ฉาวรพ.ดังให้เลือดปลอมผสมน้ำผลไม้ ทำคนป่วยทรุดหนักก่อนเสียชีวิต

ฉาวรพ.ดังให้เลือดปลอมผสมน้ำผลไม้ ทำคนป่วยทรุดหนักก่อนเสียชีวิต กลายเป็นเรื่องราวสุดฉาวที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อมีรายงานเหตุการณ์ชายชาวอินเดียวัย 32 ปี เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทางเหนือของเมืองอิลลาฮาบาด เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ด้วยอาการป่วยไข้เลือดออก และหลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้ให้เกล็ดเลือดกับเขา ปรากฎว่ากลับมีอาการทรุดลงอย่างน่ากลัว จนต้องถูกส่งตัวย้ายไปยังโรงพยาบาลเอกชนอีกแห่ง แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ตามรายงานของ แพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่สอง บอกกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า ถุงเลือดที่ผู้เสียชีวิตได้ฉีดไปก่อนหน้านี้เป็น เลือดปลอม และมีส่วนผสมของ "น้ำมูซาบิ" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มรสเปรี้ยวยอดนิยมในอินเดีย หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "มะนาวหวาน"

ขณะเดียวกัน ซานเจย์ กุมาร์ คาตรี ผู้พิพากษาท้องถิ่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบถุงเลือดที่ผู้เสียชีวิตได้รับนั้น เบื้องต้นไม่พบว่ามีส่วนผสมของ "น้ำผลไม้" แต่ยังคงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันอีกครั้ง

พร้อมกันนี้โรงพยาบาลแห่งแรกยังปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่าถุงเลือดที่ใช้สำหรับการถ่ายเลือดนั้น ไม่ใช่ของทางโรงพยาบาล แต่ถูกซื้อมาโดยญาติของผู้ป่วยเอง
 

 

ด้านที่ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอย่างถึงที่สุด โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต

ญาติของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งเล่าว่า เขาล้มป่วยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม และเข้ารับการรักษาไข้เลือดออกในโรงพยาบาล และวันที่ 16 ตุลาคม เราได้รับแจ้งว่าเขาต้องการเกล็ดเลือด 8 หน่วย ซึ่งเราหามาได้เพียง 3 หน่วยจากเลือดของคนในครอบครัว ในตอนนั้นมีคนบอกเราว่า ลูกชายเจ้าของตึกโรงพยาบาลสามารถจัดหาเกล็ดเลือดให้เราได้ เราจึงติดต่อกับเขาและจ่ายเงินให้เขา 25,000 รูปี หรือประมาณ 11,500 บาท สำหรับเลือด 5 หน่วย

ทว่าหลังให้เกล็ดเลือดไปเพียง 4 หน่วย อาการของผู้ป่วยกลับแย่ลง จากนั้นจึงต้องพาย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่ง และแพทย์ที่นั่นบอกว่ามีลิ่มเลือดในร่างกาย และเขาเสียชีวิตในที่ 19 ตุลาคม ซึ่งพบว่ามันเป็น น้ำมูซาบิ ที่ถูกนำเข้าร่างกาย แทนที่จะเป็นเกล็ดเลือด และมีถุงเลือดถุงที่ 5 ซึ่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ บราเจซ ปาทัก รองหัวหน้าคณะรัฐมนตรีอุตตรประเทศ ได้สั่งให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากได้รับทราบกรณีวิดีโอไวรัส ผู้ป่วยไข้เลือดออกได้รับการถ่ายเลือดด้วยน้ำผลไม้แทนเกล็ดเลือด 

"โรงพยาบาลจึงถูกปิดในขณะนี้ตามคำสั่งของผม เพื่อให้แน่ใจว่ามีการสอบสวนอย่างยุติธรรม และได้ส่งซองเกล็ดเลือดไปทดสอบแล้ว หากพบว่ามีความผิด ทางโรงพยาบาลจะถูกดำเนินคดี" 

หลังเกิดเหตุดังกล่าว ตำรวจท้องที่ได้ทำการปิดล้อมโรงพยาบาล เพื่อเร่งตรวจค้นภายใน พร้อมทั้งบุกค้นสถานที่ต้องสงสัยต่างๆ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมด 12 ราย ในข้อหา "จัดหาเลือดและเกล็ดเลือดอย่างผิดกฎหมาย" และยึดเลือดได้อย่างน้อย 18 ถุง

อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานด้วยว่า กลุ่มที่กระทำเรื่องผิดกฎหมายนี้ ได้ซื้อจำนวนพลาสมาจำนวน 350 มิลลิลิตร จากธนาคารเลือดต่างๆ ก่อนนำมาผสมและแบ่งแยกเป็นถุงเล็กๆ และติดสติ๊กเกอร์ "พลาสมา" จาก ธนาคารเลือด เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ว่าเป็นเกล็ดเลือดของจริง

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline