เจอหลักฐานใหม่ ก่อนเครื่องบินจีนตกกลางหุบเขา

จากโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนขวัญไปทั่วโลก กับกรีณที่ เครื่องบินของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส (China Eastern Airlines)  เที่ยวบิน MU 5735 ประสบเหตุตก ในเมืองอู๋โจว มณฑลกว่างซีจ้วง ประเทศจีน โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน เปิดเผยว่าบนเครื่องมีผู้โดยสาร 123 คน และลูกเรือ 9 คน 

โดยสื่อในประเทศรายงานอีกว่า สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 132 ราย หลังเกิดเหตุเครื่องบินจีนตกกลางหุบเขาทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่นานหลังจากสูญเสียการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ โดยเครื่องบินลำดังกล่าวตกลงระหว่างอยู่บนความสูงหลายพันเมตร ภายในเวลาเพียง 3 นาที 

อีกทั้ง รายงานจากข้อมูลของเว็บไซต์ FlightRadar24 ผู้ให้บริการข้อมูลการติดตามและตรวจสอบการจราจรทางอากาศทั่วโลกตามเวลาจริงบนแผนที่ แสดงให้เห็นว่า นักบินยังคงมีสติ พยายามต่อสู้จนสุดความสามารถ เชิดหัวเครื่องบินขึ้นได้สำเร็จ 1 ครั้ง ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะพบจุดจบ จนกลายเป็น โศกนาฏกรรมเศร้า

 

 - นักบินสู้สุดใจ เชิดหัวขึ้นได้สำเร็จ ก่อนเครื่องบินจีนตกกลางหุบเขา 

 

ล่าสุดทางการจีนแถลงข่าวความคืบหน้าการสืบสวนหาสาเหตุเครื่องบินจีนตก ถึงหลักฐานใหม่ที่พบโดยระบุว่า นักบินของเครื่องบินลำดังกล่าวไม่รับสายจากหอควบคุมการบินของจีน ที่ติดต่อไปหลายครั้งหลังจากพบว่ามีการลดระดับลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ จากการสืบสวนระบุว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้

 

ตามรายงานระบุว่า ข้อมูลล่าสุดที่มีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินเที่ยวบิน MU5735 พุ่งลงมาจากความสูง 29,000 ฟุต หรือราวๆ  8,840เมตร แบบทิ้งดิ่ง ซึ่งท่าทางการตกดังกล่าวสร้างความงุนงงให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเป็นอย่างยิ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า โบอิ้งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สายการบินไชน่าอีสเทิร์น สั่งระงับใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง737-800 ลง และให้มีการทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด