- 30 พ.ย. 2565
ยามชายฝั่งตกใจ เจอผู้ชาย 3 คนนั่งบน "หางเสือ" ใต้เรือบรรทุกน้ำมัน พบนั่งเดินทางข้ามประเทศมากว่า 5,000 กิโลเมตร
3 หนุ่มนั่ง หางเสือ ใต้เรือบรรทุกน้ำมัน เดินทางกว่า 5,000 กิโลเมตร กลายเป็นเคสที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อมีรายงานเรื่องราวของ ชาย 3 คน ที่แอบเดินทางมากับเรือ ซึ่งเบื้องต้นทางการสเปนระบุข้อมูลถึงเหตุการณ์นี้ว่า พวกเขา แอบนั่งบนหางเสือของเรือลำหนึ่งหลังเดินทาง 11 วัน จากไนจีเรีย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยภาพถ่ายที่หน่วยยามฝั่งเผยผู้ชาย 3 คน นั่งบนหางเสือที่ท้ายเรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเท้าอยู่ห่างจากน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร ทั้งหมดถูกนำไปส่งโรงพยาบาล ที่จุดหมายปลายทางของเรือ ในเกาะกรันกานาเรีย และได้รับการรักษาภาวะขาดน้ำปานกลาง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ชาย 3 คนใช้เวลาตลอดการเดินทางบนหางเสือหรือไม่
ทว่าตามรายงานระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันอัลธีนี ทู (Althini II) ติดธงมอลตา จากเมืองลากอส เมืองใหญ่ที่สุดของไนจีเรีย มาถึงเมืองลัสปัลมัส เกาะกรันกานาเรียของสเปน ซึ่งเป็นการเดินทางมากกว่า 2,700 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 5,000 กิโลเมตร ตามข้อมูลที่เว็บไซต์ติดตามการเดินเรือรวบรวม
พร้อมกันนี้ สำนักข่าวอีเอฟอีของสเปน ยังได้รายงานว่า แพทย์ที่ท่าเทียบเรือพบผู้ชาย 3 คน ซึ่งถูกนำไปส่งโรงพยาบาลโดยไม่รอช้า ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพบคนบนหางเสือ ซึ่งเป็นครีบคล้ายใบมีดขนาดใหญ่ใต้ท้องเรือและใช้ในการบังคับเลี้ยว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ก่อนหน้านี้ในปี 2563 มี เด็กชายวัย 14 ปี ที่เดินทางจากเมืองลากอสไปเกาะกรันกานาเรีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เอล ปาอิส (El Pais) ของสเปนว่า เขาใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 15 วันบนหางเสือของเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อมาถึง หลังเอาตัวรอดจากน้ำเกลือและผลัดกันนอนในรูที่อยู่บนหางเสือกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่ร่วมเดินทางด้วย
และอีกเหตุการณ์ในปีเดียวกันเป็นชาย 4 คนที่อยู่บนหางเสือของเรือบรรทุกน้ำมันแชมเปียน ปูลา (Champion Pula) ของนอร์เวย์ หลังเรือเดินทางจากเมืองลากอสไปเมืองลัสพัลมัส รายงานในเวลานั้นกล่าวว่า ชายกลุ่มเหล่านี้ซ่อนตัวในห้องหลังหางเสือในทะเลเป็นเวลา 10 วัน
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมว่า จำนวนผู้อพยพข้ามเรือจากแอฟริกาตะวันตกไปหมู่เกาะกานารีของสเปนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเดินทางนั้นยาวนาน อันตราย และร้ายแรง ขณะที่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของสหประชาชาติบันทึกในปี 2564 มีผู้เสียชีวิต 1,532 รายบนเส้นทางนี้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline