- 23 ต.ค. 2565
เหล่าแม่หม้าย แก้แค้นอดีตผัว ส่งชื่อไปเกณฑ์ทหารไม่สนชะตาชีวิตที่ต้องเจอในสนามรบ เทียบไม่ได้กับความเจ็บปวด
แม่หม้าย แก้แค้นอดีตผัว ส่งชื่อไปเกณฑ์ทหาร รอรับเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต อย่างที่ทราบกันดีกว่าก่อนหน้านี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระดมพลจำนวนไม่ต่ำกว่า 300,000 คนเพื่อไปสู้รบทำสงครามบุกยูเครน ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะยังไม่จบลงง่ายๆ ซึ่งจากการระดมพลนั้นทำให้ผู้ชายรัสเซียต่างขยาดจนต้องอพยพหนีออกจากประเทศ
แต่กับเรื่องนี้มีรายงานเคสสุดแปลก ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงชาวรัสเซียหลายสิบคน เดินทางมาเพื่อส่งมอบรายชื่อและที่อยู่ของอดีตสามีที่ทอดทิ้งพวกเธอและลูกๆ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเกณฑ์ทหาร ขณะนี้กลุ่มได้ขยายตัวขึ้นและมีชุมชนออนไลน์ ซึ่งมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 70 คน เพื่อเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์และหารือปัญหา
โดยสาวโรงงานแม่หม้ายรายหนึ่งให้เล่าว่า อดีตสามีของเธอโทร มาหาเธอถึง 2 ครั้ง แต่เธอไม่รับสาย เธอกล่าวว่าเขาเป็นชายร่างสูงและแข็งแรง อีกทั้งเคยเป็นทหาร เธอคิดว่าคงไม่ยุติธรรม ถ้ากองทัพไม่ยอมเกณฑ์เขาเข้าไปเป็นกำลังพล แต่จะมาเกณฑ์ลูกชายวัย 19 ปี ที่เป็นโรคลมชักของเธอ หรือคู่รักของเธอที่ช่วยกันเลี้ยงดูลูกชายเข้ากองทัพแทน
พร้อมกันนี้ สื่อในรัสเซียยังยกตัวอย่างกรณีของแม่หม้ายคนอื่นๆ ซึ่งทำเหมือนกัน แต่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อจริง จึงไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ด้าน นักเทคนิคสาว เป็นอีกรายที่ส่งรายชื่ออดีตสามีให้ทางการ เธอกล่าวว่า ทันทีที่ได้ยินประกาศของประธานาธิบดีปูติน เธอก็คิดว่าถ้าอดีตสามีของเธอไปรบ เขาก็จะมีเงินมาจ่ายหนี้ให้เธอ เพราะว่าเขาจะต้องได้รับเงินเดือนซึ่งจ่ายผ่านบัญชีทางการที่ไม่สามารถแอบซ่อนได้ และถ้าเขาได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ลูกของเธอก็จะได้รับเงินชดเชย
ทั้งนี้ แม่หม้ายกลุ่มนี้ยังระบุว่า ประกาศเกณฑ์ทหารของปูตินนี้ ช่วยให้พวกเธอได้รับความยุติธรรมที่ศาลให้พวกเธอไม่ได้ เมื่อพวกเธอหย่าร้างกับอดีตสามีเหล่านี้ พวกเขาจะทิ้งพวกเธอและลูกๆ โดยไม่ยอมให้ความช่วยเหลือทางการเงิน หรือไม่ยอมแม้กระทั่งจ่ายหนี้ที่ก่อไว้ โดยที่บทลงโทษของการไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูนั้นเป็นโทษสถานเบา เช่น กำหนดชั่วโมงให้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นต้น
ขณะที่ นักธุรกิจหญิง ซึ่งมีลูกสาววัย 17 ปี 1 คน กับอดีตสามีของเธอเล่าว่า อดีตสามีไม่เคยจ่ายค่าเลี้ยงดูและไม่เคยสนใจช่วยเธอเลี้ยงลูกสาว เธอจึงไม่สนใจว่า เขาจะไปรบไหวไหม หรือจะมีชีวิตรอดจากสงครามหรือไม่ สำหรับเธอแล้ว อดีตสามีได้ตายจากไปนานแล้วในใจเธอ ถ้าหากเขาไปรบและเสียชีวิต เธอก็แค่ได้รับคำยืนยันว่า เขาได้ตายจริงและเงินชดเชยทั้งหมดก็จะตกแก่ทายาทซึ่งก็คือลูกของเธอ
นอกจากนี้ ยังมีแม่หม้ายอีกรายเล่าว่า เธอเคยถามตัวเองว่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าอดีตสามีของเธอออกไปตายในสนามรบ แต่ในเมื่อตลอดเวลา 12 ปีที่ผ่านมา เธอและลูกชายไม่เคยได้พบหน้าเขาสักครั้ง ทั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน เธอจึงคิดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่มี ก็คงไม่รู้สึกต่างกันมาก และถ้าหากอดีตสามีของเธอเสียชีวิตก็จะยิ่งเป็นการดี เพราะลูกของเธอจะเป็นคนได้รับเงินชดเชยจากทางการ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline