วันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่ามี 56 ประเทศที่ใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดไม่ให้ไวรัสโอไมครอนเข้ามาระบาดในประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ซึ่งเกิดการระบาดตั้งแต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ขณะนี้มีกลายประเทศทั่วโลกเริ่มติดเชื้อไปแล้วกว่า 21 ประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กว่า 247 รายทั่วโลก ซึ่งสรุปได้ว่ามีเพียง 1 ทวีปเท่านั้นที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโอไมครอนคือ ทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

โอไมครอนโควิด ลุกลากทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ

1. ทวีปแอฟริกา - แอฟริกาใต้ , บอตสวานา, มาลาวี, เอสวาตินี, โมซัมบิก, ซิมบับเว, เลโซโท , นามิเบีย , กาน่า 
2. ทวีปยุโรป - อิตาลี, อังกฤษ , เดนมาร์ก, เยอรมนี, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ , ฝรั่งเศส , สาธารณรัฐเช็ก , สวีเดน ,โปรตุเกส , สเปน , ออสเตรีย , สวิตเซอร์แลนด์ ,ไอร์แลนด์ 
3. ทวีปเอเชีย - ฮ่องกง , อิสราเอล , เกาหลีใต้  , ซาอุดิอาระเบีย , ญี่ปุ่น
4. ทวีปออสเตรเลีย - ออสเตรเลีย
5. ทวีปอเมริกาเหนือ - แคนาดา , สหรัฐอเมริกา 
6. ทวีปอเมริกาใต้ - บราซิล 

โอไมครอนโควิด ลุกลากทั่วโลก ยืนยันพบแล้ว 6 ทวีป กว่า 30 ประเทศ