- 04 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กลายเป็นอีกหนึ่งพรรคที่เป็นที่จับตามืองในทันที หลังจากที่เมื่อวาน (3 มิถุนายน) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ทั้งนี้ตัดสินใจแล้วเดินเข้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง เผยอุดมการณ์ รักชาติรักแผ่นดิน เทิดทูนสถาบัน มุ่งมั่นปฏิรูปประเทศ พร้อมทั้งยืนยันไม่สมัคร ส.ส. ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง
ขณะเดียวกันในรายการเนชั่น เจาะข่าวร้อน ได้นำเสนอเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 61 ...ไม่ได้ผิดแปลกอะไรไปจากเดิม เพราะการกลับมาครั้งนี้ของนายสุเทพ และดูเหมือนว่าหลายคนมองว่านี่เป้นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ ??
แท้จริงแล้วสิ่งที่ออกมาไม่ใช่แบบนั้นเพราะการกับมาครั้งนี้ยังคงเน้นย้ำเดินหน้าสานต่องานทุกอย่างเพื่อประชาชน และเน้นย้ำว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง
.
.
.
สำหรับการเปิดตัวพรรครวมพลังประชาชาติไทย ชูนโนบายใหม่สร้างพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง และยังเน้นย้ำเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริยื สืบสานเจตนาการปฏิรูปถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ประมาณต้นเดือน ก.ย. เราจะมีการประชุมสมัชชา เพื่อให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศมีโอกาสโหวตว่าใครควรเป็นหัวหน้าพรรค ใครจะเป็นเลขาธิการพรรค แล้วยังมีข้อกำหนดของพรรคอีกว่า คนที่เป็นหัวหน้าพรรคไม่ใช่ผู้ผูกขาดอำนาจ ให้เป็น 2 ปี
ภายหลังการประชุมผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ได้มีการลงมติตั้งคณะทำงานทั้ง 5 ด้าน โดยที่ประชุมได้คัดเลือกให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) เป็นประธานคณะทำงานด้านรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรค โดยนายสุเทพ ได้ลุกขึ้นยืนสงบนิ่งก่อนจะร้องไห้สะอื้น พร้อมกล่าวว่า ตนนึกถึงประชาชนคนไทยที่เสียสละตัวเองเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินและใฝ่ฝันจะเห็นประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใฝ่ฝันเห็นคนทุกเชื้อชาติใช้ชีวิตร่วมกันอย่างรู้คุณค่าและจงรักภักดีต่อแผ่นดิน
ซึ่งคนไทยเหล่านั้นได้เสียสละออกเดินส่วนตัว เสียสละความสุข นอนกลางดินกินกลางถนน ถูกยิง ถูกขว้างระเบิด มีคนบาดเจ็บเป็นพันคนและเสียชีวิตอีกหลายสิบคน วันที่เราลุกขึ้นมาประกาศอุดมการณ์ที่จะสืบสานปณิธานของผู้เสียสละเหล่านั้น ซึ่งไม่ง่ายที่จะสร้างพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนที่แท้จริงในประเทศนี้ เพราะแค่เริ่มมีข่าวก็มีคนดูถูก ว่าจะมีประชาชนสักเท่าไหร่ที่จะมีน้ำยาพอสร้างพรรคการเมืองมาแข่งขันกับพรรคที่ยิ่งใหญ่และมีเงินทองมากมาย
ทั้งนี้ผมได้ระวังตัวมากเพราะเมื่อได้ตัดสินใจลาออกจากส.ส.มาร่วมต่อสู่กับประชาชน ก็ได้ประกาศชัดเจนไม่กลับไปเป็นนักการเมือง ส.ส. และไม่ต้องการตำแหน่งทางการเมืองอีกแล้ว แต่เมื่อพี่น้องร่วมอุดมการณ์มาบอกว่า จะตั้งพรรคการเมืองของประชาชน ผมรู้เลยว่าต้องเข้าร่วมกับพรรคนี้ และรู้เลยว่าผมอาจเป็นจุดด้อย จุดอ่อนของพรรคนี้ให้คนโจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ ที่บอกว่าจะไม่ยุ่งกับการเมืองอีก วันนี้ขอประกาศที่นี่ ผมไม่ใช่คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองนี้ แต่ผมจะยืนเคียงข้างประชาชนผู้มีอุดมการณ์ และไม่สนใจคำวิจารณ์ เพราะผมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่อาสาเป็นขี้ข้าของประชาชน
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง และผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาชาติไทย(รปช.) กล่าวเปิดการประชุมผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนพรรค ตอนหนึ่งว่า พรรครปช. ไม่ใช่พรรคการเมืองอีกพรรค เพราะไม่เช่นนั้นคนที่มีคุณภาพคงไม่มารวมกันแบบนี้ ซึ่งพรรคการเมืองในประเทศไทยมี 3 แบบ 1.แบบผู้นำทหารที่จำเป็นต้องมาทำการเมือง เช่น จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร 2.แบบพรรคทำธุรกิจการเมือง หรือที่เรียกแบบเลวร้ายสุดว่า ทุนสามานย์ ที่คนเหล่านี้ฉลาดรู้ว่าอะไรก็ไม่รวยเร็วเท่าทำพรรคการเมือง สุดท้าย3.แบบพรรคการเมืองที่ใฝ่ฝันเป็นนักการเมือง อยากเป็นรัฐมนตรี ซึ่งทุกแบบเป็นการเมืองท็อปดาว สั่งการจากข้างบนมีนายทุนพรรคกวาดต้อนคนเป็นมาเป็นส.ส. เพื่อเป็นรัฐบาล สนับสุนนขึ้นมาเป็นนายกฯ
.
นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ได้กล่าวถึงอุดมการณ์ของพรรค 7 ประการ คือ
1.เทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
2.ยึดมั่นในหลักธรรมาธิปไตย
3.พรรคการเมืองของประชาชนเพื่อประชาชน
4.มุ่งมั่นปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จ
5.รักชาติ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย
6.น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชาเป็นหลักในการพัฒนาประเทศ
7.ประเทศไทยต้องมีสิ่งแวดล้อมที่ดี สมดุล สมบูรณ์ยั่งยืน
ฉะนั้นเป็นที่น่าจับตามองถึงแนวทางของพรรคพลังประชาชาติไทย นั่นก็คือหมายถึง พรรคนี้หน้าจะเน้นเรื่องการปฏิรูป ชูเรื่องการปฏิรูป ...แต่จะไม่เชิดชูพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต้องจับตาดูการสนับสนุนของมวลชนและความสำเร็จจะเกิดขึ้นอย่างไรต่อไป
.
อ้งอิง รายการเนชั่น เจาะข่าวร้อน , เพจ ACT PARTY ,เพจ สุเทพ เทือกสุบรรณ