มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

หลังจากที่มีการถอดสมณศักดิ์พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มีหลายเสียงหลายความคิดเห็นว่าขั้นตอนนับจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระธัมมชโยจะถูกจับสึกให้ขาดจากความเป็นพระได้หรือไม่ อย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการดังกล่าว ซึ่งวันนี้เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์ดังแห่งนสพ.ไทยโพสต์ ได้ให้ความเห็นไว้ผ่านบทความล่าสุดอย่างน่าสนใจและชวนติดตามยิ่ง โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังนี้

 

'มาตรการรัฐ-สงฆ์' ตราสังผีบุญ

 

       ใจเย็นๆ......เรื่อง "ผีบุญไชยบูลย์" เอาเงินทองที่ได้จากหลอกขายค้อน-ขายสวรรค์บ้าง ยักยอก-ฟอกทรัพย์-รับของโจรบ้าง เป็นเหยื่อเกี่ยวเบ็ด .........ตกพระบางหมู่-บางเหล่า ตั้งแต่ระดับพัดมียอด ไปจนถึงพัดใบลานที่ "หลงอามิส" ให้ฮุบ จนหลายพระ-หลายวัด "ในความเป็นคณะสงฆ์ไทย" ทั้งในกรุงและต่างจังหวัด กลายไปเป็น "พระ-วัด" สาวกลัทธิธรรมกายไปมาก-ต่อมาก และส่อว่า ถ้าปล่อยปละให้เป็นไปเช่นนี้เรื่อยๆไม่ช้า-ไม่นาน ยิ่งถ้าการเมืองเปลี่ยนกลับ.........

 

       "คณะสงฆ์ไทย-เถรวาท" ปัจจุบัน จะถูกเงินขายค้อน-ขายสวรรค์กลืน เป็น "คณะสงฆ์ธรรมกายไทย" สมทบการเมือง "ฮุบเมือง" ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง! เหตุนั้น ผมจึงบอก ให้ใจเย็นๆ ให้เวลาเจ้าหน้าที่เขานิด และอีกอย่าง ครั้งนี้ "เดิมพันสูงมาก" มากระดับที่ขอการันตีว่า....ไม่จบ-ก็เจ๊ง!

       เพราะถ้าไม่จบ........ในความที่ "รัฐบาล คสช." จะเจ๊งนั่นแหละ ลัทธิธรรมกายภายใต้ผีบุญไชยบูลย์ จะผึ่งผงาด เบ่งบารมี ควบคุมสงฆ์ไทย-มหาเถรสมาคม และบารมีผีบุญ ยังจะแสดงปาฏิหาริย์ "ชุบชีวิต" สัมภเวสี ที่กำลังสิ้นแรง-สิ้นหวัง ให้มีพลัง เป็นผีดิบได้เลือด คึกขึ้นมาเป็นขุมข่ายปฏิบัติการร่วม ครอบคลุมอาณาจักรและพุทธจักร เหมือนพม่าที่พระมีอิทธิพลคู่การเมือง และนี่ก็ "เข้าแผน" จักรวรรดินิยมอำนาจทุนตะวันตก เมื่อรัฐบาลทหารไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นทางอำนาจ มันก็ต้องยุแยง "แบ่งแยก" เพื่อเข้าควบคุมและใช้พื้นที่ประเทศ ในระบบ "สมประโยชน์-สมอำนาจ!"

 

       เพราะอย่างนี้ รัฐบาล คสช.จึงยอมหงอให้กับเรื่องผีบุญ-ลัทธิธรรมกายต่อไปอีกไม่ได้ ถ้าพ้นจากรัฐบาลนี้ไป........ชาตินี้ยันชาติหน้า ก็อย่าหวังว่า จะมีรัฐบาลเลือกตั้งไหน ทุกข์ร้อน มองเห็นภัย และใช้กฎหมายเข้าจัดการลัทธิธรรมกายให้อยู่กับร่อง-กับรอยได้! ที่ผมการันตี ไม่ใช่ตีเอง ตีเอาจากแต่ละฉาก-ละตอนที่ผ่านมา และตีจากคำพูดนายกฯ ประยุทธ์เมื่อวาน (๗ มี.ค.๖๐) ที่ว่า

 

       "ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ๒-๓ อย่าง คือ มาตรการทางการปกครองของรัฐ เป็นเรื่องทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เพราะมีการกระทำความผิด ถือเป็นการดำเนินการในมาตรการทางรัฐ ทางการปกครอง ในเรื่องที่สอง คือมาตรการทางสงฆ์ ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตาม พ.ร.บ.สงฆ์ ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคม (มส.) อยู่ระหว่างดำเนินการ ขออย่าหลงประเด็น"

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

       และ............“สำหรับขั้นตอนหลังมีการถอดสมณศักดิ์พระธัมมชโยออกไปแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของทางพระ ซึ่ง พศ.ได้ทำเรื่องชี้แจงหารือไปยัง มส. ก็เปรียบเหมือนส่งเรื่องให้ศาลพระ ในการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะมีขั้นตอนการอุทธรณ์และอะไรอีกหลายอย่าง แต่ถ้าตัวไม่ออกมาก็จะทำอะไรได้ ปัญหาอยู่ที่ตัวคนเท่านั้นเอง” ลองผู้นำบริหารประเทศ "พูดชัด" ขนาดนี้ ใครยังไม่เข้าใจ ไปเปิดวอยซ์ทีวีของเสี่ยโอ๊คดูบ่อยๆ ก็จะเข้าใจเอง!

 

       อย่าลืม...ผีบุญไชยบูลย์ ยังซุกคราบพระสงฆ์อยู่ สังคมทั่วไป ส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องพระ-เรื่องพุทธศาสนาฉาบฉวย เห็นคนไหน "หัวโล้น-ห่มเหลือง" ก็ทึกทักว่า...นี่พระ ไปทั้งหมด โดยไม่แยกแยะ เหมือนกองกำลังผีบุญที่ห่มเหลืองเย้วๆ กันอยู่กลางถนน-กลางตลาด นั่นก็เช่นกัน อาศัย "คราบพระ" ทำทุราจาร หยาบกร้าน ไม่ผิดโจร แต่ปากคาบคัมภีร์ พล่ามสวด เพราะได้ใจว่า ยังมีคนพวกหนึ่งยอมให้หลอกอยู่ และพล่ามตะโกน "รังแกพระ...รังแกพระ" ในภาพคนหัวโล้น ผ้าเหลืองคลุม

 

       เขาไม่พลั่กเขาให้ นั่นน่ะ "บุญผ้าเหลือง" คุ้มกระบาลโล้นเท่าไหร่แล้ว ยังไม่สำนึก! เพราะ "เครื่องแบบพระ" คุ้มครองเช่นนี้ดอก ตำรวจ-ดีเอสไอ จะใช้กำลังบุกเข้าค้น-เข้าจับ เหมือนเข้าจับโจรผู้ร้าย จึงทำไม่ได้สะดวก พูดชัดๆ ต้องอดกลั้น ด้วย "เห็นแก่ผ้าเหลือง" ทำรุนแรงไป ภาพที่ออกมา มันเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดของชาวโลก ที่ทึกทักความเป็นพระเอาจากผ้าเหลือง และนั่น ก็จะเข้าล็อกฝ่ายจ้องเอาเรื่องและภาพไปขยายผลว่า "ตำรวจกระทืบพระ" นำไปละเลง อ้างสิทธิมนุษยชนเป็นแรงหนุน

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

       เหตุนี้ รัฐบาลจึงต้องรัดกุม ไม่ทำแบบ "ถือดีในอำนาจ" พวกผีบุญจึงได้ใจ.........เอาเหลืองพันกายแสดงบทออกจอ หลอกคนไม่รู้เรื่องให้เข้าใจไปในทางว่า ฝ่ายบ้านเมืองรุกราน-รังแกพระ แต่ครั้งนี้ นายกฯ การ์ดไม่ตก บอกชัด ทำตามขั้นตอน ทั้งทางปกครองและทางสงฆ์ เอาล่ะ...เมื่อถอดสมณศักดิ์ "พระเทพญาณมหามุนี" จากสมีโยไปแล้ว เหลือแต่หัวตอ "พระไชยบูลย์ สุทธิผล" แล้วมาตรการต่อจากนี้ จะทำยังไง?

 

       นี่อาจเป็นคำถามคาใจ ก็ไม่ยากที่จะรู้ เพียงแต่นำประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องถอดสมณศักดิ์ เมื่อ ๕ มี.ค.๖๐ มาอ่านก็จะเข้าใจ ประเด็นหลักในประกาศ มีว่า.........๑.ถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีก หลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนี ไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว จึงไม่สมควรดํารงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป  ๒.ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๐

 

       ถอดรหัสตามประกาศ เป็นดังนี้.............

-มาตรการทางปกครอง พระไชยบูลย์ ต้องคดีอาญาหลายคดี แต่หลบหนี รวมทั้งคดียักยอก-ฟอกทรัพย์-รับของโจร ที่อัยการสั่งฟ้องแล้ว

-มาตรการทางสงฆ์ พระไชยบูลย์ เมื่อไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียกทั้งยังหลบหนีการจับกุม ไร้สำนึก ใส่ครกตำสักพันปี ก็ไม่มีซึ่งยางอาย ผิดวิสัยสงฆ์ จึงถูกถอดสมณศักดิ์

 

       เมื่อถูกถอดสมณศักดิ์ ด้วยเหตุผลดังกล่าว......ก็เป็นหน้าที่ของ ผอ.สำนักพุทธ "พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เรียกย่อๆ ว่า "เลขาฯ มส." จะต้องทำเรื่องบรรจุวาระประชุม มส.อันมี "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ เป็นองค์ประธาน มส.เพื่อพิจารณา

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

       พิจารณาด้านไหน? ก็ในด้านว่า การกระทำของพระไชยบูลย์ที่ต้องคดีอาญานั้นๆ เข้าข่ายผิดพระธรรมวินัยข้อไหนหรือไม่ ถ้าผิดพระวินัยขั้นครุกาบัติ คืออาบัติหนัก มีปาราชิก ๔ ข้อ นั่นต้องขาดจากความเป็นพระสถานเดียว กลับมาบวชอีกก็ไม่ได้ แต่ถ้าผิดขั้นลหุกาบัติ คืออาบัติเล็กๆ น้อยๆ สามารถปลงอาบัติได้ ไม่ขาดจากความเป็นพระ แต่เมื่อถึงขั้นมี "พระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน" จากมูลเหตุการทำผิดทางกฎหมายบ้านเมืองด้านอาญาดังประจักษ์

 

       ประกอบด้วยพฤติกรรมไม่เพียงละเมิดกฎหมาย ยังเป็นการละเมิดพระธรรมวินัยขั้นครุกาบัติชัดแจ้ง ทางกฎหมายบ้านเมือง ผู้นั้น จะผิดหรือไม่ "ยึดคดีถึงที่สุด" เป็นคำตอบ แต่ทางพระวินัย "ยึดเจตนา" แต่ชั้นมือแตะ เป็นตัวชี้ขาดว่าผิด-ไม่ผิด ในคดียักยอก-ฟอกทรัพย์-รับของโจร "เงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" ด้วย "เช็คเงินสด" ระบุชื่อผู้รับ "พระเทพญาณมหามุนี" อันเป็นหลักฐานชัดแจ้ง พระวินัยนั้น ข้อที่ ๒ ของอาบัติปาราชิก บอกว่า........

 

       "ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน คือการเอาทรัพย์สินของผู้อื่นในราคา ๕ มาสกขึ้นไป (๕ มาสก เท่ากับ ๑ บาท) มาเป็นของตน ก็ขาดจากความเป็นพระแล้ว แต่นี่...สมคบกับไวยาวัจกรวัด "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" ประธานสหกรณ์ฯ เอาเงินคนอื่นที่ฝากสหกรณ์มาเป็นของตน เป็นร้อย-เป็นพันล้าน ดังหลักฐานประจักษ์ ความผิดอาญา เป็นโทษตามกฎหมายบ้านเมือง กำลังถูกดำเนินการ

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

       ก็คราวนี้แหละ........สำนักพุทธต้องทำเรื่องเข้าที่ประชุม มส.เพื่อพิจารณาว่า พระไชยบูลย์ ในความผิดอาญา ด้วยมูลเงินนับร้อย-นับพันล้านบาทนั้น ต้องอาบัติปาราชิก ตามพระวินัย ขาดจากความเป็นพระแล้วหรือไม่? และการที่พระไชยบูลย์ ทำผิดพระวินัยเป็นอาจิณ เข้าข่ายต้องให้สึก คือให้พ้นจากความเป็นพระ ตามกฎมหาคณิสสร แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ หรือไม่?

 

       นี้คือ "มาตรการทางสงฆ์" ในขั้นต่อไป เพื่อความงามพร้อม และเพื่อ "มีคำตอบ" อธิบายให้สังคมที่สงสัย ได้เข้าใจตามขั้นตอนได้ว่า ไม่ใช่รัฐบาล คือฝ่ายบ้านเมือง ใช้อำนาจพลการ รังแกพระ...โค่นล้มธรรมกาย หากแต่ ในความเป็นพระ-เป็นวัด............"ศาลสงฆ์" โดยคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นผู้พิจารณาและตัดสินโทษพระไชยบูลย์ ตามพระวินัย และตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์เอง

 

       ส่วนทางการปกครองของรัฐ กับพระไชยบูลย์ เข้าจัดการเฉพาะด้านที่เป็นโทษอันระบุความผิดไว้ตามกฎหมายเท่านั้น!คงพอเข้าใจกันละมัง ฉะนั้น เมื่อดูตามเส้นทาง ถูกถอดสมณศักดิ์แล้ว ด้วยความผิดที่ถูกถอด เมื่อปรับตามพระวินัย ก็ตกในข้อปาราชิก ปรับตามกฎมหาคณิสสร ก็ตกในข้อทำผิดซ้ำซาก สิ่งที่เป็นไปแล้วตามพระวินัย พระไชยบูลย์ "เป็นปาราชิก" ขาดจากความเป็นพระ ตั้งแต่รับของโจร ในขณะ "จิตคิดเอา" แต่นั้นแล้ว

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

       สภาพทุกวันนี้ เหมือนเอาผ้าเหลืองคลุมตอไม้ ที่เห็นเหลืองๆ หัวโล้น หาใช่พระไม่ หากแต่เป็น "นายไชยบูลย์" ตาลยอดด้วน เพาะไม่งอกในพระพุทธศาสนาอีกต่อไปแล้ว! ส่วนที่เป็นไปตามกฎมหาคณิสสร ชัดเจนว่า ประกาศให้พระไชยบูลย์ "ขาดจากความเป็นพระ" อย่างที่เรียกว่า "จับสึกกลางอากาศ" ได้เลย

 

       การประกาศให้สมีโย พ้นจากความเป็นพระ.......นั่นเหมือนกองทัพที่ "แม่ทัพ" ถูกตัดหัว

       แล้วไพร่ราบ-พลเลวทั้งหลาย ยังจะมีอะไรให้รกมือ-รกเท้าอยู่อีก?

 

       ไอ้ "เหยินโล้น" ตลาดคลองหลวง

 

       .....มึงตายแน่!

มาตรการรัฐ-สงฆ์ ตราสังผีบุญ!!! “เปลว สีเงิน”ฟันธง“พระไชยบูลย์”ปาราชิกแล้ว จับตาถูกจับสึก เตือนไอ้“เหยินโล้น”ตลาดคลองหลวง....มึงตายแน่!

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์(http://www.thaipost.net/)