หลักฐานสำคัญบ่งชี้ ส่วนหนึ่ง โศกนาฏกรรมอิแทวอน เป็นเพราะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ

เข้าสู่วันที่ 3 ของการไว้อาลัยให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมอิแทวอน หนึ่งในโศกนากฏกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้ ซึ่งจากรายงานล่าสุดระบุอัพเดตว่า ตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น เสียชีวิตอย่างน้อย 156 ราย และในจำนวนนี้รวมชาวต่างชาติอย่างน้อย 26 ราย จาก 14 ประเทศ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 152 คน

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ระบุว่ารัฐบาลขอให้ตำรวจอธิบายอย่างชัดเจน ละเอียดและตรงไปตรงมา เกี่ยวกับการตอบสนองต่อการโทรศัพท์แจ้งเตือนของประชาชนมายังหมายเลขฉุกเฉิน แสดงความวิตกกังวลและขอให้เจ้าหน้าที่ส่งกำลังมาจัดการสถานการณ์ที่ย่านอิแทวอน ในกรุงโซล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ตามรายงานระบุว่า การเรียกร้องของรัฐบาลเกาหลีใต้เกิดขึ้น หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้เผยแพร่เนื้อหาของการสนทนา ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน ซึ่งโทรศัพท์เข้ามา 11 สายที่หมายเลขฉุกเฉิน แจ้งเตือนว่า "อาจเกิดเหตุร้ายอย่างไม่คาดฝัน" ที่ย่านอิแทวอน เนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามารวมตัวจนยากแก่การควบคุม 

 

โดยโทรศัพท์สายแรกซึ่งแจ้งเรื่องดังกล่าว ระบุเวลาไว้ที่ 18.34 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ผ่านมา หรือประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ หลังจากนั้น ตำรวจได้รับแจ้งเหตุแบบเดียวกันจากประชาชนอีก 10 คน ซึ่งเร่งเร้าให้ตำรวจลงพื้นที่ระงับเหตุ เนื่องจาก "กำลังจะเกิดการเหยียบกันตาย" ทว่ากลับไม่มีการตอบสนองอย่างชัดเจนจากฝ่ายเจ้าหน้าที่

 

ขณะเดียวกัน ยุน ฮี-กึน ผู้บัญชาการตำรวจเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยอมรับว่ามาตรการควบคุมฝูงชนในวันเกิดเหตุ "ไม่ได้ประสิทธิภาพเพียงพอ" เนื่องจากยังไม่มีแนวทางจัดการเฉพาะ เพื่อควบคุมการหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่แคบของผู้คนจำนวนมาก และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชน 

พร้อมกันนี้ ในรายงานยังระบุอีกด้วยว่า โทรศัพท์ผ่านหมายเลขฉุกเฉินหลายครั้ง เตือนความเสี่ยงของการเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วย แม้ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน ว่ามีการตอบสนองอย่างไร แต่ยอมรับว่า จำนวนประชาชนที่ย่านอิแทวอนในวันเกิดเหตุ "มากกว่าที่มีการประเมินไว้มาก"

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจเกาหลีใต้สัญญาว่า จะดำเนินการสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการหลังรับแจ้งเหตุอย่างเหมาะสมหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุอย่างเหมาะสมหรือไม่

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline