รองประธานาธิบดีหญิง โดนปืนจ่อระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชน

โลกออนไลน์สะพัดนาที รองประธานาธิบดีหญิง โดนปืนจ่อระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชน ตำรวจรวบทันควันคนร้ายพยายามลอบสังหาร

รองประธานาธิบดีหญิง โดนปืนจ่อระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชน  เกือบเป็นอีกหนึ่งข่าวร้ายที่คนสำคัญทางการเมืองต่างประเทศ เมื่อมีรายงานว่า รองประธานาธิบดีหญิงของอาร์เจนตินา ถูกปืนจ่อในระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชนผู้สนับสนุนของเธอที่ด้านนอกบ้านพักในกรุงบัวโนสไอเรส ต่อมามีรายงานเพิ่มเติมว่า ชายคนหนึ่งถูกจับกุมหลังพยายามก่อเหตุดังกล่าว 

 

รองประธานาธิบดีหญิง โดนปืนจ่อระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชน

 

โดยคลิปวิดีโอที่แพร่สะพัดเผยให้เห็นนาทีชายคนหนึ่งซึ่งแทรกตัวอยู่กลางฝูงชน จ่อปืนใส่หน้า นางคริสตินา เฟอร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดีอาร์เจนตินาและอดีตประธานาธิบดีอาร์เจนตินาในระยะเผาขน และลั่นไก เธอก้มหัวลง แต่ไม่มีกระสุนออกมา และเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และมีอีกคลิปหนึ่งที่เห็นคนอื่นๆ ในบริเวณนั้นพยายามป้องกันเธอจากมือปืน


ขณะเดียวกัน ตำรวจ เปิดเผยว่า ชายชาวบราซิลวัย 35 ปีถูกจับตัวไว้ได้ และพบปืนตกห่างจากจุดเกิดเหตุไม่กี่เมตร เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ กระทรวงความมั่นคง ระบุด้วยว่า ปืน จุด 380 มีกระสุนหลายนัด และสื่อทางการระบุว่า ผู้ต้องสงสัย คือ เฟอร์นันโด อันเดรส ซาบัก สัญชาติบราซิล 


ด้าน อัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา แถลงได้ออกมาประณามคนร้าย และบอกว่า เหตุการณ์พยายามลอบสังหารเคิร์ชเนอร์เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เกิดขึ้นกับอาร์เจนตินาหลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 2526 เขาระบุด้วยว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุมีกระสุน 5 นัด แต่กระสุนไม่ออกตอนลั่นไก    


ทั้งนี้ เขาบอกอีกว่า "เราเห็นต่างกันได้ เรามีความเห็นขัดแย้งกันอย่างมากได้ แต่คำพูดเกลียดชังไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นบ่อเกิดความรุนแรง และไม่มีโอกาสที่ความรุนแรงจะอยู่ร่วมกับประชาธิปไตยได้"

รองประธานาธิบดีหญิง โดนปืนจ่อระยะเผาขนท่ามกลางฝูงชน

นอกจากนี้เขาประกาศให้วันศุกร์เป็นวันหยุดราชการเพื่อให้ชาวอาร์เจนตินามีเวลาแสดงความเห็นเพื่อปกป้องชีวิตและประชาธิปไตย และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรองประธานาธิบดี 


ขณะที่ เซร์คิโอ มัสซา รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาร์เจนตินา เรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางเคิร์ชเนอร์ว่าเป็นความพยายามลอบสังหาร โดยทวีตว่า "เมื่อความเกลียดชังและความรุนแรงอยู่เหนือการโต้เถียง สังคมถูกทำลายและสถานการณ์ทำนองนี้จะเกิดขึ้น ความพยายามลอบสังหาร"


เหตุการณ์ระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่นางเคิร์ชเนอร์เดินทางกลับจากศาล หลังไปให้การระหว่างการไต่สวนคดีคอร์รัปชัน ซึ่งเธอปฏิเสธข้อกล่าวหา และในช่วงหลายวันที่ผ่านมามีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวเพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนที่ด้านนอกบ้านของอดีตผู้นำหญิงวัย 69 ปี เธอถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินรัฐ และอัยการขอให้ผู้พิพาษาลงโทษจำคุก 12 ปีและห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ส่วนคำตัดสินคดีนี้อาจใช้เวลาอีกหลายเดือน


แต่เนื่องจากเธอดำรงตำแหน่งรองประธานรัฐสภาด้วย ทำให้ได้รับเอกสิทธิคุ้มครอง และจะไม่ต้องเข้าเรือนจำจนกว่าศาลสูงสุดของประเทศมีคำพิพากษา หรือ เธอพ้นตำแหน่งวุฒิสมาชิกในการเลือกตั้งทั่วไปช่วงสิ้นปี 2566


อย่างไรก็ตาม นางเคิร์ชเนอร์ถูกพิจารณาคดีข้อหาคอร์รัปชันหลายคดีหลังพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี  เธอดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัยระหว่างปี 2550 และ 2558 และเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีในปี 2562


ภาพเพิ่มเติมจาก เนชั่นทันโลก NTV World News
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline